อาณาจักรฉิน
เมืองจิ่วโจว
ในเวลานี้ ฮ่องเต้หลู่กำลังนั่งฟังบรรยายวิชาการความรู้ของอาณาจักรฉิน ขันทีหลี่เข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เขาพยายามควบคุมตนเองและกระซิบข้างหูฮ่องเต้หลู่ทันที
“ฝ่าบาท แย่แล้วพ่ะย่ะค่ะ! อาณาจักรเยี่ยนส่งทหารจำนวนสองแสนนายเข้ามาโจมตีอาณาจักรหลู่พ่ะย่ะค่ะ!”
ฮ่องเต้หลู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้ากังวลของเขาหายวับไป พูดด้วยน้ำเสียงสงบว่า
“โจมตีที่ใดบ้าง?”
ขันทีหลี่ตอบกลับอย่างเป็นกังวล
“อาณาจักรเยี่ยนมาพร้อมกับกองกำลังที่แข็งแกร่ง ตอนนี้เราสูญเสียเขตชายแดนอาณจักรหลู่ไปแล้ว กระหม่อมเกรงว่าอีกไม่นานจะบุกโจมตีเมืองเผิงหลายพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮ่องเต้หลู่มีสีหน้าเรียบเฉย เขากลับโบกมืออย่างใจเย็น
“เข้าใจแล้ว เจ้าออกไปได้แล้ว”
หลังจากพูดจบ เขาก็หันกลับไปฟังบรรยายต่อไป
ขันทีหลู่อึ้งไป รีบพูดต่อว่า
“ฝ่าบาท สงครามระหว่างสองอาณาจักรถือเป็นเรื่องใหญ่มากพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทจะไม่กลับไปดูแลบ้านเมืองหน่อยหรือ?”
ฮ่องเต้หลู่เมินเฉย
“เรากลับไปแล้วจะทำให้อาณาจักรเยี่ยนหยุดโจมตีอย่างนั้นหรือ พวกเขาอยากโจมตีก็ปล่อยให้เขาทำไป”
ขันทีหลี่รู้ว่าฮ่องเต้หลู่หลงใหลในการฟังบรรยายเป็นอย่างาก แต่ตอนนี้กำลังเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น อาณาจักรเยี่ยนบุกโจมตีจนทำให้อาณาจักรหลู่ต้องถอยออกมา หากยังเป็นเช่นนี้ ในระเวลาอันสั้น เมืองเผิงหลายคงต้องล่มสลายลงอย่างแน่นอน เขาพูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว
“ฝ่าบาท! อาณาจักรที่ไม่มีฮ่องเต้ปกครอง ยังมีประชาชนหลายแสนคนกำลังรอให้ท่านตัดสินใจอยู่พ่ะย่ะค่ะ!”
ฮ่องเต้เหลู่ยังคงนิ่งเฉย ในตอนนี้โลกที่วุ่นวายข้างนอกไม่เกี่ยวกับเขาอีกต่อไปแล้ว เขาเพียงแต่ต้องการละทางโลกและค้นหาตัวตนฝ่ายจิตวิญญาณของเขา เขาจึงตอบกลับอย่างเฉยเมยว่า
“เจ้าออกไปก่อน อย่าทำให้ข้าเสียสมาธิ”
เมื่อเห็นว่าไม่อาจโน้มน้าวใจฮ่องเต้หลู่ได้ เขาเข้าใจความหมายของประโยคที่ว่า เรื่องของตัวเองกลับไม่เดือดร้อน แต่คนรอบข้างกลับเดือดร้อนแทน ในตอนนี้เขาไม่กล้าพูดโน้มน้าวอีกต่อไป หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขานึกขึ้นมาว่าต้องรีบส่งจดหมายถึงซือหม่าจี๋ โดยหวังว่าเขาจะช่วยโน้มน้าวฮ่องเต้หลู่ให้กลับไปควบคุมศึกในครั้งนี้ได้
...
อาณาจักรหลู่
สถานศึกษาไป๋ลู่
หลังจากได้เห็นพัฒนาการของอาณาจักรฉินแล้ว ซือหม่าจี๋เองก็อึ้งไปกับความเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน
หลังจากกลับมา เขาก็รู้สึกตัวเองต่ำต้อยไปพักหนึ่งและไม่ออกไปที่ใดเลยเป็นเวลาหลายวัน
ต่อมาจ้าวเหวินเซิงมาหา พวกเขานั่งดื่มด้วยกันจนได้คำแนะนำจากจ้าวเหวินเซิง ในที่สุดเขาก็เข้าใจในทันที
เขาเข้าใจว่า ไม่ว่าสถานการณ์โดยรวมในใต้หล้านี้จะเป็นอย่างไร ขอเพียงแค่ประชาชนทำงานอย่างสงบสุข มีอาหารและเสื้อผ้าเพียงพอ ก็ถือว่านี่เป็นชีวิตที่มีความสุขที่พวกเขาไล่ตามหามิใช่หรือ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องคิดมาก แค่ทำตามกระแสที่นำพาไป
หลังจากซือหม่าจี๋คิดได้ เขาก็กลับไปทำงานเหมือนเก่า ยังคงสอนนักเรียนในสถานศึกษาต่อ
“ฝ่าบาท กองทัพอาณาจักรเยี่ยนได้บุกเข้ามาเป็นวงกว้าง ได้ตั้งแนวรบที่เขตชายแดนอาณาจักรหลู่แล้ว เกรงว่าอีกไม่นานจะบุกเข้ามายังเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ!”
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นช่วงเวลาวิกฤต แต่ฮ่องเต้หลู่กลับมีท่าทีดูไม่รีบร้อน เขาพูดอย่างใจเย็นว่า
“เราเข้าใจแล้ว”
ซือหม่าจี๋ขมวดคิ้วแน่น เขาไม่รู้ว่าหลายปีที่ผ่านมาฮ่องเต้หลู่ได้เรียนรู้อะไรไปบ้าง เหตุใดถึงไม่สนใจเรื่องบ้านเมืองอีกต่อไป เขาพยายามพูดโน้มน้าวอย่างเต็มที่
“ฝ่าบาท สงครามไม่ใช่เรื่องเล่นๆ พ่ะย่ะค่ะ อาณาจักรเยี่ยนกำลังบุกเข้ามา ประชาชนหลายแสนคนต้องการความช่วยเหลือจากพระองค์ พระองค์จะทรงไม่สนพระทัยอย่างนั้นหรือ!”
ฮ่องเต้หลู่พูดอย่างใจเย็น
“ตอนนี้เราไม่มีวิธีจะจัดการกับปัญหาใหญ่เช่นนี้อีกแล้ว หลังจากที่ท่านผู้อาวุโสเสียไป เราได้ยินเรื่องราวของอาณาจักรฉินมาหลายเรื่อง”
“แต่ข่าวลือที่ว่ากันนั้นมีทั้งเรื่องจริงและไม่จริง ดังนั้นเราจึงเดินทางมาดูด้วยตนเอง มาดูว่าเมืองที่เจริญรุ่งเรรืองขนาดนี้จะล่มสลายลงได้อย่างไร”
ซือหม่าจี๋กังวลมาก เขาไม่อาจเมินเฉยได้อีกต่อไป
“ฝ่าบาท แม้ว่าพระองค์จะมายังอาณาจักรฉินเพื่อดูการล่มสลายของอาณาจักรนี้ แต่เราต้องแน่ใจก่อนว่าอาณาจักรหลู่ยังอยู่ในเจ็ดอาณาจักร หากถูกอาณาจักรเยี่ยนทำลายเข้าจริงๆ การที่ได้เห็นอาณาจักรฉินล่มสลายด้วยตาของพระองค์เองสำคัญกว่าอย่างนั้นหรือ?”
ฮ่องเต้หลู่กลับไม่สะทกสะท้าน เขายืนกรานว่า
“เราได้เห็นความเย็นชาของโลก ความเป็นความตายมาแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลย”
“ในโลกนี้ไม่มีสามารถหลีกหนีการต่อสู้ได้ นี่เป็นสิ่งเดียวที่เราไม่ต้องการ เราแค่ต้องการความสงบเงียบ แต่คำว่าต่อสู้ยังซ่อนตัวอยู่ในความเงียบเช่นกัน”
“เราอยากเห็นว่าโลกนี้จะดีหรือร้ายแค่ไหน เราอยากเป็นแค่คนนอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...