ฟางเจาจวินอธิบายให้ทุกคนฟัง
“ไม่ว่าพวกเจ้าจะคาดเดาอย่างไร แต่ความเป็นจริง โลกที่เราอาศัยอยู่นั้นเป็นทรงกลม”
เหตุผลที่เจ้าคิดว่าจิ่วโจวแบนนั้นเป็นเพราะโลกกลมๆ นี้ใหญ่มากจนไม่สามารถสัมผัสความโค้งของมันได้”
ขณะที่นางพูด ก็เดินมาถึงลานกลางของโรงเรียน หยิบกิ่งไม้ข้างทางขึ้นมา วาดลงบนพื้นแล้วพูดว่า
“มาสิ มานั่งดู ข้าจะวาดโลกใบนี้ให้พวกเจ้าเห็น”
นักวิชาการอาณาจักรหลู่ทั้งหมดเดินมารวมตัวกัน นั่งยองๆ ลงกับพื้นเหมือนนักเรียนชั้นประถมเพื่อชมการสาธิตของฟางเจาจวิน
ฟางเจาจวินวาดวงกลมขนาดใหญ่ลงบนพื้น
“พวกเจ้าดูเสีย นี่คือโลก พวกเราอาศัยอยู่ในนี้ มันคือโลกทรงกลมที่หมุนรอบตัวเองตลอดเวลา”
“ถ้าเจ้าน้ำโลกนี้แผ่กางออกมา เจ้าจะเห็นอาณาจักรทั้งเจ็ดในจิ่วโจว”
ขณะที่ฟางเจาจวินพูด นางได้กางแผนที่ออกมาไว้ที่ข้างๆ โลกทรงกลม ทำเครื่องหมายระบุตำแหน่งของอาณาจักรในจิ่วโจว
“นี่คือสิ่งที่เจ้ารู้ อาณาจักรฉิน อาณาจักรหลู่ อาณาจักรจ้าว อาณาจักรเยว่ อาณาจักรอู๋ อาณาจักรเยี่ยน และอาณาจักรสู่ ที่ตั้งของทั้งเจ็ดอาณาจักรอยู่ตรงนี้”
เมื่อนักวิชาการเห็นตำแหน่งที่ตั้งของอาณาจักรทั้งเจ็ด พวกเขาชี้ไปที่ช่องว่างอื่นๆ และถามอย่างสงสัย
“ทั้งเจ็ดอาณาจักรในจิ่วโจวรวมกันครอบครองพื้นที่เล็กๆ ในโลกนี้ เช่นนั้นพื้นที่ว่างเปล่าพวกนี้เล่า?”
ฟางเจาจวินพูดขณะวาดภาพว่า
“สิ่งนี้พิสูจน์ว่ายังมีแผ่นดินและคนที่อยู่นอกอาณาจักรนี้ นอกจากอาณาจักรทั้งเจ็ดแล้ว ยังมีอีกหลายอาณาจักรในโลกนี้”
“ถัดจากอาณาจักรฉินคือทิเบต นอกจากอาณาจักรฉินแล้ว มุ่งหน้าไปทางตะวันตกคือตะวันออกกลาง นอกจากนั้นยังมีแอฟริกาและยุโรป ยังมี...”
ฟางเจาจวินอธิบายตามแผนที่อย่างละเอียด สายตาของนักวิชาการหลู่ต่างจับจ้องไปที่นาง
“นี่ นี่เป็นเรื่องจริงหรือ?”
“ใต้หล้านี้กว้างใหญ่ขนาดนี้เชียวหรือ?”
“ยังมีอาณาจักรอื่นอีกหรือ?”
ฟางเจาจวินกล่าวอย่างจริงจง
“ไม่เพียงแต่มีเท่านั้น แต่ยังมีมากอีกด้วย ปัจจุบันมีจักรวรรดิโรมันในยุโรป มีเกาะเล็กๆ ข้างๆ อาณาจักรหลู่ ชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่ที่นั่น ด้านล่างอาณาจักรเยว่คือ...”
ฟางเจาจวินอธิบายทุกอย่างราวกับเจอขุมสมบัติ นักวิชาการอาณาจักรหลู่ได้ปลุกปั่นคลื่นลูกใหญ่ในใจเขา ความตกตะลึงทำให้เขาหูดับ พวกเขากลับมามีสติอีกครั้งและถอนหายใจ
“การอธิบายของท่านคณบดีฟาง ช่วยเปิดหูเปิดตาให้พวกข้าจริงๆ!”
“ทำให้ข้าเข้าใจโลกนี้ได้มากขึ้น!”
“เมื่อรวมความรู้และทักษะต่างๆ เช่น ด้านวิชาการและด้านการทหารรวมเข้าด้วยกัน ตอนนี้เราได้เปลี่ยนชื่อการสอบเข้าขุนนางเป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัย”
“สอบเข้ามหาวิทยาลัย?”
ฟางเจาจวินยิ้ม
“การสอบเข้ามหาวิทยาลัย เป็นการพัฒนามาจากการสอบเข้าขุนนาง แต่เหนือชั้นกว่า อีกทั้งไม่ได้จำกัดแค่ชาวอาณาจักรฉินเท่านั้น ไม่ว่าใครก็สามารถสอบเข้าได้ เพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตนเอง”
“เมื่อเทียบกับการสอบเข้าขุนนางที่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลการสอบ โดยปกติแล้วจะเดากันว่าผู้เข้าสอบคนนี้เป็นศิษย์ของผู้ดูแลคนนี้ แต่เหตุการณ์นี้จะไม่อยู่ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย”
นักวิชาการอาณาจักรหลู่ตื่นเต้นมาก ได้ยินว่าการสอบเข้าขุนนางเป็นที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน จากสอบคัดเลือกทุกๆ สามปี กลับเปลี่ยนเป็นปีละครั้ง
แม้ว่าจะเป็นการเพิ่มภาระงานให้แก่ราชสำนัก แต่หากส่งคนรุ่นใหม่เข้ามามากขึ้น ทำให้นักเรียนมีโอกาสมากขึ้น ถือว่าเป็นวิธีที่ดีเลยทีเดียว
ฟางเจาจวินพูดด้วยท่าทีจริงจัง
“สรุปแล้ว การศึกษาเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา ทุกอย่างต้องเริ่มที่ต้นเหตุ ทั้งหมดต้องเริ่มปลูกฝังตั้งแต่วัยเด็ก!”
นักวิชากาอาณาจักรหลู่นั้นคิดว่าสิ่งที่คณบดีฟางพูดมานั้นสมเหตุสมผลเป็นอย่างมาก พลันพยักหน้าเห็นด้วย ในเวลาเดียวกันปากกาของเขาก็จดคำพูดของนางลงไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้นักวิชาการอาณาจักรหลู่เห็นตะกร้าที่เต็มไปด้วยคำแกะสลักจากไม้ เขาถามอย่างสงสัย
“คณบดีฟาง นี่คือสิ่งใดกัน? เหตุใดถึงมีตัวอักษรมากมายขนาดนั้น?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...