องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 800

ฮ่องเต้ฉินไม่ได้สติไปหลายวัน เหล่าหมอหลวงต่างก็ทำอะไรไม่ถูก

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ได้ออกคำสั่งต่อผู้ใต้บังคับบัญชาในตำหนักอ๋องเหยียน ให้เชิญหมอมากมายมาทำการรับษาอย่างเป็นความลับที่หมู่บ้านซิ่งฮวา หนึ่งในนั้นก็มีลูกของหมอซี ซีจือหลางด้วย

บัดนี้ซีจือหลางได้นำซุปยาสมุนไพรให้กับหมอหลวง เมื่อหมอหลวงตรวจสอบเรียบร้อยแล้วไม่มีพิษ จึงได้ยกเข้าไปด้านใน

“รายงานพ่ะย่ะค่ะพระสนมฉี กระหม่อมได้ตรวจสอบซุปโสมเม็ดเก๋ากี๊เรียบร้อยแล้ว สามารถให้ฝ่าบาทเสวยได้พ่ะย่ะค่ะ”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์รับซุปมาแล้วชักขึ้นช้อนหนึ่งแล้วเป่า จากนั้นยื่นไปข้างริมฝีปากของฮ่องเต้ฉินเพื่อให้เขาทาน เมื่อทานไปครึ่งชามสีหน้าของฮ่องเต้ฉินก็มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อทานไปหมดชามแล้วฮ่องเต้ฉินก็ไอเล็กน้อย

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์รีบวางชามลงแล้วยื่นมือไปลูบหน้าอกให้ฮ่องเต้ฉิน เพื่อให้เขาหายใจคล่องขึ้น

ฮ่องเต้ฉินพยายามลืมตาขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆอย่างสับสน แล้วถามขึ้นอย่างอ่อนเพลียว่า

“ลูกชายของข้าจะมาเมื่อไร?”

เมื่อฉีเยี่ยนเอ๋อร์เห็นว่าฮ่องเต้ฉินฟื้นแล้วก้รู้สึกดีใจมาก แต่เมื่อได้ยินฮ่องเต้ฉินถามว่าอ๋องเหยียนจะกลับมาเมื่อไรนั้น ความดีใจของนางก็มอดไหม้ไป

อ๋องเหยียนอยู่อาณาจักรหลู่ ระยะเวลาการส่งจดหมายไปที่อาณาจักรหลู่ รวมถึงระยะเวลาการเดินทางกลับนั้น หากไม่ถึงหนึ่งเดือนไม่มีทางกลับมาถึง

รวมถึงขณะนี้อ๋องเหยียนก็มีเรื่องราวมากมาย นางไม่อยากให้การเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ของอ๋องเหยียน จึงได้อดกลั้นเอาไว้แล้วปลอบโยนว่า

“ฝ่าบาทอย่าใจร้อนไปเลยเพคะ ไม่ช้าอ๋องเหยียนก็จะกลับมาถึงเพคะ”

เมื่อสิ้นเสียงโบกมือให้หมอหลวงที่อยู่ข้างๆ

หมอหลวงเข้าใจทันที เขาเดินไปตรวจสอบชีพจรของฮ่องเต้ฉิน เมื่อตรวจสอบแล้วหมอหลวงก็สีหน้าหนักใจ เขาลุกขึ้นแล้วรายงานเสียงเบาว่า

“รายงานพ่ะย่ะค่ะพระสนมฉี แม้ว่าฝ่าบาทจะฟื้นแล้ว แต่สถานการณ์ก็ยังไม่สู้ดีนักพ่ะย่ะค่ะ ซุปโสมเม็ดเก๋ากี๊เพียงแค่ทำให้ชีพจรคงที่ได้ แต่ไม่อาจรักษาโรคได้”

“โปรดประทานอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ สิ่งที่ฝ่าบาทเป็นคือโรคทางใจ โรคทางใจก็ต้องใช้ยารักษาทางใจ ผู้ที่สามารถรักษาได้ก็ต้องเป็นผู้ที่เป็นต้นเหตุ หากอ๋องเหยียนยังไม่เสด็จกลับมา เกรงว่าต่อให้ต้าหลัวจินเซียนมาก็ไม่อาจรักษาฝ่าบาทได้พ่ะย่ะค่ะ”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์เข้าใจดี แต่เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน นางจึงต้องคอยควบคุมสถานการณ์เอาไว้ก่อน จึงได้ออกคำสั่งว่า

“เจ้าคอยดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีอะไรให้รีบรายงานข้าทันที”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วก็เดินออกมาทันที

เหล่าหมอทุกคนต่างก็พากันประสานมือคารวะต่อฉีเยี่ยนเอ๋อร์

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ยืนหยุดตรงหน้าของหมอซีจือหลางแล้วพูดเสียงเรียบว่า

“ยาของเจ้าได้ผล มันช่วยได้สำเร็จ ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นหมอหลวงระดับสี่ คนอื่นที่มีส่วนช่วยเองก็แต่งตั้งเป็นระดับสี่ รีบกลับเมืองหลวงไปรับตำแหน่งที่สถาบันแพทย์หลวง”

เรื่องดีๆเช่นนี้ทำให้ซีจือหลวงและเหล่าหมอคนอื่นๆตกตะลึงอย่างมาก เมื่อได้สติก็รีบคุกเข่าลงแล้วขอบพระทัยพระสนมฉี

“ขอบพระทัยในความเมตตาพ่ะย่ะค่ะพระสนมฉี!”

เมื่อได้ยินดังนั้นชายหนุ่มก็ขนหัวลุกทันที เขาพูดติดอ่างว่า “นะ นี่มันโทษประหารเชียวนะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะปลอมตัวเป็นอ๋องเหยียนได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์คิดแผนนี้ขึ้นก็เพราะจนปัญญาแล้ว นางไม่อาจทำให้อ๋องเหยียนกลับมาได้ จึงต้องหาคนที่มีความคล้ายกับอ๋องเหยียนมาหลอกฮ่องเต้ฉิน หวังว่าเขาจะเชื่อ

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วจึงต้องฝืนต่อไป นางขู่ว่า “เงียบซะ! หากเจ้าถูกจับได้ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”

ว่าแล้วก็เอามีดออกมาจี้เอวของชายหนุ่ม บีบบังคับให้เขาเดินต่อไป

ชายหนุ่มรู้สึกถึงความคมที่จี้อยู่ตรงเอว เขาตกใจกลัวจนเหงื่อตก แต่ก็ทำได้เพียงฝืนเดินต่อไป

เมื่อทั้งสองเดินตามกันเข้ามาด้านในแล้วก็เดินมาข้างที่นอนของฮ่องเต้ฉิน

ฮ่องเต้ฉินพยายามหันหน้าไปมองลูกชายลำดับที่สิบสี่ที่เขาเฝ้าคิดถึงทุกคืนที่ข้างที่นอน ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกไม่พอใจแล้วจ้องมองเขม็งพร้อมถามขึ้นว่า

“เจ้าเป็นใคร?”

บัดนี้ชายหนุ่มตกใจกลัวจนยืนตรงไม่กล้าขยับเลย

ฉีเยี่ยนเอ๋อร์ฝืนยิ้มอย่างลำบากแล้วประสานมือคารวะพูดว่า “ฝ่าบาท อ๋องเหยียนกลับมาแล้วเพคะ เขามาเยี่ยมแล้ว”

แต่ฮ่องเต้ฉินกลับทำท่าทางไม่สบอารมณ์แล้วถามอย่างเข้มงวดว่า

“เจ้าเป็นใครกันแน่!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์