องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 870

หลังจากการเดินทางอย่างเหน็ดเหนื่อยหลายวัน ในที่สุดรถม้าก็ได้มาถึงเซียนตูแล้ว เมื่อทำการยื่นเตี๊ยบบุ๊งตรงด่านหน้าประตูแล้วไม่มีอะไรผิดพลาด ในที่สุดเหล่านักวิชาการอาณาจักรหลู่ก็เข้าไปยังเซียนตูในคำร่ำลือ

ภาพความเจริญรุ่งเรืองตรงหน้าทำเอาพวกเขาตกตะลึงไปหมด

“พระเจ้า นี่ นี่มันไม่อาจบรรยายได้เลย!”

เบื้องหน้าเป็นอาคารสูงใหญ่ที่ตระหง่านขึ้นสูงทะลุเมฆ ตรงที่ยืนอยู่ก็เป็นถนนที่สะอาดสะอ้าน แถมทั้งสองข้างก็ยังมีพืชสีเขียวที่จัดเรียงอย่างงดงาม มีเสาไฟฟ้าที่มีสายไฟหลายร้อยหลายพันเส้น ตั้งอยู่ตรงข้างถนนสองด้าน ป้ายร้านต่างๆ ซ่องโสเภณี แสงไฟนีออน ทำให้คนที่เห็นต้องลายตาและรู้สึกตื่นตาตื่นใจ

มีคนเดินไปมาบนถนน รถติดอย่างมาก มีเสียงเร่ขายดังขึ้นไม่ขาดสาย รถลากนั้นพบเห็นได้ทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้ต้องตกตะลึงมากยิ่งขึ้น คือจะมีรถบรรทุกคอยวิ่งผ่านอยู่ตลอด ทำนักวิชาการอาณาจักรหลู่อึ้งไปกันหมด

บางคนถึงตกตะลึงมากเกินไปจนกรามเคลื่อน ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ขนาดของเมืองใหญ่อย่างมาก สิ่งก่อสร้างสูงใหญ่ ทำให้คนที่ได้มาเห็นเป็นครั้งแรกถึงกับพูดอะไรไม่ออก และอุทานอย่างตะลึง

“พระเจ้า ข้าเคยเห็นเซียนตูในภาพวาด แต่สิ่งที่เห็นในนั้นกลับเทียบไม่ได้กับของจริงเลยแม้แต่น้อย!”

“ข้าเคยคิดว่าพระราชวังคือแดนศักดิ์สิทธิ์ที่หรูหรามากที่สุด แต่เมื่อมาเทียบกับเซียนตูแล้ว มันแตกต่างกันอย่างชัดเจนเลย ไม่อาจเทียบได้แม้แต่น้อย!”

“ต่อให้เอาพระราชวังอาณาจักรหลู่มาเทียบกับเซียนตู ก็เป็นแค่เมืองโบราณที่ยังไม่มีการเจริญก้าวหน้า มีความต่างกันโดยสิ้นเชิง!”

“พูดได้เต็มปากเลยว่าเซียนตูและอาณาจักรอื่น ถือเป็นคนละโลกเลย น่าตกตะลึงยิ่งนัก!”

อวิ๋นเฉิงได้เปิดโลกทัศน์ของพวกเขามากพอแล้ว แต่เมื่อมาถึงเซียนตู พวกเขาก็ตกตะลึงอย่างมาก บัดนี้พวกเขาเข้ามาแล้วก็ตื่นเต้นและรู้สึกแปลกใหม่กับทุกสิ่งทุกอย่าง มีเสียงอุทานดังขึ้นไม่ขาดสาย

ซือหม่าจี๋เองก็ไม่คิดว่าเซียนตูจะรุ่งเรืองยิ่งกว่าครั้งที่แล้วที่เขามาเสียอีก แต่อย่างไรเขาก็พบโลกภายนอกมามาก จึงแสร้งทำเป็นใจนิ่งแล้วพูดว่า

“ครั้งที่แล้วที่ข้ามาเยือน ทิวทัศน์ของเซียนตูก็ทำให้ไม่อาจลืมเลือนได้แล้ว แต่เมื่อมาเยือนอีกครั้ง ก็ยิ่งเปิดโลกทัศน์ของข้ามากยิ่งขึ้น ครั้งนี้ข้าจะเป็นผู้นำทางพาทุกท่านเที่ยวชมเซียนตู แล้วค่อยไปที่เมืองหลวง”

ทุกคนตอบตกลงกันอย่างดีใจว่า “ดียิ่งนัก!”

“ต้องขอรบกวนท่านซือหม่าแล้วขอรับ!”

ซือหม่าจี๋แนะนำสิ่งก่อสร้างที่ลึกลับทุกอย่างของเซียนตูให้แก่ทุกคนฟังอย่างใจเย็น ทุกคนจ้องมองตามและฟังอย่างสนอกสนใจ

เมื่อเห็นแผงขายที่กิจการดีมากจนน่าแปลก เหล่านักวิชาการอาณาจักรหลู่ก็ถามอย่างสงสัยว่า

ยังมีอาจารย์บางคนที่ไม่มีการวางมาดใดๆเลย พวกเขาพูดคุยกับเหล่าผู้เล่าเรียน ส่วนเหล่าผู้เล่าเรียนเองก็พูดคุยมากมายอย่างไม่เกรงกลัว พูดคุยกับอาจารย์อย่างเสียงดัง

เมื่อเหล่านักวิชาการอาณาจักรหลู่ได้ยินว่าทุกคนกำลังพูดคุยเรื่องวรรณกรรมก็สนใจอย่างมาก เพราะอย่างไรอาณาจักรหลู่ก็เป็นอาณาจักรแห่งวรรณกรรมเชียวนะ ในด้านวรรณกรรมจะต้องเหนือกว่าแน่นอน

และแล้วนักวิชาการอาณาจักรหลู่ก็เรียกเด็กๆเอาไว้ อยากจะแสดงความรู้ของตนเองเสียหน่อย

“เหมือนว่าพวกเจ้าจะมีความเข้าใจด้านสงครามนะ แล้วพวกเจ้ารู้รึไม่ว่าเหตุใดฮ่องเต้จึงต่อสู้? เหตุใดขุนนางจึงต่อสู้? เหตุใดหมอจึงต่อสู้? เหตุใดข้าราชการจึงต่อสู้? เหตุใดชาวเมืองจึงต่อสู้?”

“ฮ่องเต้ต่อสู้เพื่อใต้หล้า ขุนนางต่อสู้เพื่อดินแดน หมอต่อสู้เพื่ออำนาจ ข้าราชการต่อสู้เพื่อตำแหน่ง ชาวเมืองต่อสู้เพื่อความเป็นอยู่ แม้จะแตกต่างกัน แต่กลับทำเพื่อความเห็นแก่ตัวทั้งนั้น”

“พึงพอใจในสิ่งที่ตนมีจึงจะไร้สงคราม ความสามัคคีกันจะนำมาซึ่งความสันติสุข”

เมื่อได้ยินดังนั้นแล้ว เหล่านักวิชาการอาณาจักรหลู่ก็ครุ่นคิดทันที

ไม่คิดเลยว่าเจ้าเด็กน้อยพวกนี้จะสามารถตระหนักได้ลึกซึ้งเพียงนี้ เหนือความคาดหมายของพวกเขาจริงๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์