องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 926

เฝิงตู่มองไปที่แอปริคอตในมือของซวงเอ๋อร์ แล้วพูดด้วยความรัก

“เจ้าไปเอามาจากที่ไหน?”

หลายปีที่ผ่านมาเขาทำงานเป็นช่างตีเหล็ก เฝิงตู่จึงไม่ใช่คนกระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวาอีกต่อไป เศษเหล็กที่กระเด็นจากการตีทำให้ร่างกายเขามีรอยไหม้ไปทั่วร่างกายและใบหน้า

บวกกับความจริงที่ว่ากองทัพอาณาจักรเยี่ยนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาต้องการผลิตอาวุธขึ้นมาจำนวนมาก ทำให้เฝิงตู่แทบไม่ได้พักเลย

ด้วยชีวิตที่ผันผวนของเขา ทำให้รูปลักษณ์เขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ผิวแทนขึ้น ผมเผ้ารุงรัง แม้ว่าจะเดินบนถนนก็ไม่มีใครเชื่อว่าเขาเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งของใต้หล้า เขามีรูปลักษณ์เหมือนช่างตีเหล็กไปเสียแล้ว

ซวงเอ๋อร์พูดพลาง กินแอปริคอตพลาง

“พ่อไม่ต้องสนใจหรอกว่ามาจากที่ใด หวานมาก พ่อลองชิมดูสิ!”

โดยไม่รอเฝิงตู่ปฏิเสธ ซวงเอ๋อร์ยัดแอปริคอตเข้าปากเขาทันที

เฝิงตู่ทั้งโกรธทั้งตลก แม้ว่าเฝิงตู่จะไม่ได้กังวลว่ามีคนมาฟ้อง แต่เขาคิดถึงเรื่องอาณษจักรที่กำลังตกอยู่ในความวุ่นวาย เขายังพูดเตือนว่า

“ตอนนี้ข้างนอกมีสงคราม เจ้าอย่าวิ่งไปที่อื่นล่ะ”

ซวงเอ๋อร์พยักหน้าแบบขอไปที จากนั้นเปลี่ยนเรื่อง

“พ่อ พ่อยังไม่เห็นด้วยซ้ำว่าข้างนอกมีเกราะเหล็กล้อมเมืองเราอยู่!”

ต่อให้ซวงเอ๋อร์ไม่พูด เฝิงตู่สามารถจินตนาการสภาพนอกเมืองได้ ผลลัพธ์ได้ถูกตัดสินเอาไว้อยู่แล้วว่าอาณจักรเยี่ยนต้องพ่ายแพ้

สถานการณ์นอกเมือง เฝิงตู่เองก็ทำอะไรไม่ได้ เขาทำได้แค่ปกป้องซวงเอ๋อร์อย่างสุดความมสามารถ จากนั้นพูดเตือนซวงเอ๋อร์อีกครั้ง

“รู้แล้วน่า เจ้าก็อย่าเดินเล่นสุ่มสี่สุ่มห้า หากไม่ทันระวังอาจจะมีคนไม่ดีจับตัวเจ้าไปได้!”

ซวงเอ่อร์ไม่สนใจ

“พ่อสอนทักษะข้า ไม่มีใครจับข้าได้หรอก พ่อไม่ต้องกังวล”

เฝิงตู่จิ้มไปที่ปลายจมูกซวงเอ๋อร์ด้วยความรัก และพูดเบาๆ ว่า

“ไปเอาอ่างน้ำร้อนมาให้พ่อ พ่อจะได้ล้างหน้า”

ซวงเอ๋อร์หยิบแอปรคอตใส่ปาก เคี้ยวแก้มตุ่ยๆ จากนั้นตอบตกลง

“ได้เจ้าค่ะ!”

เฝิงตู่มองไปที่ซวงเอ๋อร์วิ่งยกน้ำร้อนไปมา พลางส่ายหัวแล้วยิ้มอย่างขมขื่น

โชคชะตาของเด็กน้อยคนนี้ช่างพลิกผัน กลับต้องมาเกิดในยุคที่มีสงคราม

ไอ้กั๋วฮวาย ไอ้คนสารเลว ตั้งแต่เข้าขึ้นครองบัลลังก์ ประชาชนคนธรรมดาอย่างพวกเราก็แทบไม่มีอันจะกิน อาณาจักรล้อมพวกเราเอาไว้นานขนาดนี้ ราชสำนักยังเพิกเฉย ข้าคิดว่าจะเป็นการดีกว่าที่เขาจะยอมจำนนต่ออาณาจักรฉิน ตายไปก็ถือว่ากลายเป็นผีที่หิวโหย!”

“ยอมจำนนเสียดีกว่า หากเราทำเช่นนี้ต่อไป หากพวกเราไม่ตายด้วยน้ำมือพวกอาณาจักรฉิน เราคงต้องอดอยากจนตาย!”

เมืองที่ถูกปิดล้อมแห่งแรกถูกความหิวคุกคามจนไม่อาจทนได้ เข้าเปิดประตูเพื่อยอมจำนน

กองทัพอาณาจักรฉินเองก็ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ ไม่เพียงแต่ช่วยพวกเขา แต่ยังแจกจ่ายอาหารบรรเทาความหิวโหยให้อีก

เมื่อมีเมืองหนึ่งยอมจำนน เมืองอื่นๆ ย่อมทำตาม

ทุกอย่างดำเนินไปอย่างช้าๆ อาณาจักรเยี่ยนรู้ว่ากองทัพไม่เพียงแต่ไม่ฆ่าคนบริสุทธิ์ แต่ยังทำตามข้อตลกลงอีกทั้งยังช่วยเหลือชาวอาณาจักรเยี่ยนอีกด้วย ทำให้ประชาชนในอาณาจักรเยี่ยนมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม

หากไม่มีเจ้าหน้าที่ทางการมาคอยกดขี่อย่างไร้มนุษยธรรม ไม่มีการเก็บเงินภาษีที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะถูกจับ แต่กองทัพอาณาจักรฉินกลับให้การดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี

มีอาหารครบสามมื้อให้พวกเขากิน อีกทั้งยังมียารักษาโรคและสมุนไพรต่างๆ มารักษาอีกด้วย

กล่าวโดยสรุป หลังจากเข้ารวมกับอาณาจักรฉิน ประชาชนต่างมีชีวิตที่ดีขึ้น ทุกอย่างกำลังไปในทางที่ดี

เรื่องที่ทำให้เมืองที่ถูกปิดล้อมทุกเมืองแปรพักตร์ไปอยู่กับอาณาจักรฉิน

เมื่อมองทั้งอาณาจักรเยี่ยน ยังมีอยู่คนหนึ่งที่ยังคงขัดขืนนั่นคือเมืองเยี่ยนจิง ซึ่งเป็นที่ที่กั๋วฮวายประทับอยู่และพยายามต่อสู้อย่างสุดความสามารถ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์