อีกด้านหนึ่ง
หลังจากฮ่องเต้หลู่ฟื้นตัวแล้ว เขาและขันทีหลี่เดินทางมายังเมืองจิ่วโจว
แม้ว่าเมืองจิ่วโจวจะไม่เหมือนเมืองเซียนตู แต่ในฐานะที่เป็นเมืองสร้างใหม่ ถือว่าขนาดเมืองมีขนาดใหญ่มาก
วิทยาลัยนักเรียนต่างชาติในจิ่วโจวไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องถิ่นกำเนิด อายุ หรือเพศ ขอแค่ต้องการเรียนรู้ก็สามารถเข้าเรียนได้
ในวันแรกที่ฮ่องเต้หลู่ลงทะเบียนเรียนสำเร็จ เขาได้เดินชมวิทยาลัยกับนักเรียนคนอื่นโดยมีฟางเจาจวินเป็นคนนำทาง
เมื่อไปถึงเรือนกระจก ฮ่องเต้หลู่ต้องเบิกตากว้าง เขาไม่คาดคิดว่าดินแดนแห่งนี้จะสามารถปลูกผักในช่วงฤดูหนาวได้
เมื่อเขาลิ้มรสผลไม้ ฮ่องเต้หลู่พลันไม่อาจบรรยายความอร่อยออกมาได้ เขาทำได้เพียงตะโกนออกมา
“หวาน หอม อร่อย!”
เมื่อเยี่ยมชมวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แล้ว วิทยาการทุกชิ้นทำให้ฮ่องเต้หลู่ได้เปิดโลกมาก มุมมองของเขาเปลี่ยนไปหลายต่อหลายครั้ง
เพื่อนนักเรียนต่างหยิบปากกาเพื่อจดบันทึก แต่ความตั้งใจเดิมของเขาเพียงแค่เข้ามาเยี่ยมชม แต่ตอนนี้เขากลับเกลียดตัวเองที่ไม่เอาปากกามา
หากเขาบันทึกทุกอย่างลงไปและศึกษาอย่างรอบคอบ เมื่อกลับไปยังอาณาจักรหลู่ เราอาจจะนำหน้าอาณาจักรฉินได้ในสักวันหนึ่ง?
เมื่อฮ่องเต้หลู่มาเยือนโรงเรียน เขากลับรู้สึกเนื้อหาที่นักเรียนชั้นประถมเรียนช่างหลากหลาย ทำให้เขาเสียความมั่นใจเป็นอย่างมาก
เขาไม่คาดคิดว่าเด็กตัวเล็กเพียงแค่ไม่กี่ขวบจะกล้าพูดกล้าถามและพูดอย่างมีเหตุมีผล เขาในฐานะฮ่องเต้กลับต้องคิดอยู่พักหนึ่งถึงจะเข้าใจความหมายของเขา
ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เขารู้สึกละอายใจเท่านั้น แต่ยังทำให้เขาได้ได้เข้าใจคำว่าช่องว่างหรือระยะห่าง
ในเวลาเดียวกัน เขารู้สึกโชคดีเล็กน้อย โชคดีที่อาณาจักรหลู่ไม่เป็นศัตรูกับอาณาจักรฉิน มิฉะนั้นหากอาณาจักรฉินต้องการทำลายอาณาจักรหลู่แล้วล่ะก็ คงทำได้อย่างง่ายดาย
หลังจากการมาเยืยนในครั้งนี้ ความคิดและมุมมองของฮ่องเต้หลู่เปลี่ยนไปมาก
อาณาจักรที่พัฒนาและก้าวหน้ามากขนาดนี้จะล่มจมในอีกห้าปีข้างหน้าอย่างนั้นหรือ?
ในอาณาจักรที่ประชาชนสามารถทำงานได้อย่างสงบสุข มุ่งไปที่การพัฒนาและต้องการรวมจิ่วโจวเข้าด้วยกันจะมีผลเสียอะไร?
ทันทีที่ความคิดผุดขึ้น ทำให้เขาฉุกคิดขึ้นมาได้ หลังจากสงบลงฮ่องเต้หลู่ตัดสินใจศึกษาอย่างจริงจังในเมืองจิ่วโจว เขาต้องการเห็นด้วยตาของเขาเองว่าคำทำนายในอีกห้าปีจะเป็นจริงหรือไม่
...
สามปีต่อมา
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เขาไม่อาจระงับความตื่นเต้นในใจได้ กั๋วฮวายลุกขึ้นยืน โบกมือแล้วพูดว่า
“กระจายคำสั่งข้า ส่งทหารไปยังทางใต้โจมตีอาณาจักรหลู่ทันที!”
“ขอรับ!”
เมื่อเสียงสัญญาณแห่งสงครามเริ่มต้นขึ้น กองทัพทหารม้าของอาณาจักรเยี่ยนเหมือนกับเสือที่โผล่ออกมาจากภูเขา บุกเข้าโจมตีชายแดนอาณาจักรหลู่ สงครามอาณาจักรเยี่ยนและอาณาจักรหลู่จึงเริ่มขึ้น
ความสงบสุขทั้งเจ็ดอาณาจักรในจิ่วโจวที่รักษามาเป็นเวลานานหลายปี กลับถูกทำลายลงในทันที
อาณาจักรหลู่ที่ไม่ได้เตรียมตัวสำหรับสงคราม ถูกกองทัพทหารม้าอาณาจักรหลู่โจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว
เดิมทีประชาชนอาณาจักรหลู่รวมตัวอยู่ที่เมืองหัวถิง อีกอย่างนักวิชาการต่างศึกษาอยู่ที่เมืองจิ่วโจว ไม่มีคนคอยปกป้องอาณาจักร
ไม่อาจต้านทานกองกำลังที่มีอาวุธครบมือและได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีได้
เมืองชายแดนที่พ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ประชาชนต่างมารวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับกองทัพทหารที่เข้ามาพวกเขาเพียงแค่หวังว่าจะช่วยชะลอการโจมตีในระหว่างที่เขาส่งข่าวไปยังราชสำนักให้ส่งกองกำลังเข้ามาสนับสนุนพวกเขา
อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขายังไม่รู้นั่นคือฮ่องเต้หลู่อยู่ที่อาณาจักรฉิน ตอนนี้เขากำลังหลงใหลไปกับเรื่องละทิ้งทางโลก เขาไม่สนใจอาณาจักรหลู่เลยแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...