ในเวลานี้ เสียงกระดิ่งดังเตือนให้เด็กๆ เข้าเรียน
เด็กนักเรียนทุกคนเป็นเหมือนกระต่ายที่ร่าเริงกลับไปยังห้องเรียนอย่างตื่นเต้น เพราะพวกเขากระตือรือร้นในการเรียนรู้มากกว่าเวลาพัก
ฟางเจาจวินพูดด้วยรอยยิ้ม
“เอาล่ะ พวกเราไปดูกันดีกว่า
นักวิชาการอาณาจักรหลู่ยังคงอึ้ง พวกเขาสนใจโรงเรียนของอาณาจักรฉินแห่งนี้มาก
ทุกคนเดินตามฟางเจาจวิน มาถึงด้านหน้าห้องเรียน ได้ยินเสียงเด็กๆ ในห้องเรียนอ่านบทกวีผ่านทางหน้าต่าง
“ให้แผ่นดินเป็นจิตใจ ให้ชีวิตคือชีวิต เพื่อสืบสานความรู้ เพื่อสันติสุขแก่คนรุ่นหลัง”
เมื่อได้ยินเสียงเด็กๆ อ่านบทกวี นักวิชาการอาณาจักรหลู่เริ่มสนใจทันที
“คณบดีฟาง เด็กอายุน้อยขนาดนี้ เรียนเนื้อหาที่ลึกซึ้งเช่นนี้เชียวหรือ พวกเขาจะเข้าใจความหมายหรือ?”
ฟางเจาจวินอธิบาย
“ความรู้ทั้งหมดจะถูกสะสม หลักการที่พวกเขาเข้าใจจะก้าวหน้า บางครั้งพวกเขาอาจจะยังไม่เข้าใจมากเท่าไร แต่เมื่อโตขึ้น พวกเขาจะมีความเข้าใจในสิ่งรอบตัวมากขึ้นและจะเข้าใจอย่างลึกซึ้ง”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น นักวิชาการอาณาจักรหลู่เข้าใจในเจตนาทันที กล่าวด้วยความชื่นชม
“มีวิสัยทัศน์ในการสอนก้าวไกลเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยที่อาณาจักรฉินจะก้าวหน้านำอาณาจักรอื่น”
“แม้แต่อาณาจักรหลู่ของเราที่ได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งวัฒนธรรมยังด้อยกว่าอาณาจักรฉินในด้านอุดมการณ์มาก เรารู้สึกละอายใจในตัวเองเสียเหลือเกิน!”
ฟางเจาจวินทำตัวไม่ถูกเล็กน้อยที่ได้รับคำชมเช่นนี้ จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าอาณาจักรฉินจะพัฒนามาถึงจุดนี้ได้ ทำให้ประชาชนในอาณาจักรฉินได้ใช้ชีวิตตามที่ตนเองใฝ่ฝัน
นางตอบกลับอย่างสุภาพ
“ทุกท่านชมข้าเกินไปแล้ว การตระหนักได้ถึงข้อบกพร่องของตนเองทำให้ก้าวหน้าต่อไปได้เช่นกัน ข้าเชื่อว่าหลงจากที่พวกเจ้าเรียนรู้จบ ก็จะสามารถกลับไปสร้างบ้านเกิดให้ดีขึ้นได้ ข้าจะพาพวกเจ้าไปดูห้องเรียนห้องอื่น”
ทุกคนมาถึงห้องเรียนที่สอง มองผ่านทางหน้าต่างเห็นครูอยู่ด้านใน กำลังสอนปรากฎการณ์ทางธรรมชาติให้แก่เด็กๆ ฟางเจาจวินแนะนำว่า
“นี่คือชั้นเรียนวิทยาศาสตร์การทดลองทางธรรมชาติ จุดสำคัญคือการเพิ่มระดับความใส่ใจด้านวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน”
นักวิชาการอาณาจักรหลู่ถามด้วยความสงสัย
“คณบดีฟาง ให้อภัยกับคำพูดของข้าด้วย การเรียนคณิตศาสตร์ช่วยสร้างเสริมความรู้ด้านการคิดคำนวณ การเรียนภาษา ทำให้เข้าใจความจริงอันลึกซึ้ง และการศึกษาประวัติศาสตร์ช่วยให้เข้าใจเหตุการณ์สำคัญในอดีตและปัจจุบันได้ แต่การศึกษาวิทยาศาสตร์ทางธรรมชาติคือทำไปเพื่อสิ่งใดกัน?”
ฟางเจาจวินอธิบายอย่างระมัดระวัง
“เป็นคำถามที่ดีมาก ข้าขอยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างเช่นตัวอย่างที่เคยได้พูดไป เรือใช้การลอยตัวของน้ำ ทำให้ลอยตัวอยู่เหนือน้ำได้”
“ยกตัวอย่างเช่นการตีเหล็ก มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับชีวิตเรา หลังจากเรียนรู้หลักการเหล่านี้แล้ว เราสามารถใช้ความรู้เฉพาะทางได้”
“เมื่อวิทยาการความก้าวหน้าเติบโต คนบินบนฟ้าก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น นักวิชาการอาณาจักรหลู่มองกันไปมา สายตาเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
“ประเด็นที่คณบดีฟางพูดนั้น อยู่เหนือสิ่งที่เราจินตนาการเอาไว้จริงๆ”
ฟางเจาจวินอธิบายอย่างใจเย็น
“ข้าขอถามพวกเจ้า เจ้าเคยเห็นเรือแล่นฝั่งหรือไม่?”
นักวิชาการอาณาจักรหลู่พยักหน้าทีละคน
“ต้องเคยเห็นสิ”
“พวกเรานั่งเรือมา”
ฟางเจาจวินกล่าวต่อ
“เช่นนั้นพวกเจ้าของคิดดูให้ดีๆ เวลายืนอยู่บนฝั่ง มองออกไปไกลๆ เห็นเรืออยู่ไกลๆ จะเห็นเสากระโรงก่อนจากนั้นค่อยเห็นเรือใช่หรือไม่?”
“นี่...”
นักวิชาการอาณาจักรหลู่อึ้งไป และคิดอย่างรอบคอบทันที ทุกครั้ง เขาเห็นเสากระโดงก่อน จากนั้นเห็นตัวเรือ
ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดอย่างถี่ถ้วน ฟางเจาจวินพูดขึ้นอีกครั้ง
“หากพื้นดินใต้เท้าเราแบน เหตุใดเราถึงไม่เห็นเรือทั้งลำในทันทีล่ะ?”
เมื่อถูกเตือนด้วยประโยคนี้ นักวิชาการอาณาจักรหลู่พลันลังเลเล็กน้อย
จริงด้วย ถ้าในจิ่วโจวเป็นที่ราบ เหตุใดถึงเวลาเรือเทียบท่าถึงเห็นเสากระโงเรือก่อนเล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...