สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา นิยาย บท 1566

หลินกู่ในวันนี้ช่างพิเศษกว่าวันไหนๆ!

แม้ว่าเขาจะมีผมหงอกและเคราสีขาว ร่างกายซูบผอม ทว่าใบหน้าของเขาแดงก่ำและเต็มไปด้วยพลัง โดยเฉพาะแววตาคู่นั้น ราวกับมีแสงสีทองเปล่งประกายออกมา ไม่ใช่ว่าคนชราทุกคนจะมีแววตาแบบนั้นได้

ยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยที่รับรู้ได้ถึงพลังรัศมีของหลินกู่ที่แผ่ซ่านไปรอบๆ

เพียงไม่นาน ยอดฝีมือจำนวนมากต่างพากันตกตะลึง

ไม่มี!!

บริเวณโดยรอบของหลินกู่ ไม่มีลมปราณ!

"เป็นไปได้ยังไง? ทำไมหลินกู่ถึงไม่มีลมปราณเลยสักนิด? หรือว่า...เขาฝึกฝนจนทำให้มันหายไปแล้ว?"

"เป็นไปไม่ได้! จู่ๆ จะหายไปจากการฝึกฝนได้ยังไง? กลัวว่า...มีเพียงเหตุผลเดียว!"

"กลับไปสู่พื้นฐาน?"

ซี๊ด!

ทุกคนต่างพากันสูดลมหายใจด้วยความตกใจ

ทุกคนต่างพากันตกใจกับคำพูดเมื่อสักครู่

นี่มันอะไรกัน ผู้ที่มีความรู้ด้านการต่อสู้ต่างก็รู้ดี

"เป็นไปไม่ได้..." เซี่ยกั๋วไห่ตกตะลึง

"คุณปู่ การกลับสู้พื้นฐานคืออะไรเหรอคะ?" เซี่ยโยวหลานถาม

"คงเป็นความสามารถประเภทหนึ่งกระมัง แม้ว่าปู่จะไม่ใช่ผู้ที่มีศิลปะการต่อสู้ แต่ก็เคยได้ยินมาบ้าง ว่ากันว่าผู้ที่ฝึกฝนไปถึงระดับนั้นถือว่าแข็งแกร่งเกินกว่าจะอธิบายได้! หลินกู่อาจจะฝึกฝนไปถึงขั้นนั้นแล้วก็ได้" เซี่ยกั๋วไห่กล่าวอย่างเคร่งขรึม

"ทำไมจู่ๆ เขาถึงฝึกฝนไปถึงขั้นกลับไปสู่พื้นฐานอย่างนั้นเหรอคะ?"

"ไม่รู้เหมือนกัน ปู่คิดว่าตระกูลหลินคงทำการเพิ่มระดับความสามารถให้เขากระมัง!"

"เพิ่มระดับความสามารถ? คุณปู่คะ หมายความว่ายังไงคะ?"

"ก็เหมือนกับการกินยาหรือการฉีดยาเข้าไปนั่นแหล่ะมั้ง! หนูก็รู้ว่าพวกนักกีฬาที่ฉีดสารเสพติดหรืออะไรเข้าไปเพื่อเพิ่มระดับความสามารถของตัวเองและให้ตัวเองชนะ หลินกู่ก็คงเป็นประมาณนั้น หนูก็น่าจะพอบ้างมาบ้างใช่ไหมว่าตระกูลหลินก็มีทักษะด้านการแพทย์อยู่บ้าง"

"หนูเคยได้ยินค่ะ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าความสามารถทางการแพทย์ของพวกเขาจะมาถึงขั้นนี้แล้ว แต่คงเทียบไม่ได้กับหมอเทวดาหลินหรอกมั้งคะ?"

"ก็ไม่แน่เสมอไปหรอกนะ" เซี่ยกั๋วไห่กล่าวขึ้นมา

คำนี้ทำให้เซี่ยโยวหลานสะดุ้งเล็กน้อย "ไม่แน่? คุณปู่ หรือว่าพวกเขา...จะเก่งกว่าหมอเทวดาหลินหรือคะ?"

"ปู่ไม่รู้ แต่ทักษะด้านการแพทย์ของตระกูลหลินนั้นลึกลับซับซ้อนเกินจะคาดเดา นี่เป็นเรื่องที่คนในเยี่ยนจิงจำนวนมากต่างไม่รู้ นับว่าตระกูลหลินเป็นเสือหมอบ มังกรซ่อนเร้นเลยทีเดียว สิ่งที่หนูเห็นนั่นเป็นเพียงภายนอกเท่านั้น"

"งั้น...คุณปู่คะ แบบนี้จะทำยังไงดี? หมอเทวดาหลินจะแพ้ไหมคะ?

เซี่ยโยวหลานแทบจะร้องไห้ออกมา

แต่เซี่ยกั๋วไห่ก็ทำอะไรไม่ได้และทำได้เพียงถอนหายใจ "เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ปู่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ปล่อยให้เป็นไปตามชะตาฟ้าลิขิตเถอะ!"

เซี่ยโยวหลานเอามือกุมปากและตาแดงก่ำ

ขณะนี้มีคนจำนวนมากต่างพากันทยอยเข้ามา ตระกูลฟู่ก็มาถึงแล้ว นอกจากนั้นยังมีคนสำคัญอีกจำนวนหนึ่ง

หนึ่งในนั้นแม้แต่เจียงหนานซงก็ตกตะลึง แต่ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้จะไม่ชอบให้ใครเข้าไปรบกวน และแสดงให้เห็นว่าไม่อยากให้เจียงหนานซงเข้าใกล้ จากนั้นก็หาสถานที่นั่งเงียบๆ อยู่ที่มุมหนึ่งด้วยตัวเองและเฝ้ารอการแข่งขันที่จะเริ่มขึ้นเพียงลำพัง

สมาคมศิลปะการต่อสู้ได้ตั้งกฎเอาไว้ว่าห้ามทำการไลฟ์สดในการแข่งขันครั้งนี้

เพราะยังไงซะหมอเทวดาหลินก็ถือเป็นคนดังในโซเชียลในปัจจุบัน หากไลฟ์สดออกไปและหมอเทวดาหลินแพ้เข้า จะทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์สนั่นหวั่นไหว ฉะนั้นอาจทำให้สัญญาณบนยอดเขาเยียนหลงถูกบดบังไปได้

"เวลาใกล้เข้ามาแล้ว!"

ไม่รู้ว่าใครพูดขึ้นมา

ทุกคนต่างพากันสูดลมหายใจ

หลินกู่ยิ้มและเดินไปบนยอดเขาบริเวณที่ว่าง จากนั้นมองไปรอบๆ ผู้คนที่เข้ามาและตะโกนออกไป "หมอเทวดาหลินล่ะ? ทำไมถึงยังไม่มา? หรือคิดจะยอมแพ้?"

"ฉันว่าเขาคงกลัวจนไม่กล้ามาแล้วมั้ง"

"ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง จะมาแข่งได้ยังไง?"

"ระยะเวลาเพียงหนึ่งคืนก็ทำให้เขารู้ถึงความน่าเกรงขามของคุณหลินกู่ ตอนนี้เขาคงกลัวแล้วมั้ง"

"ฮ่าๆๆ...."

ผู้คนโดยรอบต่างพากันหัวเราะเยาะด้วยความเย้ยหยัน

เจียงหนานซงหัวเราะโดยไม่พูดอะไรและเฝ้ารออย่างเงียบๆ

เมื่อถึงเวลา หลินหยางกลับยังไม่ปรากฏตัวขึ้นมา เขาก็จะตัดสินให้หลินกู่เป็นผู้ชนะ และตามหนังสือยินยอมที่ทั้งสองได้ร่วมลงนาม เขาจะแจ้งไปยังแวดวงการศิลปะการต่อสู้ทั่วประเทศให้ทำการไล่ล่าฆ่าหลินหยาง!

เพราะถึงยังไงหนังสือยินยอมนี้ก็มีความขลังและต้องยึดถือปฏิบัติ ใครก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ

ไม่ว่าใครก็ตามที่ไม่ปฏิบัติตามกฎของหนังสือยินยอม ก็จะถูกไล่ล่าด้วยยอดฝีมือผู้มีศิลปะการต่อสู้จากทั่วทั้งประเทศ!

"เจ้าหมอนั้น ทำไมยังไม่มา?" ฟางหงมองนาฬิกาอย่างไม่สบอารมณ์

เหลือเพียงหนึ่งนาทีเท่านั้น

"ยอมแพ้แล้วจริงๆ เหรอ?"

และขณะนี้เอง

ตี๊ด ตี๊ด

"อะไรนะ? อาจารย์ของจั่วเสินอู่? งั้นก็คงเป็น...ยอดจักรพรรดิวงการต่อสู้เลยนะสิ?"

"ว้าว! เขาเป็นถึงยอดจักรพรรดิวงการต่อสู้ เสวียฉงโหรว? ชายคนนั้นคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งเมื่อสิบปีที่แล้ว?"

"ฉันก็ว่าทำไมคุ้นหน้า! เมื่อก่อนฉันเคยเจอเขามาครั้งหนึ่ง! ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะได้เห็นอีกครั้ง!"

"สุดยอดไปเลย!"

เกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้นมา ทุกคนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์

หลินหยางขมวดคิ้วและจ้องมองชายชราที่อยู่ตรงหน้าอย่างประหลาดใจ

จ้านอี้ตาวที่มีสมญานามเทพแห่งดาบ ส่วนชายชราที่อยู่ตรงหน้าคือจักรพรรดิแห่งวงการต่อสู้...

สมญานามที่ว่าช่างตั้งได้ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามอย่างมาก...

"คุณมีอะไรจะแนะนำสั่งสอนไหมครับ?" หลินหยางถาม

"พ่อหนุ่ม ได้ยินมาว่าคุณและศิษย์ของผมมีเรื่องผิดใจกันเล็กน้อยใช่ไหม?" เสวียฉงโหรวถามขึ้นสีหน้าเรียบเฉย

"ทำไมเหรอ? คุณต้องการเอาคืนแทนลูกศิษย์ของคุณงั้นเหรอ?" หลินหยางถามกลับ

"ศิษย์ที่ฝึกฝนไม่เก่งกล้า หากพ่ายแพ้ลงเพราะคุณ นั่นก็เป็นเพราะตัวเขาเอง แต่หากกระทบถึงชื่อเสียงของผม ผมไม่มีทางปล่อยไว้แน่! เมื่อวานหลังจากที่เขามาหาคุณ เขาก็กลับไปพร้อมกับนิ้วมือที่หักลง! คงเป็นฝีมือของคุณใช่ไหม?" เสวียฉงโหรวกล่าว

เมื่อคำนี้พูดออกไป ทุกคนต่างเงียบสงบ

นิ้วทั้งสิบถูกหักลง?

สายตาทุกคนจับจ้องไปที่สองมือของจั่วเสินอู่

จากนั้นทุกคนจึงสังเกตเห็นสองมือของจั่วเสินอู่ถูกผ้าพันแผลพันเอาไว้อย่างแน่นหนา เห็นได้ชัดว่านิวของเขาถูกต่อกลับไปเหมือนเดิมแล้ว แต่บาดแผลอาจไม่หายไปเร็วขนาดนั้น

สีหน้าของจั่วเสินอู่เปลี่ยนไป และจากนั้นก็หดนิ้วมือเข้าหาตัวเอง

เมื่อมองถึงตอนนี้ ทุกคนต่างพากันตกตะลึง!

จั่วเสินอู่และหมอเทวดาหลินเคยมีเรื่องบาดหมางกันเหรอ?

แถมยังตัดนิ้วมือของเขาไปจนหมด?

เขาเป็นถึงยอดผู้ปราดเปรื่องลำดับที่ห้าแห่งเทียนเจียวเชียวนะ!

แต่กลับถูกคนอื่นตัดนิ้วมือ...

หมอเทวดาหลินน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?

หลายคนต่างไม่เชื่อ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา