องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 867

อาณาจักรหลู่

ระยะนี้ทั่วทั้งอาณาจักรหลู่ต่างก็หวาดผวาและโกลาหลอย่างมาก เพราะท่านผู้อาวุโสใกล้จะถึงเวลาอันสมควรแล้ว สิ้นสุดอายุขัย

ฮ่องเต้หลู่กังวลใจอย่างมาก เขาได้ส่งสมุนไพรอันล้ำค่าที่ช่วยยื้อชีวิตไปยังหอบรรพบุรุษโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆ แถมยังตามหาตัวหมอที่มีชื่อเสียงในอาณาจักรหลู่ทุกคนมารวมตัวกัน เพื่อต่อชีวิตให้แก่ท่านผู้อาวุโส

ท่านผู้อาวุโสนอนอยู่บนที่นอนใกล้จะสิ้นลมหายใจ เขาพยายามลืมตาขึ้นมาแล้วหอบถามว่า “เฉิงอาหนิวอยู่ที่ใด?”

ฮ่องเต้หลู่เฝ้าอยู่ข้างที่นอน แล้วตอบกลับด้วยสีหน้าที่กังวลว่า

“โปรดวางใจเถิดท่านผู้อาวุโส พวกข้าได้จับตาดูอยู่ เฉิงอาหนิวยังคงอยู่ที่หัวถิง วันๆเอาแต่ใช้เงินฟุ่มเฟือย ละโมบเสพสมความสุข ตัดขาดจากโลกภายนอก”

เมื่อได้ยินดังนั้นท่านผู้อาวุโสก็ค่อยๆหลับตาลงแล้วพยายามพูดว่า

“ข้ายังอยากพยายามต่อ อยากจะเห็นอาณาจักรฉินล่มสลายด้วยตาของข้าเอง จึงจะลาจากโลกไปอย่างสมใจ แต่น่าเสียดาย ไม่ได้เห็นแล้ว......”

เมื่อสิ้นเสียงแล้วท่านผู้อาวุโสก็คอตกทันที

ฮ่องเต้หลู่ตกใจอย่างมาก เขารีบเรียกทันที “ท่านผู้อาวุโส ท่านผู้อาวุโส! รีบเรียกหมอเร็วเข้า!”

หมอหลวงและเหล่าหมอคนอื่นรีบเข้ามาตรวจ แต่เมื่อเห็นดวงตาลอยๆของท่านผู้อาวุโสแล้ว ก็รู้ว่าไม่อาจช่วยได้แล้ว ทุกคนพากันส่ายหน้าแล้วคุกเข่ารายงานต่อฮ่องเต้หลู่ว่า

“ฝ่าบาท โปรดให้อภัยที่กระหม่อมไร้ความสามารถ ท่านผู้อาวุโสสิ้นใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้หลู่ยืนเซแล้วถอยหลังไปหลายก้าว ขันทีที่เป็นหัวหน้ากิจการพระราชวังรีบพยุงทันที ทุกๆคนไม่ว่าจะคนที่อยู่ด้านนอกหรือด้านในต่างก็พากันคุกเข่าร้องไห้ออกมาอย่างปวดใจ

ฮ่องเต้หลู่อึ้งไปหมด แม้เขาจะรู้อยู่แล้วว่าท่านผู้อาวุโสเสื่อมทรุดเต็มทีแล้ว ได้ใช้สมุนไพรในการยื้อชีวิตมาใกล้จะหนึ่งเดือนแล้ว แต่ในตอนที่ประกาศว่าท่านผู้อาวุโสสิ้นใจแล้ว เขาก็ทำอะไรไม่ถูก

เขานั่งพักอยู่นานจึงจะยอมรับความจริงที่ท่านผู้อาวุโสสิ้นใจแล้วได้ เขาน้ำตาคลอแล้วออกคำสั่งอย่างปวดใจว่า

“ท่านผู้อาวุโสสิ้นใจแล้ว ทั้งอาณาจักรต้องไว้ทุกข์เป็นเวลาเจ็ดวัน ในระหว่างนี้ห้ามมีการจัดงานสังสรรค์ใดๆเป็นอันขาด ไว้ทุกข์ทั้งอาณาจักร!”

“พ่ะย่ะค่ะ”

......

เหล่าผู้คนชนชั้นกลาง ต่างก็ได้หนีไปฝั่งนั้นโดยใช้ข้ออ้างการสนับสนุนลงทุนตั้งแต่ที่หัวถิงเริ่มก่อสร้างลำดับแรกสำเร็จ ส่วนเหล่าชาวเมืองระดับล่าง เมื่อรู้ว่าหัวถิงจ่ายเงินค่าแรงมากมาย ต่างก็มุ่งหน้าไปทำงานที่หัวถิงแล้ว

เมื่อมองดูแล้ว นอกจากในพระราชวังนี้ เขาไร้อำนาจไปจนหมดสิ้นแล้ว เขาไม่สามารถทำอะไรได้ เมื่อคิดเช่นนั้นแล้วความโกรธของเขาก็ค่อยๆสงบลง เมื่อสูญเสียท่านผู้อาวุโสที่เสมือนตัวยึดเหนี่ยว เขาก็ไม่เหลืออะไรในอำนาจแล้ว การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอาณาจักรหลู่ ทำให้เขาที่เป็นฮ่องเต้เหลือแต่ชื่อ แต่ไร้ตัวตนไปแล้ว

ทุกอย่างพังทลายลง แม้แต่สถานศึกษาอันยิ่งใหญ่ทั้งสี่เองก็ได้หันไปพึ่งหัวถิง เรียกได้ว่าคนไปแล้วชาก็เย็นลง ฮ่องเต้หลู่ค่อยๆสงบลงจากที่ตะโกนอย่างเดือดดาล สุดท้ายแล้วประกายในแววตาก็ได้ค่อยๆหม่นหมองไป

อยู่ในตำแหน่งที่สูงศักดิ์ แต่ไม่มีใครคอยติดตาม ความรุ่งเรืองในอดีตได้จบสิ้นลง ความเงียบเหงาทำให้ฮ่องเต้หลู่ดูแก่ชราขึ้นมาก

เงียบไปอยู่นานกว่าฮ่องเต้ฉินจะถอนหายใจยาวๆเฮือกหนึ่ง ดวงตาของเขาแสดงความรู้สึกไม่พอใจและไม่ยอม เขาพูดว่า

“ข้าจะคอยอยู่บนตำแหน่งที่สูงศักดิ์นี่ ดูว่าอาณาจักรฉินจะอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหน!”

เขาได้ไตร่ตรองเอาไว้แล้ว ว่าจะมองดูด้วยตาของตนเองว่าคำทำนายที่ท่านผู้อาวุโสแลกด้วยชีวิต สุดท้ายแล้วจะเป็นจริงรึไม่ หากสามารถสมหวังได้ เขาจะเอาคืนความอับอายที่เขาได้รับในวันนี้เป็นหลายพันเท่า

หากไม่อาจสมหวัง เขาก็จะขอตาย จะไม่ยอมทำให้ตนเองต้องอับอาย ไม่ขออยู่ในโลกสกปรกใบนี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์