องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 821

สถานศึกษาไป๋ลู่

หลังจากได้รับการรักษาจากหมอ จ้าวจือหย่าได้สติกลับมาแล้ว แต่จิตใจของนางดำดิ่งมาก

ฉินเหยียนนั่งอยู่บนเตียง กอดนางเอาไว้แน่น ปลอบโยนนาง

“เป็นความผิดของข้าเอง ที่ให้เจ้าช่วยลงบันทึกค่าใช้จ่ายในหัวถิง ทำให้เจ้าต้องเหนื่อยล้า”

ในเวลานี้ความทรงจำในอดีตของจ้าวจือหย่าที่มีต่อฉินเหยียนได้กลับมาแล้ว และในเวลาเดียวกัน นางพลันจำเรื่องบนเรือที่โจรสลัดปล้นขึ้นมาได้ และทำให้ลูกสาววัยทารกของนางหายตัวไป

แต่เดิมนางคิดว่าลูกสาวคงถูกพวกโจรสลัดฆ่าและตายไปตั้งแต่บนเรือลำนั้น แต่ระหว่างทางที่นางเดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัว นางเห็นเด็กตัวเล็กๆ นอนหลับบนหลังชายแขนข้างเดียว

นางมีลางสังหรณ์ที่ชัดเจนมาก แม้ว่านางจะอธิบายออกมาได้ แต่นางเชื่อมั่นว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนั้นเป็นลูกของนาง

ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ ใจนางพลันสั่น ขมวดคิ้วแน่น น้ำตาไหลออกมา ร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเจ็บปวด

“พวกเรามีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน นางยังไม่ตาย ข้าเจอนางแล้ว!”

หลิวเชียนเชียนบอกเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่างในวันนั้นให้เขาทราบแล้ว แม้ว่าลูกสาวจะไม่ตายด้วยน้ำมือของโจรสลัด แต่ก็ไม่อาจรอดตายจากไฟไหม้บนเรือได้ ฉินเหยียนจึงไม่เชื่อเมื่อจ้าวจือหย่าบอกว่านางเจอลูกสาวของตน

เมื่อคิดว่าจ้าวจือหย่าป่วยเพราะทำงานหนักเกินไป ทำให้อาการเจ็บป่วยเก่าๆ เริ่มฟื้นคืน ทำให้เพ้อจนไม่ได้สติ เขาพูดออกไปอย่างเป็นทุกข์ว่า

“อย่าคิดมากเลย ข้าและเจ้ายังหนุ่มยังสาว ในอนาคตเราต้องมีลูกแน่นอน พวกเรามามีลูกด้วยกันเยอะๆ นะ”

ขณะที่เขาพูด เขาเช็ดน้ำตาให้จ้าวจือหย่าอย่างอ่อนโยน ทำให้นางคิดกับตัวเองว่า หรือว่านางเข้าใจผิดจริงๆ หรือ?

ฉินเหยียนกังวลว่าจ้าวจือหย่าจะป่วยหนักกว่าเดิม จึงรีบอธิบายว่า

“เรายังไม่ได้ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ด้วยกันเลย ตอนนี้หัวถิงก็พัฒนาไปมากแล้ว เราใช้โอกาสนี้พาเจ้าไปพักผ่อนเสียดีกว่า”

“พวกเราเป็นสามีภรรยา ไปสำรวจอาณาจักรหลู่ ชมวิวทิวทัศน์ของที่นี่กัน เพื่อเราจะได้มีลูกด้วยกันอีกคน”

ข้าวจือหย่าเองก็เสียใจที่เห็นฉินเหยียนกังวล อีกอย่างนางอาจจะได้เจอเด็กผู้หญิงคนนั้นอีกระหว่างการเดินทาง นางจึงตอบรับข้อเสนอของฉินเหยียน

...

อีกด้านหนึ่ง

ในเวลานี้เฉียนเชียนอี้เดินทางมาถึงหัวถิงด้วยการปลอมตัวเป็นนักเดินทาง

เขาวางแผนที่จะหาร้านอาหารสบายๆ เพื่อสัมผัสบรรยากาศในหัวถิง

แต่หลังจากเดินไปบนถนนสองสาย เขาพบว่าสถานที่ทานอาหารนั้นล้วนเรียกว่าหอหม่านฮวา ทำให้เขาตกใจและพึมพำออกมาว่า

“หอหม่านฮวาเปิดที่นี่ด้วยหรือ?”

ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่แล้ว เขาต้องรู้ให้ได้ว่าหอหม่านฮวาเป็นอย่างไร

เฉียนเชียนอี้เดินเข้าไปในหอ มองไปรอบๆ พบว่าเต็มไปด้วยผู้ชายมาทานอาหาร และในหอมีแต่หญิงงามมาคอยปรนนิบัติ

หากมองย้อนกลับไปที่รูปแบบธุรกิจ หอหม่านฮวาเป็นเรื่องใหม่สำหรับอาณาจักรจริงๆ

ที่หอหม่านฮวา ทานอาหารไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นเพียงแค่อาหารง่ายๆ แต่ถ้ายอมจ่ายเงินจะได้รับการบริการที่ดีกว่า

“นั่งพูดคุยมีหลายแบบเจ้าค่ะ ทั้งนั่งอยู่กับท่านทั้งวัน ร้องเพลงให้ท่านฟัง ไปเที่ยวกับท่าน นวดให้ท่าน หนึ่งวันหนึ่งพันตำลึงเจ้าค่ะ”

เฉียนเชียนอี้พยักหน้าอย่างเข้าใจ

“ที่แท้ก็แบบเช่นนี้นี่เอง”

ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาหาเฉียนเชียนอี้และถามด้วยน้ำเสียงประจบประแจง

“แล้วท่านต้องการรับบริการแบบใดดีเจ้าคะ?”

เฉียนเชียนอี้ถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อรักษาระยะ และปฏิเสธพร้อมสายตาดูถูก

“ไม่ล่ะ ชั้นต่ำแบบนี้ข้ารับไม่ได้”

แม้ว่าเขาอายุเกือบจะหกสิบปีแล้ว แต่เขาเป็นถึงอัครมหาเสนาบดีแห่งอาณาจักร เป็นนักวิชาการที่ยิ่งใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องผู้หญิง เขามีมานับไม่ถ้วนแล้ว แต่ผู้หญิงชั้นต่ำแบบนี้ ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลย

ตอนที่เขาเตรียมจะเดินออกไป หริวหรูซือที่แต่งตัวชุดกระโปรงสีชมพูก้าวเข้ามาหาเขาแล้วพูดว่า

“ใต้เท้าเฉียน ไม่เจอกันเสียนานนะเจ้าคะ”

เฉียนเชียนอี้มองใกล้ๆ และหัวเราะออกมา

“โอ้ นี่ขุนนางหลิว เลขานุการในหอประวัติศาสตร์นี่เอง!”

“ในปีนั้น ตอนที่เจ้าปลอมตัวเป็นผู้ชายเข้าทำงานในราชสำนัก ข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนมีพรรสวรรค์ที่หายาก ข้าคิดอยากรับเจ้าเป็นศิษย์ แต่ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะทรยศและแทงข้างหลังราชสำนักอย่างเจ็บแสบเช่นนี้!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์