ในขณะเดียวกัน ณ ภูเขาไป๋ลู่
ทั่วทั้งยอดเขาเต็มไปด้วยสินสอดของหมั้น ลานกว้างของตระกูลจ้าว อบอวลไปด้วยบรรยากาศที่น่ายินดีและมีชีวิตชีวา จ้าวจือหย่ากำลังพูดคุยกับท่านพ่อในห้อง
จ้าวจือหย่าพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉยว่า “ท่านพ่อเจ้าคะ ดำเนินการเช่นนี้จะดีรึเจ้าคะ เขาเป็นถึง......อ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉินนะเพคะ ทำให้เขาอับอายเช่นนี้ ไม่กลัวว่าจะทำให้เขาโกรธแล้วกระทำเรื่องร้ายแรงรึเจ้าคะ! ”
แม้แต่จ้าวจือหย่าที่เห็นขั้นตอนพิธีงานสมรสในวันพรุ่งนี้แล้ว ก็ยังรับไม่ได้
จ้าวเหวินเซิงพูดอย่างจริงจังว่า “อยากจะแต่งเข้าตระกูลจ้าว ก็ต้องเชื่อฟังตระกูลจ้าว ทุกอย่างปฏิบัติตามประเพณีของอาณาจักรหลู่ อ๋องเหยียนแห่งอาณาจักรฉินต้องการจะสู่ขอเจ้าด้วยใจจริงรึไม่ ก็ขึ้นอยู่กับวันพรุ่งนี้แล้ว”
......
วันรุ่งขึ้น ในวันพิธีสมรส
ท้องฟ้าเพิ่งจะค่อยๆสว่างขึ้นก็มีคนล้อมอยู่นอกที่พักเต็มไปหมด ไม่มีใครอยากพลาดโอกาสได้เห็นวันสำคัญที่ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์เก้าดอกบัวแต่งเข้าตระกูลจ้าว จากด้านนอกที่พักไปจนถึงสถานศึกษาไป๋ ลู่ทั้งถนนเต็มไปด้วยผู้คน ล้วนเป็นคนที่มาดูความตื่นตาตื่นใจ
ขณะนี้ฉินเหยียนได้สวมชุดแต่งงานแล้ว ตรงหน้าอกยังมีดอกไม้ดอกใหญ่ด้วย เตรียมออกเดินทางได้ทุกเมื่อ เพราะเป็นเขยแต่งเข้าจึงต้องทำตามระเบียบของอาณาจักรหลู่
ฉินเหยียนจะต้องทำตามสิ่งที่ตระกูลจ้าวจัดแจงเอาไว้ โดยต้องใช้ความสามารถของตนเองให้ผ่านด่านไปจนถึงเรือนหอ จะเดินเข้าไปหรือคุกเข่าเข้าไปนั้น ก็ไม่รู้แล้วล่ะ
ตระกูลจ้าวได้ส่งซีผอมารับ นางรออยู่ในที่พักแล้ว เมื่อเห็นว่าฉินเหยียนเดินออกมาแล้วจึงพูดอย่างยิ้มแย้มว่า
“ด้วยระเบียบของอาณาจักรหลู่ของเรา เขยแต่งเข้าไม่มีสิทธิ์นั่งเกวียนใดๆ จะต้องเดินเท้าไปจนถึงบ้านตระกูลฝ่ายหญิง”
ฉินเหยียนรู้อยู่แล้วจึงพูดอย่างใจกว้างว่า “ไม่เป็นไร เชิญนำทาง”
ซีผอคำนวณเวลาแล้วพูดเสียงดังว่า “ถึงยามมงคลแล้ว เชิญเจ้าบ่าวออกเดินทางได้!”
ฉินเหยียนก้าวเดินออกจากที่พักอย่างเกรงขาม โดยมีหยางจิ่นซิ่วและเซี่ยชิงคอยคุ้มครองอยู่สองข้างอย่างระมัดระวัง และมีหลิวเชียนเชียน หลิวหรูซือ รวมถึงเหล่าสิบสองปิ่นหิรัญย์ที่คอยประกบฉินเหยียนไม่ห่าง สุดท้ายมีเฉิงเซินและเถาซงจือเดินปิดท้ายขบวน
......
ในขณะเดียวกัน ณ นอกที่พัก
เหล่าคนที่ซื่อสัตย์อยากจะคอยติดตามท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ วางแผนจะพยายามกันสักตั้งในตอนที่ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นภูเขาไป๋ลู่ เพื่อให้ท่านรู้ถึงความลำบากแล้วถอยไป ถอดใจเรื่องการจะเป็นเขยแต่งเข้าอย่างสิ้นเชิง เพราะในอาณาจักรหลู่ ด่านแรกที่เขยแต่งเข้าจะต้องผ่าน นั่นคือการละทิ้งศักดิ์ศรีของตนเอง ยอมรับคำด่าทอและความดูถูกของทุกคน
ในระหว่างทางมีผู้คนนับไม่ถ้วนที่ด่าทอท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์เก้าดอกบัวอย่างบ้าคลั่ง
เดิมทีพวกเขาก็ไม่อยากทำเช่นนี้ แต่เพื่อให้ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ถอยไป และรู้สึกคิดผิดที่ตัดสินใจเป็นเขยแต่งเข้า รู้ว่านี่คือการตัดสินใจที่ผิดพลาด ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องทำเช่นนี้
หากท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ทนความอับอายไม่ได้แล้วเกิดกลับคำตอนนี้ก็ยังทัน และสมปรารถนาคนเหล่านี้ด้วย ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจะโยนทุกอย่างที่มี ด่าทุกอย่างที่คิดได้ เลือกคำพูดที่หยาบคายที่สุด
แต่ฉินเหยียนกลับไม่หวั่นไหวเลย เขายังคงเดินต่อไปโดยมีสิบสองปิ่นหิรัญย์คอยคุ้มครอง จนกระทั่งเดินผ่านถนนเส้นหนึ่ง และผ่านด่านที่หนึ่งเรียบร้อย จนมาถึงด่านที่สอง ทุกคนจึงค่อยๆหยุดเยาะเย้ยและด่าทอ
มีหลายคนที่ส่ายหน้าพูดอย่างสลดว่า
“เราห้ามกันขนาดนี้ยังห้ามท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์เก้าดอกบัวไม่ได้ เอาไม้มาวางขวางทางเดินของเขยแต่งเข้าที หมดทางจะเยียวยาแล้ว!”
“เมื่อก่อนก็เคยได้เห็นเขยแต่งเข้าถูกเหยียดหยามอยู่หรอกนะ แต่ก็แค่พูดไม่กี่คำตามประเพณี เพิ่งจะเคยเห็นครั้งที่ใหญ่ขนาดนี้เลยนะเนี่ย”
สิบสองปิ่นหิรัญย์เก็บร่ม บนร่มถูกขยะโยนใส่เต็มไปหมด แม้แต่ทางด้านหลังก็เป็นขยะจนหมด
ฉินเหยียนถามด้วยสีหน้าสุขุมว่า “ข้าผ่านด่านที่หนึ่งแล้ว ด่านที่สองคืออะไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...