องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 736

ฉินเหยียนนั่งอยู่บนเวที เขายื่นมือไปอย่างไม่รู้ตัว มีนกสีสันงดงามบินมาหยุดลงตรงนิ้วมือของเขา และตั้งใจฟังเขาพูด บัดนี้ฉินเหยียนได้บรรลุขึ้นระดับที่ว่างเปล่าแล้ว วิญญาณทะยานขึ้นและไม่อาจควบคุมร่างกายได้เลย เขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เขาไม่อาจควบคุมร่างกายได้ วิญญาณหลุดออกจากร่าง และมองยอดเขาไป๋ลู่ลงมาราวกับพระผู้เป็นเจ้า เขาได้กล่าวคัมภีร์ลัทธิเต๋าออกมาเป็นข้อๆอย่างฉะฉานโดยไม่อาจควบคุมตนเองได้

ในขณะที่พูดอยู่ เขาก็ยังเห็นนกที่โบยบินเต็มท้องฟ้า และบินวนเวียนอยู่รอบกายเขาอย่างชัดเจน กลีบดอกไม้ปลิวไสวตามแรงลม ดอกไม้สีทองส่องแสงแวววาว

ฉินเหยียนอุทานว่า นี่คือฝูงนกแสวงหาบุญ ดอกบัวสีทองปรากฏ! คิดไม่ถึงเลยว่าชีวิตนี้เขาจะทำให้เกิดภาพอันสูงส่งเช่นนี้ได้! ดูท่าวันนี้เก๊กมากเกินไปแล้วจริงๆ!

ในขณะที่คิดอยู่ ก็มีผู้เล่าเรียนที่อยู่เบื้องล่างพูดอย่างตกตะลึงว่า “หลบไป หลบไปให้หมด!”

ทุกคนต่างพากันแหวกทางออกมา มีเงาสีขาวๆกระโดดผ่านเหนือศีรษะของทุกคนแล้วยืนอยู่บนหินตกแต่ง นั่นคือกวางซีกา สีร้องที่เต็มไปด้วยสิ่งปาฏิหาริย์ดังก้องไปทั่วยอดเขาไป๋ลู่

จ้าวเหวินเซิงเบิกตากว้าง เขาขาอ่อนทรุดลงกับพื้น แล้วชี้ไปยังกวางที่ยืนอยู่บนหินตกแต่งอย่างสั่นเทา

“กวาง กวางขาวปรา......ไม่สิ!”

มีผู้เล่าเรียนที่เข้าใจสถานการณ์แล้วพูดอย่างสลดว่า “ไม่ใช่กวางขาว นี่เป็นกวางซีกา”

จ้าวเหวินเซิงโล่งอกทันที คิดว่าเป็นกวางขาวเสียอีก โชคดีที่ไม่ใช่ เมื่อร้อยปีก่อนตอนที่ท่านผู้อาวุโสแห่งนักปราชญ์แห่งวรรณกรรมตรัสรู้เต๋าสวรรค์บนภูเขาไป๋ลู่ กลายเป็นนักปราชญ์แห่งวรรณกรรม ได้เกิดสิ่งอัศจรรย์ขึ้นสามประการ

ฝูงนกแสวงหาบุญ ดอกบัวสีทองปรากฏ กวางขาวปรากฏ ด้วยเหตุนี้ภูเขาไป๋ลู่จึงได้มีชื่อเช่นนี้ และเพราะท่านผู้อาวุโสได้ตรัสรู้ที่ภูเขาไป๋ลู่ สถานศึกษาไป๋ลู่จึงได้อยู่ยืนยาวมานานถึงเพียงนี้

อาณาจักรหลู่แตกต่างจากอาณาจักรอื่นๆในเก้าแคว้น ไป๋ลู่คือสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์ หรือก็หมายความว่า หากกวางขาวปรากฏ ผู้ที่ได้สัมผัสกวางขาวเป็นคนแรกจะเป็นฮ่องเต้แห่งอาณาจักรหลู่คนถัดไปอย่างแน่นอน

เหล่าผู้เล่าเรียนพากันถกเถียงอย่างตื่นเต้น

“สิ่งอัศจรรย์ทั้งสามได้ปรากฏขึ้นแล้ว แม้ว่าจะไม่มีกวางขาวปรากฏออกมา ไม่อาจสืบทอดบัลลังก์ได้ แต่ก็สามารถพูดได้เลยว่าเฉิงอาหนิวคือนักปราชญ์แห่งวรรณกรรม!”

จ้าวเหวินเซิงได้ยินเช่นนั้นสีหน้าก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที

“พวกเจ้าจะไปเข้าใจอะไร ต่อให้สิ่งอัศจรรย์จะปรากฏขึ้น แต่ก็หมายความว่าเขาแค่มีคุณสมบัติของนักปราชญ์แห่งวรรณกรรม แต่เขาไม่ได้รับพรจากกวางขาว เขาไม่มีทางได้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งวรรณกรรมของอาณาจักรหลู่อีกแล้ว!”

ทุกคนเองก็เข้าใจถึงความแตกต่างของการมีและไม่มีกวางขาว

นักปราชญ์แห่งวรรณกรรมปรากฏ หากได้รับพรจากกวางขาวด้วย เฉิงอาหนิวก็จะเป็นฮ่องเต้คนถัดไปของอาณาจักรหลู่ นี่คือกฎระเบียบของอาณาจักรหลู่ ไม่มีผู้ใดที่สามารถแก้ไขได้

และในขณะที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันไม่หยุด กวางซีกาก็กระโดดลงมาจากหินตกแต่ง มันเหยียบดอกบัวสีทองแล้วเชิดหน้าแอ่นอกขึ้น จากนั้นก็เดินไปหาฉินเหยียน

เสียงของเหล่าผู้เล่าเรียนดังสนั่นทั่วฟ้า แต่จ้าวเหวินเซิงกลับพูดไม่ออกเลยแม้แต่คำเดียว เขาปากสั่นไปหมด และคิดในใจว่า จบแล้ว จบแล้วจริงๆ!

ก่อนหน้านี้ก็มีการบันทึกเอาไว้แล้วว่าท่านผู้อาวุโสแห่งนักปราชญ์แห่งวรรณกรรมมีกวางขาวคอยเคียงข้าง และครอบครองพราชสำนัก สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวรรณกรรมแห่งอาณาจักรหลู่นับร้อยปี

แต่บัดนี้เฉิงอาหนิวกล่าวคำสอนแล้วยังทำให้กำเนิดกวางขาวอีก แถมแม่กวางยังมอบลูกกวางให้เฉิงอาหนิวเลี้ยงดู นี่คือแนวคิดที่แตกต่างกันอย่างมาก

ตำแหน่งที่เคยเป็นของผู้อาวุโส มีผู้สืบทอดคนใหม่ปรากฏขึ้นแล้ว เกรงว่าในอนาคตอันใกล้นี้ อาณาจักรหลู่จะต้องเปลี่ยนราชวงศ์เสียแล้ว!

เดิมทีคิดว่าการกล่าวเทศน์ของเหล่าผู้เล่าเรียนบนภูเขาไป๋ลู่จะเป็นเพียงการเรียกน้ำย่อย ไม่คิดเลยว่าจะเป็นลางที่ทำให้เกิดนักปราชญ์แห่งวรรณกรรมได้

ทุกคนตกตะลึงจนอ้าปากค้าง จ้าวเหวินเซิงรู้สึกว่าขนลุกไปหมด มีเพียงเขาที่รู้ว่าเฉิงอาหนิวคือคนอาณาจักรฉิน!

คนอาณาจักรฉินมีนักปราชญ์แห่งวรรณกรรมปรากฏ จะทำอย่างไรดี?

ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง จ้าวเหวินเซิงก็รีบตัดสินใจทันทีและเขียนสาส์นเกี่ยวกับเรื่องที่นักปราชญ์แห่งวรรณกรรมปรากฏแล้วกราบทูลไป และออกคำสั่งว่า

“รีบใช้ม้าเร็วส่งไปยังพระราชสำนัก ฝูงนกแสวงบุญ ดอกบัวสีทองปรากฏ กวางขาวปรากฏ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบส่งไปอย่างรวดเร็วที่สุด ไป!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์