หลิวหรูซือรู้อยู่แล้วว่าเฉียนเชียนอี้จะต้องตอบเช่นนี้ เพื่อที่จะให้เขาติดกับเธอ นางตอบกลับอย่างใจกว้างว่า
“ในชีวิตหนึ่งได้พบเจอคนหลายพันคน บางคนเป็นแค่คนพบเพื่อเพียงผ่าน แต่บางคนกลับเป็นดั่งเพื่อนสนิท ข้าและใต้เท้าเฉียนต่างมีเรื่องราวมาด้วยกัน ข้าช่วยท่านจ่ายค่าสมาชิกได้เจ้าค่ะ”
ขณะที่พูด นางหยิบเข็มกลัดทองออกมา และอธิบายว่า
“พวกเราในหอหม่านฮวา สมาชิกระดับทองทุกคนต้องติดเข็มกลัดนี้เพื่อแสดงถึงระดับของลูกค้า ข้าจะมอบเข็มกลัดนี้ให้ท่าน และท่านจะเป็นสมาชิกของเรานับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
หลังจากพูดเช่นนั้น นางติดเข็มกลัดทองไปที่หน้าอกของเฉียนเชียนอี้ทันที
เฉียนเชียนอี้ก้มลงมองเข็มกลัดทองแวววับที่หน้าอก เมื่อคิดว่าหลังจากนี้จะได้พูดคุยเรื่องบทกวีและวรรณกรรมกับหลิวหรูซืออีก เขาพลันมีสีหน้าสดใสและกล่าวขอบคุณทันที
“เช่นนั้นข้าต้องเคารพและเชื่อฟังคำสั่งของเจ้าแล้ว ขอบคุณแม่นางหลิวสำหรับเข็มกลัด”
หลิวหรูซือยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า
“ใต้เท้าเฉียน ท่านไม่ต้องเกรงใจข้ามากขนาดนี้หรอกเจ้าค่ะ ข้ารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการยอมรับจากนักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่เช่นท่าน”
เฉียนเชียนอี้รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เขาคิดว่าหลิวหรูซือประทับใจในความสามารถของตนจริงๆ จึงใช้โอกาสนี้ถามออกไปว่า
“ไม่ทราบว่าสมาชิกระดับขุนนาง นอกจากบริการด้านพูดคุยเรื่องบทกวีแล้วยังมีบริการด้านอื่นอีกหรือไม่?”
หลิวหรูซือยิ้มไม่พูดอะไร แต่กลับตบมือสองครั้งแทน
“แปะๆ”
สิบสองปิ่นหิรัญย์เข้ามาในห้องทีละคน พวกนางโค้งคำนับให้เฉียนเชียนอี้ด้วยความเคารพ
“ยินดีที่ได้พบใต้เท้าเฉียนเจ้าค่ะ”
หลิวหรูซือแนะนำทันที
“สิบสองปิ่นหิรัญย์เป็นสัญลักษณ์ของหอหม่านฮวา พวกนางมีความสามารถด้านวรรณกรรม หากใต้เท้าเฉียนชอบ สามารถพูดคุยกับพวกนางได้ตลอดเวลาเจ้าค่ะ”
เฉียนเชียนอี้เคยได้ยินชื่อสิบสองปิ่นหิรัญย์มาบ้าง เพราะพวกนางทั้งสิบสองได้สร้างความวุ่นวายแห่งโลกวรรณกรรมในอาณาจักรหลู่มาก่อนแล้ว ทำให้ชายชาตรีในอาณาจักรต่างต้องอับอาย เขาจึงรู้สึกไม่ชอบใจพวกนางเล็กน้อย จึงปฏิเสธไปอย่างสุภาพว่า
“ความสามารถด้านวรรณกรรมของพวกนางด้อยกว่าเจ้ามาก ข้าได้พิสูจน์มาก่อนหน้านั้นแล้ว หากข้าต้องพูดคุยเรื่องลัทธิต่างๆ ข้าคุยกับเจ้าเสียดีกว่า”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นสิบสองปิ่นหิรัญย์ไม่กล้าแสดงท่าทีไม่พอใจ หลิวหรูซือรีบเข้ามาจัดการทันที
“แม้ว่าความสามารถด้านวรรณกรรมของพวกนางจะไม่เท่าข้า แต่ก็มากพอสำหรับคนทั่วไปนะเจ้าคะ ความรู้ของใต้เท้าเฉียนนั้นกว้างใหญ่ดั่งมหาสมุทร มีน้อยคนนักที่จะมีความรู้ตรงกับท่าน”
คำเยินยอนี้ทำให้เฉียนเชียนอี้มีความสุขจนหัวเราะออกมา
“นอกจากพวกนี้แล้ว ยังมีอย่างอื่นอีกหรือไม่?”
คำพูดนี้มีความหมายแฝง และหลิวเชียนเชียนเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเขาหมายคามว่าอย่างไร เพื่อให้แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่น เพื่อให้อ๋องเหยียนรวบรวมจิ่วโจวเข้าด้วยกัน นางต้องทนกับคำพูดน่ารังเกียจของเขาและแสร้งยิ้มไปว่า
“แน่นอนว่ายังมีอย่างอื่นอีกเจ้าค่ะ รับรองว่าท่าจะต้องพอใจ ได้โปรดตามข้ามา”
หลังจากพูดเช่นนั้น ก็พาเฉียนเชียนอี้มาที่ห้องด้านใน
สิบสองปิ่นหิรัญย์ออกจากห้องอย่างรู้งาน หลังจากนั้นปิดประตูพวกนางรู้สึกว่าความกดดันรอบตัวนั้นหายไปแล้ว ถอนหายใจยาวออกมา
“เห็นสายตาของตาแก่คนนั้นหรือไม่ ราวกับว่ามองไม่เห็นพวกเราอย่างไรอย่างนั้น!”
“ข้ากลัวมากจนไม่กล้ามองเขาเสียด้วยซ้ำ!”
“ข้ายังกลัวอยู่เช่นกัน ได้แต่ภาวนาให้อ่องเหยียนกลับมาไวๆ!”
“เป็นบทกวีที่ไพเราะมาก!”
นางหยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กออกมาเขียนบทกวีที่ฉินเหยียนเพิ่งพูดจบลงไปในทันที
ฉินเหยียนงุนงงเล็กน้อย ทำให้เขานึกภาพที่เขาเจอจ้าวจือหย่าครั้งแรกขึ้นมา
จ้าวจือหย่าในตอนนั้นชอบและหลงใหลในบทกลอนของเขา ทำให้นางยอมติดตามเขา อีกทั้งวยังจดบันทึกบทกลอนลงในสมุดเล่มเล็กทุกครั้งที่เขาพูด
ต่อมาเขาติดกับความวุ่นวายของตระกูล อีกทั้งจ้าวจือหย่าต้องหนีออกมาจากคุก พวกเขาถูกแยกจากกันมานานหลายปี
ฉินเหยียนมองไปที่จ้าวจือหย่าที่กำลังจดบันทึกอย่างระมัดระวัง หลังจากผ่านไปหลายปี การกระทำที่คุ้นเคยนี้วนกลับมาให้เห็นอีกครั้ง ทำให้ใจของเขารู้สึกอบอุ่นขึ้น อดไม่ได้ที่จะเข้าไปกอดจ้าวจือหย่าจากด้านหลัง
จ้าวจือหย่าพูดอย่างเขินอาย
“กลางวันแสกทำเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าค่ะ เดี๋ยวใครเห็นเข้า”
ฉินเหยียนโน้มตัวเข้าไปกระซิบใกล้หูนาง
“ทิวทัศน์จะสวยงามขนาดนี้ พวกเรามามีลูกด้วยกันเถอะนะ”
จ้าวจือหย่ามีสีหน้าลำบากใจ พยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดของฉินเหยียน
“ยังไม่ดึกเลยนะเจ้าคะ”
ฉินเหยียนดึงจ้าวจือหย่าเข้ามาแล้วพูดอย่างกดดันว่า
“ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน เจ้าและข้าต่างเกิดมาจากฟ้าและผืนดินนี้ ใช้ท้องฟ้าเป็นผ้าห่มเสียแล้วกัน ให้ผืนดินเป็นเตียง พวกเรามามีความสุขกันเถิดคนงามของข้า!”
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็กดจ้าวจือหย่าลงบนเรือทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...