วันถัดมา
การลงชื่อสมัครติดต่อกันยาวเป็นหลายวัน แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้นก็ยังมีคนมาไม่ขาดสาย แต่เนื่องจากวันพรุ่งนี้เป็นวันสมรสแล้ว ทางสำนักผู้ศักดิ์สิทธิ์จึงต้องหยุดการรับสมัครศิษย์เพียงเท่านี้ก่อน
คนที่ไม่ทันได้สมัครพูดถึงอย่างกังวลว่า “ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์คงไม่ได้ปิดรับศิษย์แล้วหรอกนะ?”
“เราคงไม่ได้มาเสียเที่ยวหรอกนะ?”
“หากไม่ได้เป็นศิษย์ของท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ข้าก็นอนตายตาไม่หลับ!”
เถาซงจืออธิบายอย่างใจเย็นว่า “ทุกท่านไม่ต้องห่วงไป เมื่อสิ้นสุดงานสมรสของท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ในวันพรุ่งนี้แล้ว จะทำการรับศิษย์ต่อ!”
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็ใจเย็นลงมา เพื่อไม่ให้รบกวนงานสมรสครั้งใหญ่ของท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์เก้าดอกบัว พวกเขาจึงได้พากันออกจากเขาไป ก่อนจะไปมีบางคนที่ซุบซิบกันว่า
“ไม่รู้เพราะเหตุใดท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์เก้าดอกบัวจึงคิดไม่ได้นะ การเป็นเขยแต่งเข้านั้นไม่ง่ายเลยนะ”
“นั่นสิ ด้วยระเบียบของอาณาจักรหลู่แล้ว เขยแต่งเข้าจะต้องผ่านการทดสอบเก้าอย่าง หากไม่ผ่านแม้แต่อย่างเดียวก็ต้องอับอาย พรุ่งนี้ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์คงต้องเหนื่อยแน่!”
คำพูดเหล่านี้ไปถึงหูของเหล่าปิ่นหิรัญย์ พวกนางโกรธจนกระทืบเท้า และพูดอย่างไม่พอใจว่า
“การเป็นเขยแต่งเข้าของอาณาจักรหลู่มีระเบียบมากเกินไปแล้ว!”
“นั่นสิ ข้าได้ยินไม่สบอารมณ์เสียเลย ท่านอ๋องจะทนได้อย่างไรกัน!”
“เราไปรายงานท่านอ๋องกันเลยดีกว่า ให้ท่านอ๋องสู่ขอด้วยฐานะอ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉิน ดูสิว่าใครจะกล้าทำให้ท่านต้องลำบาก!”
“ไปกัน!”
ในห้อง
หลิวเชียนเชียนกำลังรายงานการเตรียมงานสมรสให้แก่ฉินเหยียนอยู่
“ท่านอ๋องเพคะ โปรดตรวจดูขั้นตอนในวันแต่งงานด้วยเพคะ”
ในขณะที่ฉินเหยียนรับมาอ่านอย่างตั้งใจ สิบสองปิ่นหิรัญย์ก็รีบพุ่งเข้ามาเบื้องหน้าของฉินเหยียน และได้รายงานเกี่ยวกับเรื่องซุบซิบที่พวกนางได้ยินมาให้ทั้งหมด แต่เมื่อฉินเหยียนฟังแล้วก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก เขาพูดเสียงเรียบว่า
“เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ไม่เป็นไร”
สิบสองปิ่นหิรัญย์ไม่รู้ว่าอ๋องเหยียนคิดอย่างไร ต่างก็พากันพูดว่า
เหล่าสิบสองปิ่นหิรัญย์สบตากันแล้วฟังอ๋องเหยียนพูดต่อว่า
“เหล่าลูกศิษย์จะรู้สึกไม่พอใจ และรู้สึกไม่เป็นธรรมแทนข้า ดังนั้นข้าจะสามารถใช้โอกาสนี้ชี้แนะพวกเขาได้ ให้พวกเขาได้คิดไตร่ตรองว่าประเพณีเช่นนี้มันถูกหรือผิด เมื่อพวกเขาตระหนักได้แล้วก็จะสามารถกำจัดสิ่งไม่ดีเหล่านี้ไปได้อย่างสิ้นเชิง”
เมื่อเหล่าสิบสองปิ่นหิรัญย์ได้ยินแล้วก็เข้าใจความหมายของอ๋องเหยียนทันที
อย่าว่าแต่ลูกศิษย์เหล่านั้นเห็นแล้วจะเดือดดาลรึไม่เลย พวกนางสิบสองปิ่นหิรัญย์นั้นไม่ต้องการให้อ๋องเหยียนต้องประสบความลำบากเลยแม้แต่น้อย ต่างก็ประสานมือคารวะเสนอว่า
“วางใจเถิดเพคะท่านอ๋อง ตราบใดที่เราสิบสองคนคุ้มกันท่าน ก็จะไม่ยอมให้ท่านต้องประสบความลำบากแม้แต่น้อยเพคะ!”
ฉินเหยียนพูดอย่างหนักแน่นว่า “ไม่ว่าอย่างไรก็จะรับมือให้ได้ทั้งหมด ไม่มีใครสามารถห้ามไม่ให้ข้าสู่ขอจ้าวจือหย่าได้!”
วางแผนมาตั้งนานก็เพื่อพิธีสมรสในวันพรุ่งนี้ ต่อให้จะต้องบุกน้ำลุยไฟ ฉินเหยียนก็ไม่หวั่นแม้แต่น้อย เพราะนี่คือคำสัญญาที่เขาได้ให้กับจ้าวจือหย่าเอาไว้
จากนั้น ฉินเหยียนก็ได้ออกคำสั่งเกี่ยวกับเรื่องในงานสมรส แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไป
แม้ว่าจะเตรียมมามากพอแล้ว แต่หลิวเชียนเชียนก็ยังไม่วางใจ นางได้ย้ำเตือนกับหลิวหรูซือและเหล่าสิบสองปิ่นหิรัญย์อีกครั้ง ว่าวันพรุ่งนี้จะต้องคุ้มครองท่านอ๋องเอาไว้ให้ดี ห้ามเกิดอุบัติเหตุใดๆเป็นอันขาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...