องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 959

เขาลากฉินชงนั่งลงบนเก้าอี้ หลังจากที่ทั้งสองนั่งคุยกันสักพัก ฉินเหยียนจึงลองถามขึ้นมาว่า

“พี่ใหญ่ ท่านพี่มีแผนจะขึ้นครองราชย์เมื่อใด?”

“ขึ้นครองราชย์รึ?”

ฉินชงอึ้งไป

แม้ว่าพวกเขาได้ปรึกษากันมาก่อนแล้ว ว่าให้ฉินชงขึ้นครองราชย์ต่อ แต่เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้จริงๆ ฉินชงกลับหวาดกลัวเล็กน้อย

“อาณาจักรไม่อาจไร้คนปกครองได้ บัลลังก์นั้นว่างมานานแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องดำเนินการเสียที” ฉินเหยียนกล่าว

“แต่... แต่ข้ากลัวว่าจะทำไม่ได้”

ฉินชงส่ายหน้าและต้องการปฏิเสธ

ฉินเหยียนยิ้ม

“พี่ใหญ่ ท่านพี่เป็นคนถ่อมตัวมาก ท่านพี่เหมาะสมที่สุดแล้ว”

ฉินชงเป็นคนอ่อนแอ แม้จะมีความกล้า แต่เขาไร้กำลัง แต่เขามีความกล้าคิดกลยุทธ์ อีกทั้งยังจัดการงานราชการได้ดี

อีกอย่างฉินชงเป็นคนที่นึกถึงอาณาจักรฉินมากกว่าใคร

คนเช่นนี้หากได้ขึ้นครองบัลลังก์ อีกทั้งยังมีเขาคอยหนุนหลัง พี่ใหญ่ต้องเป็นฮ่องเต้ที่ชาญฉลาดอย่างแน่นอน!

“แต่...” ฉินชงยังคงลังเล

“พี่ใหญ่ พี่หยุดปัดความรับผิดชอบเสียที หากท่านพี่ยังทำเช่นนี้อยู่ จะมีพวกกบฏปรากฏตัวขึ้นมาอีก ใครที่ต้องตกระกำลำบาก? ไม่ใช่ประชาชนในจิ่วโจวหรอกหรือ?”

ฉินเหยียนจ้องไปที่ฉินชงและแสร้งทำเป็นโกรธ

“ก็ได้”

ในที่สุดฉินชงก็ยอมฟังเขา

อันที่จริง พวกคังหย่งเหยียนและคนอื่นๆ ทำให้เขาเจ็บปวดใจกับเรื่องนี้

“เรื่องขึ้นครองราชย์ ต้องรีบจัดการ พรุ่งนี้พวกเจ้าเดินทางกลับไปยังเมืองหลวงเถิด”

“ทั้งหมดเป็นไปตามเจ้าว่าน้องสิบสี่”

ฉินชงพยักหน้าและไม่ปฏิเสธ

ฉินเหยียนรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินดังนั้น จู่ๆ ฉินชงถามขึ้นมา

“เจ้าวางแผนจะเดินทางไปยังภูมิภาคตะวันตกเมื่อใด?”

ฝั่งตะวันตก!

ฉินเหยียนครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้า

“ใช่แล้ว ตอนนี้เส้นทางสายไหมสามารถเดินทางได้อย่างราบรื่น อีกอย่างภาพวาดแผนภูมิประเทศในจะเสร็จแล้ว ตามสุภาษิตที่ว่าไม่ให้คนอื่นเข้ามารุกรานอาณาเขตผลประโยชน์ตัวเอง หากพวกเราไม่ส่งกองกำลังเข้าไปยึดครอง เราต้องแน่ใจว่าแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน พวกเขาไม่มีวันกล้ารุกรานอาณาจักรฉิน”

“นี่เป็นเรื่องดี คนป่าเถื่อนฝั่งตะวันตกนั้นทั้งศีลธรรมอีกทั้งยังเกเร แม้ว่าจะถูกจัดการไปไม่น้อย แต่ก็คงมีคนคอยขัดขวางอยู่เช่นกัน”

ฉินชงพยักหน้า จากนั้นเขาลังเลพูดออกมาว่า

“ต้องการให้ข้าช่วยอะไรหรือไม่?”

ฉินเหยียนยิ้มและลุกขึ้นมา

“พี่ใหญ่ พี่แค่รับผิดชอบอาณาจักรเท่านั้น ที่เหลือข้าจัดการเอง”

ฉินชงได้ยินเช่นนั้นเขาจึงพยักหน้า แต่เขาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงถามขึ้นมาอีกครั้ง

“ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าต้องการสร้างเรือ ข้าช่วยเจ้าได้ เจ้าต้องการให้ข้าสร้างอู่ซ่อมเรือไหม?”

“สร้างเรือ? ไม่ๆๆ พี่ใหญ่เข้าใจข้าผิดแล้ว การส้รางเรือขึ้นเพียงไม่กี่ลำไม่ได้ช่วยให้อาณาจักรฉินเป็นเจ้าแห่งทะเลขึ้นมาหรอก”

ฉินชงอึ้งไป ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะตอบกลับ

“เช่นนั้นเจ้าคิดจะสร้างเรือแบบใดกัน?”

ในเวลานี้จ้าวจือหย่าพาตัวหลินเย้าจู่เข้ามา

“ท่านอ๋อง หลินเย้าจู่มาเข้าเฝ้าท่านเพคะ” นางพูดขึ้น

ฉินเหยียนเหลือบมองไปที่หลินเย้าจู่แล้วพยักหน้า

“ให้เขาขึ้นมา”

หลินเย้าจู่เดินขึ้นไปหาและรายงานทันที

“เข้าเฝ้าอ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าไม่ได้ให้เจ้าพักผ่อนสักสองสามวันหรือ? ร่างกายของเจ้ายังเจ็บอยู่ไหม?” ฉินเหยียนถามอย่างห่วงใย

หลินเย้าจู่พยักหน้าแล้วรายงานว่า

“ขอบพระทัยอ๋องเหยียน แต่กระหม่อมสบายดีแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้นไปนั่งเป็นเพื่อนข้าเสียหน่อย ข้ามีเรื่องจะถามเจ้าอยู่พอดี”

ฉินเหยียนพยักหน้า จากนั้นเดินมายังห้องประชุม

ฉินเหยียนขอให้คนอื่นออกไปก่อน ให้ต้าหย่งรออยู่ด้านนอก ไม่อนุญาตให้ใครอยู่ด้านในเลย จากนั้นเขาพูดว่า

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าต่อจากนี้ข้าต้องการทำสิ่งใด?”

“กราบทูลรายงานอ๋องเหยียน กระหม่อมได้ยินมาว่าอ๋องเหยียนต้องการสร้างเรือรบใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

หลินเย้าจู่ถามออกไป

“เอ๋”?”

ฉินเหยียนเลิกคิ้วแล้วพูดว่า

“ดูเหมือนว่าสัญชาตญาณเจ้าจะดีมาก ถูกต้อง หากต้องการใช้ชีวิจอย่างเงียบสงบบนแผ่นดินที่เหลืออยู่ ข้าสนใจแค่จิ่วโจวเท่านั้น ที่อื่นไม่สำคัญ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์