อาณาจักรเยี่ยน ณ พระราชสำนัก
กัวฮวายกำลังดูหมายที่ส่งมาจากอาณาจักรหลู่ เขาพูดอย่างเหลือเชื่อว่า “ว่าอย่างไรนะ? ฮ่องเต้หลู่สละบัลลังก์แล้วงั้นรึ?”
กัวฮวายขมวดคิ้ว ไม่คิดว่าฮ่องเต้หลู่จะทิ้งภาระให้กับคนอื่นในยามคับขันเช่นนี้ มันเหนือความคาดหมายของเขาไป กระทั่งทำให้เขารู้สึกว่าสิ่งที่ทำไปไร้ประโยชน์
เมื่อเป็นเช่นนี้ กัวฮวายเองก็เกิดลังเลขึ้นมา นี่จะโจมตีต่อหรือไม่ แล้วเงินที่เรียกจากอาณาจักรหลู่สองพันล้านจะยังได้รึ?
ในขณะที่คิดอยู่ ก็มีขุนนางพระราชสำนักพูดขึ้นว่า
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ แม้ว่าฮ่องเต้หลู่จะสละบัลลังก์ แต่อย่างไรก็หนีไม่พ้นวันยังค่ำ กองทัพอาณาจักรเยี่ยนของเราอยู่ที่ดินแดนอาณาจักรหลู่แล่ว ฮ่องเต้องค์ใหม่แห่งอาณาจักรหลู่จะต้องมีการเคลื่อนไหวแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
“หากไม่ส่งทหารต่อต้านก็ต้องใช้เงินซื้อความสงบสุข มีเพียงสองทางเลือกนี้เท่านั้น กระหม่อมคิดว่า เราน่าจะส่งหมายให้พระราชสำนักอาณาจักรหลู่ ลองเชิงฮ่องเต้องค์ใหม่ แล้วจึงดำเนินแผนต่อไปดีรึไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
เมื่อพูดเช่นนั้นแล้วก็ได้ชี้แนวทางใหม่ให้กับกัวฮวายจริงๆ ฮ่องเต้องค์ใหม่แห่งอาณาจักรหลู่คือเฉิงอาหนิว เขารู้ถึงความสามารถของคนผู้นี้
ในตอนนั้นหากไม่ได้เฉิงอาหนิวพูดเตือนขึ้นระหว่างทางกลับอาณาจักรเยี่ยน แล้วเขาจะนำกองทัพก่อกบฏ ล้มล้างราชวงศ์อาณาจักรเยี่ยน แล้วได้กลายเป็นฮ่องเต้ได้อย่างไรกัน บัดนี้เฉิงอาหนิวมาสืบทอดบัลลังก์อาณาจักรหลู่ กัวฮวายเองก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูก
หากทำการโจมตีเมืองหลวงอาณาจักรหลู่บุ่มบ่าม แล้วเกิดติดกับของเฉิงอาหนิวเข้า ก็ต้องสูญเสียกำลังมากมาย ได้ไม่คุ้มเสีย บัดนี้ทหารอาณาจักรเยี่ยนก็ได้บุกเข้าชายแดนอาณาจักรหลู่ได้แล้ว สามารถใช้เรื่องนี้ข่มขู่ ลองเชิงเฉิงอาหนิวด้วยความสูญเสียที่น้อยที่สุดก่อน
เมื่อคิดเช่นนั้นแล้วกัวฮวายก็คิดว่าวิธีนี้ได้ผล จึงได้พูดว่า
“ส่งหมายไปยังพระราชสำนักอาณาจักรหลู่ ตราบใดที่ชดเชยเงินมาสองพันล้านตำลึง ข้าก็จะถอนกำลังออกจากอาณาจักรหลู่ หากไม่ตกลง กองกำลังของข้าจะกวาดล้างไปจนถึงเมืองหลวงอาณาจักรหลู่!”
......
ผ่านไปหลายวัน เรื่องที่ข่มขู่อาณาจักรหลู่เงียบไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่มีการตอบสนองใดๆเลย
กัวฮวายสีหน้าเคร่งขรึมแล้วถามขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ว่า
“มีข่าวอะไรจากอาณาจักรหลู่รึไม่?”
ขุนนางฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นต่างก็ก้มศีรษะไม่กล้าพูดอะไร
กัวฮวายเดือดดาลแล้วตบโต๊ะตกคอกทันทีว่า “บังอาจยิ่งนัก ส่งหมายไปยังอาณาจักรหลู่อีก อีกเจ็ดวันให้หลัง หากไม่ส่งเงินสองพันล้านตำลึงมายังอาณาจักรเยี่ยน ข้าจะปฏิบัติทันที!”
และแล้วกัวฮวายก็มุ่งหน้าไปยังเผิงหลายด้วยตนเอง เขามุ่งหน้าเข้าไปในเมืองหลวงอาณาจักรหลู่ และตรงไปยังตำหนักจินหลวนทันที
กัวฮวายนั่งอยู่บนบัลลังก์อาณาจักรหลู่แล้วพูดด้วยสีหน้ายโสว่า
“ดูท่าเก้าอี้บัลลังก์ของอาณาจักรหลู่จะครอบครองง่ายกว่าของอาณาจักรเยี่ยนเสียอีก!”
เหล่าทหารต่างก็คุกเข่าพร้อมเพรียงกัน แล้วพูดเสียงดังในตำหนักว่า
“ฝ่าบาทผู้ทรงปรีชาญาณ ทรงมีอายุยืนยาวหมื่นปีหมื่นปีหมื่นหมื่นปี!”
กัวฮวายสัมผัสกับช่วงเวลาแห่งชัยชนะ หากเฉิงอาหนิวไม่ตอบโต้ เช่นนั้นเขาก็จะเที่ยวแตร่ที่เมืองหลวงอาณาจักรหลู่ต่อไป จึงได้พูดเสียงดังว่า
“ส่งหมายไปยังหัวถิงทันที หากไม่มีใครมุ่งหน้ามา ดินแดนแห่งนี้จะถูกยึดครองเป็นดินแดนของอาณาจักรเยี่ยน แผนที่เก้าแคว้นเจ็ดอาณาจักรคงถึงเวลาต้องแก้แล้ว!”
เมื่อจดหมายถูกส่งไปแล้ว ก็ยังคงเงียบหายไปเช่นเคย ไม่มีการตอบสนองใดๆ แต่ครั้งนี้กัวฮวายไม่ได้ร้อนใจ อย่างไรเขาก็ได้ยึดครองเมืองหลวงอาณาจักรหลู่แล้ว เขาเที่ยวแตร่อยู่ในเผิงหลายอย่างสบายใจ รอให้เฉิงอาหนิวมุ่งหน้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...