องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 934

คำพูดที่เร่าร้อนของฉินเหยียนทำให้เหล่าชาวเมืองอาณาจักรเยี่ยนที่จับหัวชนท้ายไม่ถูก เข้าข้างอาณาจักรฉินโดยสิ้นเชิง

และในทันใดนั้นเองขุนนางใกล้ชิดกัวฮวายจู่ๆก็ออกมาชี้ฉินเหยียนแล้วตะโกนอย่างเดือดดาลว่า

“อย่าฟังคำล่อลวงของเขา กองทัพอาณาจักรฉินจะมีเมตตาเช่นนั้นได้อย่างไร เพียงแค่สังหารอ๋องเหยียนได้ ทั่วใต้หล้ากฌจะเป็นของอาณาจักรเยี่ยน! ยิงธนู! สังหารเขา!”

สีหน้าของฉินเหยียนมืดมนลงมาทันที

“หลงผิดกันจริงๆ รนหาที่ตายรึไง!”

มีเสียงดังปัง ศีรษะของคนที่เหิมเกริมเมื่อกี้นี้ระเบิดออกต่อหน้าของทุกคนในพริบตา เกิดการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไป ทุกคนตกตะลึงไปหมดและอึ้งอยู่กับที่!

ผู้ที่เหิมเกริมเมื่อครู่นี้ร่างกายทรุดแล้วตกลงจากกำแพงเมือง เมื่อเกิดเสียงดังร่างกระทบพื้นก็ทำให้ทุกคนได้สติทันที

เกิดอะไรขึ้น? ยังไม่ทันได้เคลื่อนไหวใดๆ แค่สายตาเดียวก็ทำให้ศีรษะระเบิดออกได้แล้ว! หรือว่าจะเป็นพลังแห่งเทพ สามารถสังหารได้อย่างไร้ร่องรอย?

ทุกคนต่างก็หวาดผวา ขนลุกไปทั่วร่าง ร่างกายสั่นเทา แล้วมองฉินเหยียนอย่างผวา

กัวฮวายเองก็งุนงงไปหมด ขุนนางใกล้ชิดอยู่ข้างๆเขาแท้ๆ กระทั่งตอนที่ศีรษะระเบิดออก เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงความร้อนของเลือดที่กระเด็นใส่ใบหน้าของเขาด้วย!

ร่างกายของเขาสั่นเทา มือที่ถือดาบอยู่เองก็สั่นเทา แม้ว่าในสนามรบจะเคยเข่นฆ่าศัตรูมามากมาย เคยเห็นแม้คนที่อวัยวะขาด แต่การตายที่น่าประหลาดเช่นนี้ ก็ทำเอาเขารู้สึกหวาดผวาไป

ฉินเหยียนยังคงหน้านิ่ง ราวกับได้กระทำเรื่องเล็กมากๆไป เขากวาดตามองทุกคนบนกำแพงเมืองแล้วพูดว่า

“ผู้ที่ติดตามข้าจะเจริญ ผู้ที่ต่อต้านต้องตาย ขอถามเป็นครั้งสุดท้าย ใครยินดีติดตามข้าบ้าง?”

คราวนี้เสียงของฉินเหยียนดังกึกก้องรอบตัวของชาวเมืองเยี่ยนจิงอยู่นาน ผู้ที่มีความเมตตาและความแข็งแกร่งเช่นนี้ ทำให้ชาวเมืองและเหล่าทหารอาณาจักรเยี่ยนเปลี่ยนข้างได้โดยสิ้นเชิง พวกเขาทิ้งอาวุธลงกันหมด ทุกคนในเยี่ยนจิงต่างคุกเข่าแล้วก้มคำนับ

“พวกข้าขอยอมแพ้! ยินดีภักดีต่ออาณาจักรฉินพ่ะย่ะค่ะ!”

มีฝูงชนกราบกรานมากมาย เสียงดังกึกก้องไปทั่ว

กัวฮวายมองเหล่าชาวเมืองและทหารคุกเข่ากันหมด ทั่วทั้งเมืองมีเพียงเขาที่ยืนอยู่ เสียงยอมแพ้ดังสนั่น ดังขึ้นแล้วดังขึ้นอีก ราวกับจะกลืนกินเขาไป

แรงกดดันที่มองไม่เห็นนั้นทำให้กัวฮวายสับสนไปหมด หัวใจของเขาเต้นรัว นี่ไม่มีโอกาสพลิกสถานการณ์แล้วเหรอ?

ฉินเหยียนจ้องกัวฮวายไม่ละสายตาแล้วถามว่า

“แม่ทัพกัว ใต้หล้าที่สูญเสียศรัทธาของชาวเมืองไปแล้ว ทุกคนในเยี่ยนจิงได้ขอยอมแพ้ แล้วเจ้าละ ยังหลงผิดอีกรึ?”

เมื่อกัวฮวายตายไปแล้วประตูเยี่ยนจิงก็เปิดออก ทหารอาณาจักรฉินเข้าไปในเมือง ทหารรถยนต์ได้เข้าไปในเมืองอย่างยิ่งใหญ่อย่างมาก

ชาวเมืองอาณาจักรเยี่ยนถูกกดขี่มานาน เมื่อเห็นคนใหญ่คนโตก็คุกเข่าลง ชาวเมืองเชื่อว่ากัวฮวายผู้เป็นฮ่องเต้แห่งอาณาจักรเยี่ยนบั่นคอตนเองตายที่กำแพงเมือง ไม่รู้ว่าอาณาจักรฉินที่ได้รับชัยชนะในสงครามจะมอบความอัปยศอดสูให้แก่พวกเขาแค่ไหน

แต่สิ่งที่เหล่าชาวเมืองคาดไม่ถึงก็คือ กองทัพอาณาจักรฉินไม่ได้ฆ่าหรือแย่งชิง และไม่ได้ปล้นใดๆ และไม่มีการเข่นฆ่าหรือทำลายล้างเลย

แต่พวกเขากลับเอาเสบียงออกมาแล้วทำข้าวต้มพร้อมแจกจ่ายให้ ให้อาหารและศักดิ์ศรีชาวเมืองอาณาจักรเยี่ยนอย่างมาก

“เข้าแถวมารับอาหาร มีสำหรับทุกคน ไม่ต้องแย่งกัน”

เมื่อเหล่าชาวเมืองที่หิวจนแทบคลั่งได้เห็นว่าทหารอาณาจักรฉินเป็นมิตร ก็ทำให้พวกเขาคลายความกังวลไปหมด

เฝิงตู่คุ้มครองซวงเอ๋อร์ที่ปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชายในฝูงชน เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอันตรายจึงได้ให้ซวงเอ๋อร์ถือถุงข้าวเพื่อไปเข้าแถวรับอาหาร

เฝิงตู่มองไปยังเมืองหลวงเยี่ยนจิง เมื่อครู่ที่ขบวนรถเข้ามาในเมือง เขาได้เหลือบมองฉินเหยียนปราดหนึ่งอยู่ห่างๆ ไม่พบกันหลายปี เขาดูโต สุขุมขึ้นไม่น้อยเลย ดูผ่านอะไรมาโชกโชน

รูปลักษณ์เปลี่ยนไป แต่จิตใจของเขาไม่เคยเปลี่ยนเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์