เรื่องที่เคยคุยกันได้ปรากฏขึ้น ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
“ให้เวลาข้าสิบปี ข้าจะเปลี่ยนโลกนี้!”
ข้อตกลงสิบปี ยังเหลืออีกสี่ปี เฝิงตู่ทิ้งศักดิ์ศรีและความหนักแน่นนั้น เวลาได้ทำให้เขาไร้ความดื้อรั้น
“ก็แค่เร็วขึ้นสี่ปีเท่านั้น ข้าเฝิงตู่ยอมทุ่มเทให้เจ้า ไม่ใช่เพื่อตัวข้าเอง แต่เป็นเพราะนาง!”
สายตาของเฝิงตู่มองไปยังซวงเอ๋อร์ที่เข้าแถวอยู่
“เพื่อซวงเอ๋อร์ ขอเพียงนางได้มีชีวิตที่ดี ทุกอย่างก็คุ้มค่าแล้ว”
ซวงเอ๋อร์ที่อยู่ไม่ไกลโบกมือให้เขาอยู่ “ท่านพ่อรีบมาสิ! เพิ่งหนึ่งคนจะได้ข้าวเพิ่มอีกถุงนะ อย่ามัวแต่ยืนอึ้งอยู่สิ รีบมาเร็วเข้า!”
เฝิงตู่มองซวงเอ๋อร์ที่ร้อนใจจนกระทืบเท้า ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้ม ยัยเด็กคนนี้นำความสุขมาให้เขาอยู่เสมอ
“มาแล้ว!”
เมื่อพูดแล้วก็รีบวิ่งมายังข้างกายของซวงเอ๋อร์
ซวงเอ๋อร์มองไปรอบๆอย่างตื่นเต้น นางพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ดีจังเลยท่านพ่อ ใกล้จะถึงพวกเราแล้ว!”
เฝิงตู่พยักหน้าด้วยความรักแล้วจูงมือของนาง พวกเขาเข้าแถวอยู่ท่ามกลางผู้คน
เหล่าทหารอาณาจักรฉินเองก็คอยจัดระเบียบแถว
“อย่าแย่งกันอย่าเบียดมา! กรุณาเข้าแถวให้ดี! มีส่วนแบ่งสำหรับทุกคน!”
ในที่สุดก็มาถึงเฝิงตู่และซวงเอ๋อร์แล้ว ทั้งสองได้รับข้าวสองถุงแล้วเดินกลับไป ซวงเอ๋อร์พูดอย่างตื่นเต้นไปด้วยว่า
“ในที่สุดก็ไม่ต้องหิวอีกแล้ว!”
เฝิงตู่ก้มศีรษะมองซวงเอ๋อร์แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “เมื่อเรื่องนี้ผ่านไปแล้วทั่วทั้งใต้หล้าเป็นของอาณาจักรฉินได้สำเร็จ พ่อจะพาเจ้าไปมีชีวิตที่สบาย ไปรึไม่?”
ซวงเอ๋อร์กระโดดแล้วพูดว่า “ตราบใดที่ได้ตามท่านพ่อไป ซวงเอ๋อร์ไปที่ไหนก็ได้!”
เฝิงตู่ยิ้มแล้วพูดว่า “ซวงเอ๋อร์เป็นเด็กดีนะ คืนนี้พ่อจะพาเจ้าไปทานมื้อใหญ่”
เมื่อได้ยินว่าจะได้ทานมื้อใหญ่ ดวงตาของซวงเอ๋อร์ก็เป็นประกาย
“ว้าว! จริงรึ? ในเมื่อท่านพ่อพูดแล้วก็ห้ามผิดคำพูดนะ!”
เฝิงตู่ลูบศีรษะนางอย่างอ่อนโยน “วางใจเถิด เจ้าเด็กตะกละ!”
“เย้! ท่านพ่อดีที่สุดเลย!”
ซวงเอ๋อร์อุ้มข้าวแล้วเดินไปด้านหน้า เฝิงตู่เดินตามซวงเอ๋อร์ไปด้วยแววตาที่อ่อนโยน สองพ่อลูกเพลิดเพลินกับความสุขหลังจบสงคราม
“ข้าได้ยินเรื่องที่เจ้ามีลูก แต่เห็นว่าลูกเสียไปแล้ว แถมเจ้ายังได้ทำหินสุสานให้ด้วยนี่? แล้วเหตุใดจึงไปตามหาลูกล่ะ?”
ฉินเหยียนพูดอย่างจนปัญญาว่า “ตอนนั้นข้าเองก็คิดว่าลูกเสียไปแล้ว ต่อมาก็ได้เห็นว่า เรื่องในตอนนั้นมีความน่าแปลกหลายอย่าง หลังจากนั้นก็ได้ให้คนจากตำหนักอ๋องเหยียนตรวจสอบอย่างละเอียด และพบว่าลูกสาวของข้ายังมีชีวิต”
ฉินเหยียนได้พูดเรื่องราวความเป็นมาให้ฟังทุกอย่าง ฉินชงยิ่งประหลาดใจอย่างที่สุด
แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาเองก็เคยได้ยินมาบ้าง แต่เมื่อน้องสิบสี่เป็นผู้เล่าเอง เขาฟังจบแล้วก็รู้สึกแย่ และได้ถามอย่างระมัดระวังว่า
“ตอนนี้เด็กเป็นอย่างไรบ้าง มีเบาะแสรึยัง?”
ฉินเหยียนถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า “ข้าได้ตามรอยเบาะแสที่นางหายไป ตั้งแต่เยี่ยนจิงมุ่งหน้าไปทางเหนือ จนกระทั่งถึงทุ่งหิมะตะวันออกเฉียงเหนือ อ้อมทุ่งหญ้ามองโกเลียไปยังภูมิภาคตะวันตก”
“เดินทางผ่านภูเขาและแม่น้ำมากมาย ข้าได้หาทุกที่ที่คิดได้แล้ว เหลือแค่พลิกแผ่นดินแล้ว แต่ก็ยังหาไม่พบ”
ฉินชงสีหน้าหนักใจ ด้วยกำลังของน้องสิบสี่ หามาสี่ปีกว่าแล้วก็ยังหาไม่พบ ดูท่าสถานการณ์จะแย่มาก
“น้องสิบสี่ พี่ขอพูดอะไรที่ไม่น่าฟังหน่อยเถิด เจ้าตามหามานานหลายปีแล้ว มั่นใจรึว่าลูกยังมีชีวิตอยู่?”
ฉินเหยียนก้มมองต่ำแล้วถอนหายใจพูดว่า “ก่อนหน้านี้ข้ามั่นใจว่านางยังมีชีวิต แต่เมื่อตามหามาหลายปีก็ยังไม่มีผลลัพธ์ใดๆ ข้าเองก็ไม่สามารถตอบได้ว่านางเป็นหรือตายกันแน่ เพียงแต่สงสารลูกที่ข้ายังไม่เคยได้พบคนนั้น มีชะตาชีวิตที่น่าเศร้าเช่นนี้ เมื่อนึกถึงนาง ข้าก็ปวดใจอย่างยิ่ง”
ฉินชงตบบ่าของฉินเหยียนแล้วปลอบใจว่า “บางทีเด็กอาจไม่มีวาสนากับเจ้า แต่เจ้ายังหนุ่ม ร่างกายยังแข็งแรง ในอนาคตยังสามารถมีลูกได้อีกมากมาย”
“เราไม่พูดเรื่องน่าเศร้าใจกันแล้วดีกว่า เวลาจะเยียวยาทุกอย่าง ตอนนี้เราได้ยึดครองดินแดนอาณาจักรเยี่ยนแล้ว แล้วต่อไปจะทำอย่างไรดี?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...