ราชสำนักอาณาจักรหลู่
ฮ่องเต้หลู่รู้ว่าเฉิงอาหนิวทำให้น้ำไหลย้อนกลับได้ ทั้งทำให้ตกใจและทำให้สงสัย
“เขาทำให้น้ำไหลย้อนกลับได้จริงๆ หรือ?”
บรรดาขุนนางรีบยืนยัน
“ฝ่าบาท นี่เป็นเรื่องจริงพ่ะย่ะค่ะ บรรดาประชาชนต่างพูดถึงเรื่องนี้ทั้งวันทั้งคืน เล่าต่อกันไปทั่วเมืองพ่ะย่ะค่ะ!”
“มีคนเห็นด้วยตาตนเองว่าเพียงแค่นักปราชญ์จิ่วเหลียนออกคำสั่ง ท้องฟ้าพลันมีฝนตกหนัก เขาโบกมือไปทิศทางใด เม็ดฝนก็ตกมาตามทิศทางนั้น!”
“ฝ่าบาท นักวิชาการในสำนักไป๋เสี่ยวเซิงเองก็เห็นเช่นกัน อีกทั้งยังมีรายงานเขียนรายงานเรื่องนี้ไม่ต่ำกว่าสิบรายงานพ่ะย่ะค่ะ!”
“ฝ่าบาท กระหม่อมได้ยินมาว่านักปราชญ์จิ่วเหลียนเรียกลมและฝนได้ มีเสียงฟ้าร้องและฝนหยุดตกในทันที ช่างน่าทึ่งจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ!”
ได้ยินบรรดาขุนนางรายงานเรื่องนี้ ฮ่องเต้หลู่พลันีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น
...
หากถือเสียว่าข่าวลือด้านนอกเป็นเรื่องจริงเพียงแค่ครึ่งหนึ่ง แต่ก็ถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่ลือกันขึ้นมาลอยๆ
เขาเริ่มสงสัยในใจว่าเฉิงอาหนิวมีพลังเหนือธรรมชาติจริงๆ หรือ?
ตระกูลขุนนางในราชสำนักยังคงพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ไม่มีที่สิ้นสุด ฮ่องเต้หลู่ปวดหัวหนัก ไม่อาจตัดสินใจได้ไปพักหนึ่ง ถามด้วยเสียงต่ำว่า
“ท่านผู้อาวุโสรู้เรื่องนี้หรือไม่?”
...
ภูเขาเทพเผิงหลาย
ซือหม่าจี๋รีบเดินทางมาจากเมืองไป๋ลู่ และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ท่านผู้อาวุโสฟังถึงสิ่งที่เขาเห็นเฉิงอาหนิวสามารถควบคุมทิศทางการไหลของน้ำด้วยตาของเขาเอง
หลังจากได้ยินเช่นนั้น ท่านผู้อาวุโสพลันตกใจ แม้ว่าเขาไม่สามารถทำให้น้ำไหลย้อนกลับได้ แต่เฉิงอาหนิวทำได้ นั่นทำให้ใต้หล้านี้มีมุมมองใหม่ๆ ขึ้นมา
แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ถามอย่างสงสัยว่า
“เหตุใดเขาถึงต้องทำเช่นนี้?”
ท่านผู้อาวุโสคิดในใจ
อาณาจักรหลู่ติดทะเล หากเฉิงอาหนิวทำให้น้ำไหลย้อนกลับได้ล่ะก็หรือว่าเขาต้องการทำให้อาณาจักรหลู่เกิดภัยพิบัติน้ำท่วม?
ขณะที่คิดเขา เขาพลันได้ยินซือหม่าจี๋ตอบกลับมาว่า
“กราบทูลรายงานท่านผู้อาวุโส เรื่องนี้มาจากเฉิงอาหนิวเข้าสมัครคัดเลือกลูกเขยของตระกูลจ้าว จ้าวเหวินเซิงคิดใช้โอกาสนี้ยืดเวลา จึงถามคำถามสามข้อที่ยากเป็นพิเศษ”
“คำถามสามข้อนั้นมีคำถามใดบ้าง?”
“ให้น้ำไหลย้อนกลับ กลางวันสลับกับกลางคืน ให้คนบินได้”
เมื่อได้ยินคำถามทั้งสามข้อนั้น ท่านผุ้อาวุโสถึงกับอ้าปากค้าง ตาแก่จ้าวเหวินเซิงนี่ช่างคิดเสียจริง
ซือหม่าจี๋พูดต่อ
“ในตอนแรกข้าคิดว่าคำถามทั้งสามข้อนี้คงไม่มีใครตอบได้ คงทำให้เฉิงอาหนิวทำอะไรไม่ถูก แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะไขปัญหาได้อย่างง่ายดาย”
ท่านผู้อาวุโสนั้นคิดเอาไว้แล้วว่าเฉิงอาหนิวไม่ใช่คนธรรมดา แต่เขาไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะมีพลังเหนือธรรมชาติเช่นนี้ เขาจึงใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ถามออกไปว่า
“หลายวันมานี้เขากำลังวางแผนทำอะไรอยู่?”
เฉิงเซิงจงใจทำเป็นอุบเรื่องสำคัญเอาไว้ และแสร้งตอบกลับอย่างลึกลับว่า
“ท่านอ๋องพูดว่าเรื่องนี้เป็นความลับ รอให้ทุกอย่างพร้อมเสียก่อน เจ้าจะได้เข้าใจว่าหลอดไฟนั้นเอาไว้ใช้ทำอะไร”
แม้ว่าเถาซงจือจะอยากรู้อยากเห็น แต่เขาไม่กล้าขัดคำพูดของท่านนักปราชญ์จิ่วเหลียน เขาจึงไม่ได้ถามต่อ เพียงแค่รอเห็นประโยชน์ของหลอดไฟ
...
สามวันต่อมา
ทั้งลานบ้าน ผนังทุกด้านถูกประดับประดาไปด้วยหลอดไฟ
เนื่องจากสายไฟที่เชื่อมหลอดไฟนั้นต่อกันอย่างหนาแน่น ฉินเหยียนจึงสั่งให้คนงานขุดสนามหญ้าขึ้นและนำสายไฟที่ซ้อนกันวางไว้ใต้ดิน
ฉินเหยียนเข้าไปตรวจงาน มีเฉิงเซินรายงานอยู่ข้างกายว่า
“ท่านอ๋อง หลอดไฟทั้งหมดหนึ่งพันดวงได้เชื่อมสายไฟเข้าด้วยกันแล้ว เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนโดยมนุษย์ก็พร้อมแล้ว ได้โปรดตรวจสอบดูพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินเหยียนมองไปรอบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว เขายิ้มอย่างภูมิใจ
“ไม่เลว ทุกอย่างพร้อมแล้ว ขาดแต่ลมบูรพาเท่านั้น”
เขาหันไปหาเถาซงจือแล้วสั่งว่า
“เจ้ารีบไปส่งคำเชิญ บอกว่าข้าจะจัดงานเลี้ยงที่นี่ในคืนนี้ และข้าจะไขปัญหาข้อที่สองของคณบดีจ้าว”
“ขอรับ!”
เถาซงจือมีสีหน้าตื่นเต้น เขาก็รีบไปจัดการเพื่อเชื้อเชิญจ้าวเหวินเซิงทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...