องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 743

แต้เดิมมีเพียงแค่สี่ห้าคนเท่านั้นที่ลงสมัครลูกเขยในครั้งนี้ แต่หลังจากที่เฉิงอาหนิวปรากฎตัว ทำให้คนที่ต้องการใช้ตระกูลจ้าวเป็นบันไดก้าวขึ้นไปนั้นต่างลงสมัครด้วยเช่นกัน

ในทางกลับกัน ตระกูลขุนนางที่ไม่เคยเปิดรับสมัครลูกเขยมาก่อน เพื่อที่จะประจบประแจงนักปราชญ์ เขาจึงทำตรงข้ามกับวัตถุประสงค์ ตามฉินเหยียนเดินขึ้นเวทีด้วย

จุดประสงค์ของเขานั้นง่ายมาก เขาจะได้คุยโวกับคนในจิ่วโจวว่าเขาแย่งผู้หญิงมาจากนักปราชญ์ได้

บนเวที

ลูกชายของตระกูลขุนนางรวมตัวรอบๆ ตัวฉินเหยียน และนำตัวเองอย่างประจบประแจง

“ท่านนักปราชญ์ ข้าเป็นลูกชายคนโตของตระกูลหวัง แห่งเมืองไป๋ลู่ ข้าหวังว่าท่านนักปราชญ์จะสอนความรู้ให้แก่ข้า!”

“ท่านพ่อข้าเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเป่ยไห่ มีรับสั่งให้ข้าร่วมงานคัดเลือกนี้ ข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากทีได้ร่วมการคัดเลือกนี้กับท่าน”

นักเรียนแต่ละคนแนะนำตัว ทุกคนพยายามตีสนิทกับนักปราชญ์คนใหม่

ฉินเหยียนได้แต่ด่าในใจ เหตุผลคนพวกนี้ถึงน่ารำคาญเหมือนแมลงวันเช่นนี้นะ น่ารำคาญมาก!”

ณ ขณะนี้

จ้าวเหวินเซิงปรากฎตัวขึ้นช้าๆ เขาเดินไปที่เวที เมื่อเชาเห็นภาพคนที่เข้ามาสมัครลูกเขยที่ด้านล่าง เขาพลันรู้สึกสับสนในทันที

“เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดคนถึงเยอะเช่นนี้?”

ไม่น่าแปลกใจที่เขารู้สึกประหลาดใจ ในสนามมีคนเยอะมาก มองไม่เห็นนักปราชญ์เฉิงอาหนิวเลยแม้แต่น้อย

จ้าวเหวินเซิงมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันที ตะโกนออกไปอย่างดุดันว่า

“ข้าแค่สมัครลูกเขย พวกเจ้าเป็นใครมาจากที่ใดกัน?”

ทุกคนที่ด้านล่างเวทีประสานมือตอบกลับว่า

“พวกเรามาที่นี่เพื่อลงสมัครเป็นลูกเขยของตระกูลเจ้าขอรับ!”

พูดออกไปเช่นนั้น แต่สิ่งที่คนเหล่านี้คิดในใจนั่นคือ ประการแรกเอาไว้คุยโม้โอ้อวดในอนาคต ประการที่สอง ในการแข่งขันเขาจะได้ทำให้เฉิงอาหนิวพอใจ ขายตัวเองให้เขาได้เห็น

อย่างไรก็ตามเขาและนักปราชญ์เกิดมาในยุคเดียวกัน นี้เป็นโอกาสที่สวรรค์ได้ประทาน ต้องทำอย่างเต็มที่

จ้าวเหวินเซิงมีสีหน้าสิ้นหวัง เขามองออกว่าคนพวกนี้คิดอะไรอยู่

แต่เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่แล้ว เขาเองก็ไม่สามารถไล่คนเหล่านี้ไปได้

“ในเมื่อทุกท่านมาเข้าร่วมรับสมัครลูกเขยในครั้งนี้ วันนี้ข้าจะอธิบายกฎของการรับสมัคร ขอเพียงแค่พวกเจ้าตอบคำถามทั้งหมดของข้าได้ เช่นนั้นก็สามารถแต่งงานกับจ้าวจือหย่าลูกสาวของข้าได้”

ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกมา ทั้งลานเต็มไปด้วยคำซุบซิบ

“เช่นนั้นพวกเรามาดูกันว่า ท่านคณบดีจ้าวจะถามคำถามอะไร”

“ถ้าเขาถามคำถามง่ายไป เราควรถ่อมตัวหรือไม่”

“พวกเรารอดูเถิด”

ฉินเหยียนเองก็สงสัยเช่นกันว่าชายชราผู้นี้จะเล่นอุบายอันใด

จ้าวเหวินเซิงมองไปที่เฉิงอาหนิวด้วยสีหน้าที่อ่านไม่ออก เขาตบมือสองครั้ง

“แปะๆ”

“ฟึ่บๆๆ”

ถัดจากเวทีไป มีม้วนหนังสือขนาดใหญ่สามม้วนถูกกางลงมา มีตัวอักษรใหญ่สี่ตัวเขียนบนแต่ละม้วน

“หากเราเชิญเทพเซียนมาได้ ยังทำไม่ได้เลย!”

“คำถามนี้ไม่มีทางแก้ได้เลย!”

เด็กนักเรียนพูดขัดขึ้นอีกครั้ง

“ทุกคนเงียบ! คำถามสุดท้าย คนสามารถบินได้หมาบความว่า ต่างหาวิธีให้บินขึ้นไปบนฟ้าได้ เช่นนั้นจะถือว่าผ่านการคัดเลือก”

หลังจากอธิบายทั้งสามคำถามนี้แล้ว ทุกคนบนเวทีโกรธมาก

“เดิมทีข้าคิดอยากจะถ่อมตัว แต่คำถามไร้สาระให้พระอาทิตย์และพระจันทร์ขึ้นสลับทิศ ให้น้ำไหลย้อนกลับได้ ทั้งยังให้คนบินได้อีก นี่มันเกิดความสามารถของมนุษย์แล้ว!”

“ถูกต้อง ใครทำได้ คงเป็นเรื่องเกินจริงแล้ว!”

“ตระกูลจ้าวคิดถี่ถ้วนแล้วหรือ ลูกสาวเจ้าสภาพแย่ขนาดนั้น ยังกล้าถามคำถามเช่นนี้ เช่นนั้นให้ลูกสาวเจ้าตกอยู่ในมือเจ้าต่อไปเถิด!”

“ใครว่าไม่ใช่ กล้าจัดงานรับสมัครลูกเขยหลอกๆ เช่นนี้ หาเรื่องใส่ตัวชัดๆ!”

เสียงด่าเหน็บแนมดังขึ้น สีหน้าของจ้าวเหวินเซิงไม่พอใจทันที โบกมือปัด

“คนที่พูดจาไร้สาระจะถูกตัดสิทธิ์!”

คนด้านล่างชี้ไปที่จ้าวเหวินเซิงทั้งด่าและสาปแช่งไม่หยุด ก่อนที่คนของตระกูลจ้าวจะพาตัวเขาลงไป

จ้าวเหวินเซิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ตระกูลจ้าวของข้าเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด คนที่มีความสามารถจะได้รับการยอมรับ ใครก็ตามที่ทำได้ถือว่าได้ หากทำไม่ได้ก็ออกไป ทั้งสามคำถามนี้ไม่มีกำหนดเวลา หากต้องการเข้ามาเป้ฯส่วนหนึ่งของตระกูลข้า เจ้าต้องศึกษามัน!”

หลังจากพูดเช่นนี้ เขาก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์