องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 910

เมื่อทุกอย่างได้จบลงแล้ว ข่าวที่อาณาจักรอู๋เปลี่ยนราชวงศ์ก็ได้เป็นที่ลือกันไปทั่วเก้าแคว้น

เหล่าอาณาจักรอื่นๆเองก็ไม่เข้าใจ อาณาจักรอู๋มีประวัติศาสตร์มานับร้อยปี แต่กลับให้พ่อค้ากระจอกๆมาเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่แห่งอาณาจักรอู๋!

การกระทำที่แสนเข้าใจยากเช่นนี้ ทำให้อาณาจักรอู๋กลายเป็นที่พูดถึงกัน

“ให้พ่อค้าเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่เนี่ยนะ ช่างเป็นเรื่องแปลกใหม่เสียจริง!”

“ข้าว่า หากอาณาจักรอู๋เป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วจะต้องล่มสลายแน่นอน!”

“ไม่แน่ว่าฮ่องเต้องค์ใหม่แห่งอาณาจักรอู๋จะเป็นขอทานก็ได้ ฮ่าๆๆ!”

ในขณะที่แต่ละอาณาจักรพูดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงราชวงศ์อาณาจักรอู๋กัน อาณาจักรอู๋ก็ได้ออกหนังสือประกาศแก่ทั่วใต้หล้า เพื่อคลี่คลายความสับสนของทุกคน

“ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องเต้อู๋ทรงมีพระบัญชา ทั่วทั้งเก้าแคว้นเจ็ดอาณาจักรจงเป็นพยาน อาณาจักรอู๋ยินดีเคารพภักดีต่ออาณาจักรฉิน โดยขอกลายเป็นรัฐบรรณาการของอาณาจักรฉิน อาณาจักรฉินสามารถส่งคนมาดูแลอาณาจักรอู๋ได้ ฮ่องเต้องค์ใหม่เถาซงจือขอลดตำแหน่งเป็นผู้นำเมืองหลวงของมณฑล!”

เมื่อได้ถูกประกาศออกไปแล้วก็ทำให้เหล่าอาณาจักรอื่นๆเข้าใจทันที เรื่องที่อาณาจักรอู๋เปลี่ยนราชวงศ์ เบื้องหลังคงจะเป็นฝีมือของอาณาจักรฉิน แต่นั่นก็ทำให้ทุกคนต่างผวา เพราะสามารถทำให้อาณาจักรอู๋เปลี่ยนราชวงศ์ได้โดยไม่มีใครรู้ตัวเลยใช้วิธีอะไรกันแน่?

ไป๋เสี่ยวเซิงแห่งอาณาจักรหลู่และเหล่านักวิชาการเริ่มทำการวิเคราะห์แผนการยึดครองอาณาจักรอู๋ของอาณาจักรฉิน

“ชื่อเถาซงจือ เหตุใดจึงรู้สึกคุ้นยิ่งนัก ราวกับเคยได้ยินที่ใดมาก่อน”

“คนผู้นี้ เมื่อก่อนก็เป็นแค่ผู้ติดตามต้อยๆของท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์เก้าดอกบัวที่สถานศึกษาไป๋ลู่เท่านั้นเอง”

เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว ทุกคนก็ได้เข้าใจทันที

“คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าคนที่ไม่มีอะไรเลยเช่นนั้น จะได้เปลี่ยนแปลงกลายเป็นผู้นำเมืองหลวงของมณฑล!”

“นั่นสิ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากเกินไปจนรับมือไม่ทันเลย!”

“แต่นี่ก็ได้แสดงให้เห็นว่า ติดตามถูกคนแล้วจะมีผลประโยชน์มากมายเลยทีเดียว!”

“หากเป็นเช่นนี้ บัดนี้อาณาจักรจ้าว อาณาจักรเยว่ รวมถึงอาณาจักรอู๋ ก็ได้กลายเป็นรัฐบรรณาการของอาณาจักรฉินแล้ว สี่อาณาจักรแข็งแกร่งรวมเป็นหนึ่ง อาณาจักรหลู่และอีกสองอาณาจักรตกอยู่ในอันตรายเสียแล้ว!”

ในขณะที่อาณาจักรหลู่กำลังหารือเรื่องแนวโน้มของใต้กล้านี้ อาณาจักรฉินก็ได้ออกประกาศต่ออีกหกอาณาจักร

อาณาจักรฉินใช้เรื่องการรับสมัครผู้มีความสามารถทั่วสารทิศ เพื่อจัดการประชุมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เมืองจิ่วโจวในอีกหนึ่งเดือนให้หลัง ตราบใดที่สามารถสร้างผลประโยชน์แก่ชาวเมืองได้ เป็นเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของชาวเมือง หรือหากมีแนวคิดที่ส่งเสริมการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ก็สามารถมาเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ได้

แม้ว่าซือหม่าจี๋จะแอบด่าทอในใจ แต่ก็ไม่กล้าว่าอะไร เขายังคงเกลี้ยกล่อมด้วยความหวังดีว่า

“ฝ่าบาท เหล่าชาวเมืองทางชายแดนเหนือยังรอให้พระองค์ช่วยเหลืออยู่ หากพระองค์เสด็จไปอาณาจักรฉินแล้ว เหล่าชาวเมืองที่ต้องประสบความทุกข์ยากจะทำอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”

ฮ่องเต้หลู่ไม่อยากจะแยแสเรื่องการเมืองเลย เขาอยากจะไปเปิดหูเปิดตาที่งานประชุมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างเดียว เมื่อได้ยินซือหม่าจี๋เกลี้ยกล่อมอีก จึงได้พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า

“ท่านซือหม่า เรื่องที่ข้าตัดสินใจแล้ว ต้องขออนุญาตจากเจ้าตั้งแต่เมื่อไร?”

“ฝ่าบาท......”

ซือหม่าจี๋อยากจะเกลี้ยกล่อมเขาอีก แต่หน่วยลาดตระเวนก็ได้วิ่งเข้ามาในตำหนักอย่างรีบร้อน เขาคุกเข่าข้างเดียวแล้วประสานมือคารวะพูดว่า

“รายงานพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท! เมืองชายแดนทางเหนือถูกบุกรุกแล้ว กองกำลังสองแสนนายของอาณาจักรเยี่ยนโจมตีเข้ามาที่ชายแดนพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อได้ยินว่าทหารอาณาจักรเยี่ยนเข้ามาโจมตีอีกแล้ว ฮ่องเต้หลู่ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมาก แต่ซือหม่าจี๋กลับตกตะลึงแล้วรีบพูดว่า

“ลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพแล้วไม่ใช่รึ เหตุใดจึงมาโจมตีอีก?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์