แม่เล้าพูดต่ออีกว่า “ครั้งที่สองอาณาจักรจะทำการสมรสเพื่อนสันติภาพ อาณาจักรจ้าวต้องการใช้การสมรสยังหน้า เพื่อทำให้ภายในอาณาจักรฉินเกิดการแตกแยกกันโดยไม่ต้องใช้ทหารเลยสักนาย”
จ้าวจือหย่ารู้ว่าการสมรสคือกลอุบาย แต่ก็คิดไม่ถึงว่าอาณาจักรจ้าวจะทะเยอทะยานมากขนาดนี้ โชคดีที่มีฉินเหยียนจึงได้รอดครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้แผนการของอาณาจักรจ้าวสูญเปล่า นางรู้สึกนับถือฉินเหยียนขึ้นมาก
บัดนี้เสนาบดีกรมอาญาเองก็เหงื่อตก ฐานที่มั่นของอาณาจักรจ้าวที่ใหญ่มากขนาดนี้ เขาเป็นถึงเสนาบดีกรมอาญาแต่กลับไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด หากแผนการของอาณาจักรจ้าวสำเร็จจริง งั้นเขาต้องเป็นคนแรกที่ถูกตัดศีรษะแน่นอน แค่คิดก็รู้สึกหวาดผวาแล้ว
องค์หญิงสามจ้าวจีเอ๋อร์ขัดขืนและตะโกนเสียงดังว่า “เจ้าคนทรยศที่ขายชาติเพื่อเอาตัวรอด! อาณาจักรจ้าวไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”
แม่เล้าตกใจจนสะดุ้งโหยง แต่เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ เรื่องอาณาจักรนั้นเอาไว้ก่อน นางพูดต่อโดยไม่สนใจการห้ามของจ้าวจีเอ๋อร์ “ในตอนที่พวกข้ายังอยู่ที่ฐานที่มั่น เพียงแต่ข้าไม่รู้สถานที่แน่นอน แต่ทุกวันจะมีการส่งสารและรับสารกับหน่วยลับ จะแสร้งทำเป็นแขกที่มาส่งจดหมายลับ”
จุดนี้ก็อยู่ในการคาดเดาของฉินเหยียนเช่นกัน ในเมื่ออาณาจักรจ้าวยอมสละมากมายเพื่อฝึกฝนหน่วยกล้าตายมามากขนาดนี้ เช่นนั้นก็ไม่มีทางมีฐานที่มั่นที่เดียว จึงได้ฉวยโอกาสถามขึ้นว่า
“หน่วยลับที่จะมาส่งสารจะมาเมื่อไร?”
แม่เล้าตอบตามความจริงว่า “เวลาส่งสารไม่แน่นอน แต่การสวมใส่ชุดของพวกเขาแยกออกง่ายมาก”
จ้าวจีเอ๋อร์ด่าทอไม่หยุด เสียงของนางดังขึ้นเรื่อยๆ “ข้าจะเอาชีวิตของเจ้า! เจ้าคนลืมบุญคุณ คนทรยศ! ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่......”
ฉินเหยียนรำคาญเสียงโวยวายอย่างมาก เขาโบกมือเพื่อให้ทหารอุดปากของนางไว้ให้เงียบ ทหารเข้าใจทันที และได้หยิบผ้าเช็ดบนโต๊ะบนชั้นมายัดปากของนางเอาไว้
“อึก! อือ......” จ้าวจีเอ๋อร์ยังคงขัดขืน แต่ไม่อาจส่งเสียงออกมาได้ ทันใดนั้นทุกอย่างก็สงบลงมากเลยทีเดียว
ฉินเหยียนถามต่อว่า “พวกเขาจะสวมชุดอย่างไร?”
แม่เล้ากลืนน้ำลายแล้วพูดว่า “บนศีรษะของพวกเขาจะคลุมผ้าเอาไว้ บนนั้นจะปักตัวอักษรสามเอาไว้ โดยจะหมายถึงองค์หญิงสาม ข้ารู้เพียงเท่านี้”
ฉินเหยียนเห็นว่าแม่เล้าไม่ได้หลบสายตา จึงรู้ว่านางไม่ได้โกหก เขาจึงโบกมือแล้วให้ทหารปล่อยมือจากนาง
“เจ้าเป็นคนฉลาด ข้าจะทำตามที่พูด จะไว้ชีวิตเจ้า พานางไปทำแผลซะ”
“พ่ะย่ะค่ะ”
แม่เล้าอึ้งไป คิดไม่ถึงว่าฉินเหยียนจะทำแผลให้นางด้วย นางขอบพระทัยด้วยน้ำตา “ขอบพระทัยที่ไว้ชีวิตเพคะ!”
จ้าวจือหย่าที่ยืนอยู่ด้านหลังของฉินเหยียนถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า “นางสมควรได้รับโทษ เหตุใดจึงทำแผลให้นาง”
ฉินเหยียนยิ้มแล้วพูดว่า “คนผู้นี้ยังสามารถใช้งานได้ ภายหลังเจ้าจะรู้เอง”
จ้าวจือหย่าหยักหน้าและไม่คิดจะถามอะไรเพิ่มอีก
ไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ฉินเหยียนก็ขมวดคิ้วแล้วยกดาบขึ้นฟันลงไป
“ตุบ!” ศีรษะของบริกรหลุดออกจากร่างกายทันที
“กรี๊ด!” เหล่า หญิงโคมเขียวตะโกนร้องเสียงดังด้วยความผวา พวกนางร้องอ้าปากกว้าง
ศีรษะของบริกรกลิ้งไปไกลราวกับลูกบอล คนที่อยู่ใกล้ยังเห็นว่าศีรษะที่ถูกตัดนั้นยังคงกะพริบตาอยู่ พวกเขาเหล่านั้นตกใจกลัวจนอึราดฉี่ราดกันหมด
เลือกของบริกรที่พุ่งออกมากระเด็นโดนใบหน้าขององค์ชายใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างฉินเหยียน จนทำให้เขาตกใจกลัวไม่อย่าขยับ นั่งอึ้งไปทั้งๆแบบนั้น แม้แต่เสนาบดีกรมอาญาก็คิดไม่ถึงว่าองค์ชายสิบสี่จะฆ่าได้เด็ดขาดเช่นนี้
จ้าวจือหย่าปิดตาลงด้วยความตกใจกลัว ไม่กล้ามอง
ส่วนฉินเหยียนเช็ดเลือดที่กระเด็นเข้าหน้าออก แล้วพูดอย่างผ่อนคลายว่า “โห นี่ศีรษะหลุดแล้วทำให้เป็นแผลใหญ่จริงๆด้วยนะเนี่ย”
ในขณะที่เขาพูดก็ได้ใช้ศอกสะกิดองค์ชายใหญ่ไปด้วย เพื่อให้เขาดู
องค์ชายใหญ่ฉินชงตกใจกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ฉินเหยียนพูดอะไรไปเขาก็เอาแต่พยักหน้าอย่างด้านชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...