องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 744

หลังจากที่จ้าวเหวินเซิงเดินจากไป ทุกคนบนเวทีต่างพากันครุ่นคิด สายตาของเขาจับจ้องไปที่นักปราชญ์จิ่วเหลียน เฉิงอาหนิว

มีคนเข้าไปหาฉินเหยียนและถามอย่างระมัดระวัง

“ท่านนักปราชญ์ ท่านคิดวิธีออกแล้วหรือยังขอรับ?”

ฉินเหยียนเม้มปากแล้วพูดอย่างตรงไปตรงมา

“หากข้ามี ข้าจะบอกพวกเจ้าหรือ?”

พูดจบก็โบกมือลาแล้วเดินจากไป

หยางจิ่นซิ่วและเซี่ยชิงเดินตามไปทันที เถาซงจือเดินติดตามไปเงียบๆ

ทุกคนบนเวทีตะโกนเสียงดังจากข้างหลัง

“ท่านนักปราชญ์ หากท่านต้องการแสดงกลให้พวกข้าดู ได้โปรดแสงดให้ข้าเห็นเถิด ข้าจะคอยติดตามท่าน!”

“ท่านนักปราชญ์จิ่วเหลียน! ข้าเต็มใจทำงานเพื่อท่าน ได้โปรดแสดงให้ข้าดูเถิด!”

พวกเขาพูดเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ฉินเหยียนทำอะไรไม่ถูก เขาหันหน้ากลับไปและเห็นว่าคนเหล่านั้นกำลังมองเขาด้วยความตื่นเต้น

ฉินเหยียนมองไปที่เถาซงจือและถามด้วยความสับสนว่า

“เหตุใดพวกเขาถึงรียกข้าว่านักปราชญ์จิ่วเหลียน?”

เถาซงจือประสานมือรายงานกลับว่า

“มีบางอย่างที่ท่านยังไม่รู้ ในอาณาจักรหลู่ การเรียกคนอื่นว่า นักปราชญ์เป็นชื่อเรียกที่ให้เกียรติคนๆ นั้น อีกทั้งยังเป็นการแสดงความเคารพต่อท่าน”

“บรรพบุรุษในสมัยนั้นทำให้ดอกบัวทองทั้งสามดอกบานได้ ก็ถูกเรียกว่านักปราชญ์ซานเหลียน ในเมื่อท่านสามารถทำให้ดอกบัวทองคำทั้งเก้าดอกบานได้ จึงถูกเรียกว่านักปราชญ์จิ่วเหลียนขอรับ”

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินเหยียนได้ยินวิธีการเรียกชื่อเช่นนี้ ถือเป็นการบอกว่าคนอาณาจักรหลู่ยึดถือในกฎเกณฑ์เป็นอย่างมาก เขาหัวเราะและพูดออกมาว่า

“ช่างน่าสนใจจริงๆ”

เถาซงจือรีบเดินไปยังลานเล็กและปิดประตูทันที

หลังจากที่เข้าไปในบ้านแล้ว

ฉินเหยียนนั่งลงบนเก้าอี้ จับคางอย่างครุ่นคิด

จ้าวเหวินเซิง ชายคนนี้รู้จักวิธีทำให้คนอื่นลำบากเสียจริง

ในยุคแห่งการคิดย้อนกลับ คำถามทั้งสามข้อนี้ หากเป็นคนทั่วไปแล้วต้องคิดว่าเป็นเรื่องยากพอๆ กับขึ้นไปบนสวรรค์

แต่คำถามสามข้อนี้สำหรับคนในสตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดที่ทะลุมิติมาเช่นเขาแล้ว คำถามทั้งสามข้อนี้ง่ายมาก

เขามีกำลังใจขึ้นมาทันที ยิ้มอย่างมั่นใจ ออกคำสั่งว่า

“นำสมบัติทั้งสี่มาให้ข้า”

“ขอรับ”

เดิมทีหยางจิ่นซิ่วกำลังเตรียมมาให้แล้ว ไม่คิดว่าเถาซงจือจะเร็วกว่านางไปหนึ่งก้าว เขารีบวางพู่กัน หมึก กระดาษและหินหมึกอย่างระมัดระวัง

หยางจิ่นซิ่วกอดอกมองไปที่เถาซงจือและพูดเสียงต่ำ

“ช่างเป็นผู้ติดตามที่มีความสามารถจริงเชียว”

ฉินเหยียนจุ่มพู่กันลงในหมึก เขาพลางออกคำสั่ง

“เซี่ยชิง หลังจากที่ข้าเขียนจดหมายฉบับนี้เสร็จ เจ้ารีบนำไปให้เฉิงเซิน ให้เขาติดต่อหลินเย้าจู่ และส่งของที่ข้าระบุไว้ในจดหมายมาให้เร็วที่สุด”

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็พับจดหมายและส่งให้เซี่ยชิง

เซี่ยชิงรับจดหมายและรับคำสั่งทันที

“เจ้าค่ะ ข้าจะรีบไปจัดการ”

“นอกจากนี้แจ้งแม่ทัพสือด้วยว่ากองกำลังทหารในเขตชายแดนอาณาจักรหลู่ หากเกิดปัญหาในอาณาจักรหลู่ รีบส่งกองกำลังออกไปทันที เราต้องแน่ใจว่าอ๋องเหยียนปลอดภัย”

“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะรีบไปจัดการ”

หลี่ชางกราบทูลลา รีบส่งจดหมายไปให้หลินเย้าจู่ทันที

...

อีกด้านหนึ่ง

ภูเขาเทพเผิงหลาย

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซือหม่าจี๋นำเรื่องที่เขาได้ทำความรู้จักกับเฉิงอาหนิวเล่าให้ผู้อาวุโสฟัง

หากคิดว่าผู้อาวุโสไม่เบื่อที่จะฟัง แต่เขาพูดจนหมดแล้ว

อีกอย่างในช่วงเวลานี้สำนักไป่เสี่ยวเซิงแห่งอาณาจักรหลู่มีข้อมูลรายงานมาไม่หยุด ผู้อาวุโสใช้เบาะแสร่องรอย รวบรวมแหล่งข้อมูลทั้งหมดบอกความจริงที่เลวร้ายว่า

“จากที่ข้าสังเกต เฉิงอาหนิวอาจจะไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเขา ตัวตนที่แท้จริงของเขาน่าจะเป็นอ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉิน!”

เมื่อพูดประโยคนี้ออกไป ซือหม่าจี๋รู้สึกงุนงง เขาพูดด้วยความไม่เชื่อว่า

“อ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉิน! เป็นไปไม่ได้หรอกขอรับ?”

น้ำเสียงของผู้อาวุโสฟังไม่ออกว่ากำลังโกรธหรืออย่างไร เขาพูดต่อว่า

“มีความเป็นไปได้สูง แต่ยังไม่ได้สรุปขั้นสุดท้าย ตัวตนของชายคนนี้ต้องตรวจสอบอีกครั้ง เจ้าควรไปที่ราชสำนักและแอบส่งคนติดตามเฉิงอาหนิวเพื่อหาตัวตนที่แท้จริงของเขา”

ซือหม่าจี๋สมองไม่อาจตอบโต้กลับได้ การคาดเดาของผู้อาวุโสส่งผลกระทบต่อการประมวลผลเขาของอย่างมาก

“ศิษย์เอ๋ย เจ้ารีบไปจัดการเถิด”

หลังจากสงบสติอารมณ์ เขาขอลาและรีบไปยังราชสำนักทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์