สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 1475

แต่วินาทีต่อมา หลินหยางคว้าข้อมือของลูกศิษย์คนนั้นไว้ จากนั้นใช้สันมืออีกข้างฟาดใส่แขนของเขาโดยตรง

แควก!

แขนของลูกศิษย์คนนั้นหักทันที กระดูกแตกละเอียด เหลือเพียงหนังที่ยังหุ้มกระดูกเอาไว้

“อ๊าก! !”

เสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่ว

ลูกศิษย์ของวังไร้ปรารถนามองตาค้าง

“หลินหยาง คุณ…คุณบังอาจ!”

“คุณคิดจะเป็นศัตรูกับอาวุโสใหญ่เหรอ?”

“กบฏ! หลินหยางกบฏแล้ว!”

ลูกศิษย์ที่เหลือตะโกนเสียงสั่น

“กบฏ? ผมว่าพวกคุณมากกว่ามั้ง? ถ้าผมไปหาอาวุโสใหญ่ตอนนี้ จากนั้นบอกวิธีฝึกร่างเทพยุทธให้เขา เขาจะต้องพอใจมากอย่างแน่นอน และต้องให้ความสำคัญกับผม! ส่วนสถานะของผมในวังไร้ปรารถนาก็จะอยู่สูงขึ้น! พวกคุณอาศัยคนมากกว่ารังแกผม ปฏิบัติกับผมแบบนี้! พวกคุณไม่กลัวหลังจากจบเรื่องนี้ ผมและคนของวังเวหากลับมาคิดบัญชีกับพวกคุณเหรอ?” หลินหยางถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

คำพูดประโยคนี้ทำให้พวกเขาสะดุ้ง แต่ละคนถึงกับตัวสั่นไม่หยุด

“มีเหตุผล…”

“นี่…นี่…”

“ยังไม่รีบคุกเข่าลงขอโทษอีก!” หลินหยางตะคอกอย่างกะทันหัน

ลูกศิษย์ของวังไร้ปรารถนาเข่าทรุด คุกเข่าลงพื้นโดยตรงทันที

“ศิษย์…ศิษย์พี่หลิน โปรดอภัยให้พวกเราด้วย…”

“พวกเราโง่ไม่รู้ความ ล่วงเกินศิษย์พี่หลิน พวกเราขอโทษ…”

คนทั้งกลุ่มรีบพูดเสียงสั่น ไม่หลงเหลือความอวดดีก่อนหน้านี้แม้แต่นิดเดียว

ชิวซ่านและคนของวังเวหาที่อยู่ด้านข้างมองตาค้าง

เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำ ทำให้คนกลุ่มนี้ตกใจถึงขนาดนี้…

นี่ก็คือหลินหยางเหรอ?

“ครั้งนี้ให้มันจบแค่นี้ อย่าให้มีครั้งต่อไป! ลุกขึ้นเถอะ พาผมไปวังไร้ปรารถนาเดี๋ยวนี้” หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ

“ได้ ได้…ศิษย์พี่หลิน ทางนี้ เชิญทางนี้…”

คนทั้งกลุ่มรีบลุกขึ้นยืน ท่าทางของแต่ละคนดูเคารพจนถึงขีดสุด

เดิมทีหลินหยางไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้อาวุโสใหญ่สนใจร่างเทพยุทธของเขาแล้ว เกรงว่าแม้แต่เลือดวิญญาณลั่วหลินก็น่าจะไม่รอด ถ้าหากหลินหยางออกจากสำนักสวรรค์นิรันดรทั้งแบบนี้ เกิดอาวุโสใหญ่ส่งคนไปตามล่าถึงเจียงเฉิน แบบนั้นหลินหยางก็จะไม่ปลอดภัย แถมยังทำให้เมืองเจียงเฉินเกิดความวุ่นวาย

ในเมื่อเป็นแบบนั้น ควรให้เรื่องทั้งหมดมันจบที่นี่ดีกว่า

หลังจากนั้นประมาณสิบนาที ในที่สุดหลินหยางก็มาถึงวังไร้ปรารถนา

ตอนนี้ในวังไร้ปรารถนาเต็มไปด้วยเสียงเอะอะโวยวาย

ยังไม่ทันได้เดินเข้าไปข้างใน ได้ยินเสียงดังออกมาถึงข้างนอกแล้ว

“อาวุโสใหญ่! คุณรังแกกันเกินไปแล้ว! ผมส่งคนของหออักษรเจียงเซียงกลับไปตามที่คุณบอกแล้ว ทำไมคุณต้องบีบคั้นกันด้วย?”

“อาวุโสสอง! เรื่องของหออักษรเจียงเซียงมันเกิดจากคุณ คุณเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าคุณจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง? ผมให้คุณไปจัดการเรื่องนี้มันก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ผมเคยพูดแบบนั้นก็จริง แต่เรื่องของหออักษรเจียงเซียงมันไม่ใช่ปัญหาของผมคนเดียว! ตอนนั้นผมรับคำสั่งสำนักให้ไปชิงยา พวกคุณเป็นคนบอกให้ผมลงมือ! เพราะแบบนี้ผมถึงฆ่าลูกชายของคนคนนั้น! ทั้งหมดที่ผมทำลงไปก็เพื่อสำนักสวรรค์นิรันดร ส่วนพวกคุณเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นกับหออักษรเจียงเซียง จึงผลักผมออกไปรับผิดชอบ! อาวุโสใหญ่! ผมได้ยินมาว่ามันเป็นความคิดของคุณใช่หรือเปล่า?”

“มันไม่ใช่ความคิดของผม ผมก็แค่เสนอไปตามสถานการณ์ จะทำหรือไม่ทำตามไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม ผมก็ทำอะไรไม่ได้! อาวุโสสอง นี่คุณมาถามหาความรับผิดชอบเหรอ?”

“คนของหออักษรเจียงเซียงไปแล้ว! ผมมาถามหาความรับผิดชอบกับคุณเพื่ออะไร? ครั้งนี้ต้องยกความดีความชอบทั้งหมดให้หลินหยาง! วันนี้ถ้าคุณจะบีบคั้นหลินหยาง ก็เท่ากับบีบคั้นผม! และผมจะไม่ตอบตกลง!”

“อาวุโสสอง! ! ! ความหมายของคุณคือ? คิดจะขัดคำสั่งของผมอย่างนั้นเหรอ?”

“อาวุโสใหญ่! นี่คือหลักการของผม! คุณรู้จักนิสัยของผมดี!”

“ดี! ดี! ดีมาก! ดูเหมือนสำนักสวรรค์นิรันดรของเราคงไม่มีที่ให้วังเวหาของพวกคุณอยู่อีกแล้ว! ใครก็ได้! จับพวกเขาไปขังคุกสวรรค์ให้หมด! ผมจะเข้าพบเจ้าสำนัก! ขอให้เขามาสอบสวนอาวุโสสอง!”

“รับทราบ!”

“อาวุโสใหญ่ คุณไม่มีสิทธิ์สั่งขังผม!”

“เจ้าสำนักกำลังเก็บตัว ผมเป็นคนรับผิดชอบเรื่องเล็กใหญ่ภายในสำนัก ทำไมผมถึงไม่มีสิทธิ์?”

“วิธีค่อนข้างยาก ผมพูดออกไปแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร? ไม่มีใครสามารถทำได้!” หลินหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

“คุณลองพูดมาก่อน” อาวุโสสามพูด

“ได้ ต้องการฝึกร่างเทพยุทธ อันดับแรกต้องเปิดชีพจรหลอมกายทั้งหมดในร่างกาย! จำเป็นต้องใช้โสมราชันย์สิบรากเปิดชีพจร และโสมราชาสิบรากหลอมกาย! เมื่อเป็นแบบนี้ก็สามารถเข้าสู่ขั้นตอนที่สองต่อ” หลินหยางพูด

โสมราชันย์? โสมราชา? ต้องใช้สิบราก?

ทุกคนตกตะลึง

ของวิเศษแบบนี้ หาได้หนึ่งรากก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว นี่ต้องไปหาถึงสิบราก? จะไปหามาจากไหน?

“เหลวไหล! เหลวไหลสิ้นดี! ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ากันเปิดชีพจรหลอมกายจำเป็นต้องใช้โสมราชันย์และโสมราชา! ไม่มีใครสามารถแบกรับฤทธิ์ของยาสองชนิดนี้! หลินหยาง! คุณเลิกมาโกหกพวกเราได้แล้ว!” เจิ้งถงหยวนที่อยู่ด้านข้างก้าวออกมาตะคอกเสียงดัง

“พวกคุณไม่เชื่อ งั้นผมก็ช่วยไม่ได้แล้ว” หลินหยางยักไหล่

“คุณ…” เจิ้งถงหยวนโมโหจนถึงขีดสุด

แต่อาวุโสใหญ่ที่อยู่ด้านข้างส่งสายตาบอกให้เขาเงียบ

เจิ้งถงหยวนหันไปมองอาวุโสใหญ่ จากนั้นก้าวถอยหลัง

อาวุโสใหญ่ตะคอก “หลินหยาง! ในเมื่อเป็นแบบนั้น คุณไปหาโสมราชันย์และสมราชามาจากไหน?”

“ผมก็แค่โชคดีเท่านั้น”

“หมายความว่าเลือดวิญญาณลั่วหลิน…ก็แค่โชคดีเหมือนกัน?”

“ใช่” หลินหยางพยักหน้า แต่ในแววตากลับมีความระแวงแลบผ่าน

อาวุโสใหญ่หัวเราะเหอะเหอะ พูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ “ดูเหมือนคุณจะเป็นบุตรแห่งสวรรค์ของจริง แต่เพื่อพิสูจน์คำพูดของคุณ ผมอยากให้คุณทำอะไรบางอย่าง!”

“เรื่องอะไร?”

“ผมอยากให้คุณผ่าข้อมือของคุณ ดึงเส้นเอ็นของคุณออกมาให้พวกเราดูว่าร่างกายของคุณได้ผ่านการเปิดชีพจรหลอมกายแล้วจริงๆ! ถ้าหากเป็นเรื่องจริง! พวกเราก็จะเชื่อคุณ! ไม่ทำให้คุณลำบากใจอีก ว่ายังไง?” อาวุโสใหญ่ยิ้มแล้วพูด

คำพูดประโยคนี้ ทำให้สีหน้าของใครหลายคนเปลี่ยนไปทันที

ผ่าข้อมือดึงเส้นเอ็น?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา