หลิวเชียนเชียนยิ่งงุนงงมากขึ้น แต่เมื่อเห็นว่าฉินเหยียนจริงจังมากขนาดนั้น นางพยักหน้าอย่างจริงจังมากแล้วพูดว่า
“เช่นนั้นไม่ว่าอย่างไรหม่อมฉันจะขยายสำนักเฉามากขึ้นเพคะ!”
เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว ใบหน้าของนางก็แสดงความหนักแน่นออกมา
เมื่อเห็นท่าทีที่จริงจังของหลิวเชียนเชียนแล้ว ฉินเหยียนก็อดยื่นมือไปลูบศีรษะของนางแล้วชื่นชมไม่ได้ว่า
“เหนื่อยหน่อยนะ!”
เมื่อพูดจบแล้วก็ก้มจูบหน้าผากของนาง
หลิวเชียนเชียนไม่ได้หลบหลีก นางยิ้มแล้วเอนอิงไปที่ไหล่ของฉินเหยียน หลับตาลงอย่างมีความสุข
......
วันถัดมา ฉินเหยียนและคนอื่นๆได้เตรียมการเรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะเดินทางตลอดเวลา
“เตรียมการเรียบร้อยแล้วเพคะ เราเดินทางกับเลย”
หยางจิ้นซิ่วมองสัมภาระใหญ่ๆแล้วมองขอความเห็นจากฉินเหยียนอย่างจริงจัง
“ได้!” ฉินเหยียนพยักหน้ายินยอม
และแล้วเขาก็ขึ้นรถม้าไปแล้วโบกมือพูดว่า “ออกเดินทางได้!”
เมื่อสิ้นเสียงแล้วรถม้าก็ได้เดินทางไป
ฉินเหยียนที่อยู่ในรถม้ากำลังมองออกไปด้านนอกที่แสนไกล
......
ดินแดนอู๋ เสิ่นเฟยได้มาที่นี่ก่อนฉินเหยียนหลายวันแล้ว เขาไม่ได้เป็นห่วงเรื่องการสร้างอู่ต่อเรือหลวงเลย อย่างไรด้วยนามชื่อก็ไม่มีใครกล้าไปสร้างเรื่อง ฮ่องเต้อู๋เถาซงจือได้ทราบเรื่องแล้ว ก็ให้ความร่วมมืออย่างสุดกำลัง ไม่ขัดขวางแม้แต่น้อย
ดังนั้นเสิ่นเฟยจึงมุ่งความสนใจไปยังอู่ต่อเรือของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการรักษาเสถียรภาพของคำสั่งซื้อที่มีอยู่ของอู่ต่อเรือแล้ว หรือการเตรียมการย้ายที่ตั้ง ก็ล้วนเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก แต่วันนี้พอเขามาที่อู่ต่อเรือก็พบกับปัญหาใหญ่เข้า
ช่างฝีมือดีหลายคนของอู่ต่อเรือมารวมตัวกันอยู่ด้านนอก แม้จะมีแสงแดดแรงอยู่พวกเขาก็ไม่เข้าไปทำงาน
“มารวมตัวอะไรกันอยู่ด้านนอกรึ?”
เสิ่นเฟยเข้ามาในอู่ต่อเรือแล้วเห็นภาพนี้ เขาขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเข้มงวด
ช่างฝีมือพูดว่า “ได้ยินคนพูดกันที่ท่าเรือใกล้ๆ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ”
เมื่อพูดเช่นนั้นแล้วช่างฝีมือชราคนนั้นก็นิ่งไป จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า
“ข้ามักรู้สึกว่าข่าวลือนี้ไม่ชอบมาพากล หากเป็นความจริง เช่นนั้นอู่ต่อเรืออาณาจักรหลู่ก็กำลังต่อต้านเราอย่างเปิดเผย ไม่เช่นนั้นจู่ๆจะทำเรื่องไม่ได้ผลประโยชน์เช่นนี้ได้อย่างไร!”
แม้ว่าช่างฝีมือคนนี้จะมีอายุมากแล้ว แต่เขากลับตอบสนองไว เขาเองก็เห็นว่าข่าวลือไม่ชอบมาพากล จึงอยากจะเตือนเสิ่นเฟย
เสิ่นเฟยได้ยินดังนั้นแล้วก็ครุ่นคิด ก่อนหน้านี้เจ้าของอู่ต่อรองพวกนั้นได้ทิ้งท้ายอย่างโหดเหี้ยมเอาไว้ ที่เริ่มต่อต้านเขาเร็วขนาดนี้เชียวรึ?
“ข้าพอจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น จะต้องเป็นฝีมือของพวกหวังจี้ตงแน่ๆ!”
เสิ่นเฟยทำเสียงเย็นชา จากนั้นก็ออกคำสั่งว่า “ยังไม่ต้องสนใจทางอู่ต่อเรือที่อาณาจักรหลู่ พวกเขาอยากจะทำสงครามลดราคาสินะ งั้นเราก็แข่งกับพวกเขา รับรองว่าเราจะยังมีงานให้ทำ”
“หา?” เมื่อช่างฝีมือได้ยินเสิ่นเฟยพูดดังนั้นก็ตกใจยกใหญ่
“เถ้าแก่เสิ่น นี่มันวิธีการจัดการศัตรูหนึ่งพัน ฝั่งตนสูญเสียไปแปดร้อยเชียวนะ ข้าได้ยินมาว่าอาณาจักรหลู่ไม่ได้มีเพียงแห่งเดียวที่กำลังลดราคา หากเราออกมาสู้ก็เป็นเพียงกำลังที่เดียว ต่อต้านพวกเขาหลายแห่งพร้อมกัน หากจู่ๆถูกดึงเข้าไปในเรื่องนี้จะต้องเกิดการขาดทุนมากแน่นอน!”
ช่างฝีมือพูดอย่างกังวล เขาคำนึงถึงเสิ่นเฟยจริงๆ พวกเขาช่างฝีมือได้ทำงานให้กับอู่ต่อเรือตระกูลเสิ่นมานาน และมีความผูกพัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...