หากอิงตามที่หยูซานสุ่ยพูดมา เจ้าตำหนักพญามังกรเซียวเทียนเซ่อคนนี้น่าจะอายุประมาณสี่สิบหรือห้าสิบปี
เห็นได้ว่าเป็นวัยกลางคน แต่สำหรับนักศิลปะการต่อสู้แล้วนั้น อายุเช่นนี้ไม่ถือว่าน้อยเกินไป
ต้องรู้ว่า หวางอี้เซิง หยูซานสุ่ยและคนอื่นๆ ต่างก็ใช้ชีวิตมากว่าร้อยปีแล้ว และตอนนี้พวกเขาก็ยังอยู่ในช่วงวัยกลางคนด้วยเช่นกัน ด้วยสุขภาพร่างกายของพวกเขาแล้ว การจะมีอายุอยู่ถึงสองร้อยปีนั้นถือเป็นง่ายปกติอย่างมาก
"เขาก่อตั้งตำหนักพญามังกรเพียงไม่กี่ปีและมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแบบนี้จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน"
หลินหยางพึมพำและจากนั้นก็มองไปที่ชวี่เทียน "ตอนนี้เจ้าตำหนักมังกรม่วงอยู่ที่ไหน?"
"ประธานหลิน ตอนนี้เจ้าตำหนักมังกรม่วงอยู่ที่ห้องรับรองแขกครับ" ชวี่เทียนกล่าวอย่างนอบน้อม
"ตกลง เดี๋ยวผมจะไปพบเธอแล้วกัน"
หลินหยางกล่าวพร้อมกับลุกขึ้นยืนและหันหลังเดินออกจากห้องไป
เพล้ง!
เสียงถ้วยน้ำชาแตกดังขึ้น
เลขาที่รับผิดชอบเสิร์ฟน้ำชาตกใจจนรีบหดตัวและถอยไปยืนชิดกำแพงโดยไม่กล้าพูดอะไร
"นี่มันน้ำชาอะไรกัน? สุนัขยังไม่รับประทานเลย! กล้าที่จะเอามารับแขกอย่างฉันงั้นเหรอ? ไปเปลี่ยนมาเดี๋ยวนี้! ฉันต้องการชาหลงจิ่งชั้นดี! ได้ยินไหม!"
เจ้าตำหนักมังกรม่วงตะคอกเสียงดัง
น้ำเสียงที่เกรี้ยวกราดทำให้เลขาหน้าซีดและตัวสั่นสะท้าน
แต่เมื่อได้ยินว่าต้องการชาหลงจิ่ง เลขาก็ทำหน้าเศร้า "ขอโทษด้วยนะคะคุณผู้หญิง ที่นี่ไม่มีชาหลงจิ่งค่ะ"
เดิมทีหยางหัวก็ไม่ใช่บริษัทที่อู้ฟู่ร่ำรวยอะไร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือทางทรัพยากรการเงินจากอี้เซียนเทียนและไป๋ฮั่วสุ่ย หยางหัวคงไม่สามารถดำเนินกิจการได้อีกต่อไป อย่าว่าแต่ก่อสร้างซ่อมแซมอาคารเลย แม้แต่ยาที่ใช้รักษาผู้ป่วยก็ถือเป็นปัญหาสำคัญอย่างแน่นอน
ฉะนั้นหลินหยางจึงขอให้ทุกคนในหยางหัวพยายามประหยัดมัธยัสถ์และไม่ฟุ่มเฟือยสิ้นเปลืองกับสิ่งไม่จำเป็น
หากไม่ใช่เพราะต้องการให้สุขภาพร่างกายของคนในหยางหัวพัฒนาขึ้น หลินหยางคงไม่ขอให้ทางโรงอาหารจัดเตรียมอาหารบำรุงร่างกายแน่นอน
ทว่าสถานการณ์เช่นนี้จะคงอยู่ไม่นาน สูตรยาที่หลินหยางส่งให้หม่าไห่ไปจัดการได้รับการจดสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว และขณะเดียวกันโรงงานผลิตยาก็เริ่มเพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งอีกไม่นานก็จะออกสู่ตลาดและถึงตอนนั้นหยางหัวจะต้องมีรายได้มหาศาลอย่างแน่นอน
"หยางหัวออกจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้ กลับไม่มีแม้แต่ชาหลงจิ่งอย่างนั้นเหรอ? ที่นี่มันถ้ำขอทานหรือยังไงกัน?"
เจ้าตำหนักมังกรม่วงกล่าวอย่างเยือกเย็น
ฉินไป่ซงและคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆ ต่างทำหน้าเครียดและไม่กล้าพูดอะไร
โจวสืออวิ้นทำหน้าลำบากใจและฝืนยิ้มออกมา "ท่านแม่ ท่านแม่อย่าทำให้พวกเขาลำบากใจเลย เงินทางของหยางหัวจำนวนมากถูกใช้ไปกับการรักษาช่วยชีวิตผู้ป่วยหมดแล้ว การรักษาที่นี่เป็นการรักษาฟรีไม่คิดเงิน และค่าใช้จ่ายในการรักษาแต่ละวันก็จำนวนมหาศาลมาก ฉะนั้นหยางหัวไม่ได้ร่ำรวยอะไรเลย ชาหลงจิ่งอะไรนั่น อันที่จริงจะดื่มหรือไม่ดื่มก็ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอครับ?"
"ทำไม? ลูกอยู่ที่นี่เพียงไม่กี่วันก็เริ่มเข้าข้างหมอเทวดาหลินอะไรนั่นแล้วเหรอ?"
เจ้าตำหนักมังกรม่วงขมวดคิ้วกล่าว
"เจ้าตำหนัก จะพูดออกมาเช่นนี้ไม่ได้ อย่างน้อยหมอเทวดาหลินก็เคยช่วยชีวิตพวกเราไว้ ทำไมเราจะไม่มีความรู้สึกดีๆ ต่อเขาล่ะ?"
โจวโม่กล่าว
"จริงด้วยเจ้าตำหนัก อีกอย่างเราก็ค้นพบแล้วว่าหมอเทวดาหลินคนนี้เป็นคนดีมาก สถาบันการแพทย์พรรคซวนอีที่นี่ช่วยรักษาโรคและอาการป่วยต่างๆ ให้ผู้ป่วยจำนวนนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่ล้วนเป็นประชาชนที่ยากจน ฉะนั้นเจ้าตำหนัก...ผมอยากให้เจ้าตำหนักเข้าใจในตัวหมอเทวดาหลิน"
จื่ออ้ายเองก็เดินไปข้างหน้าและกล่าวออกมาอย่างอดไม่ได้
เจ้าตำหนักมังกรม่วงจับจ้องไปที่คนเหล่านั้นอย่างเยือกเย็น
เธอไม่รู้ว่าหมอเทวดาหลินใช้วิธีการอะไรที่ทำให้บรรดาคนของตำหนักมังกรม่วงต่างพากันช่วยพูดแทนเขา...
เธอไม่พูดอะไรและเพียงเก็บความโกรธไว้ในใจและรอคอยการมาถึงของหลินหยาง
"อาจารย์!"
และขณะนี้เอง ฉินไป่ซงชำเลืองมองไปที่ประตูพร้อมกับร้องเรียกอย่างดีใจ
ทุกคนต่างหันไปมอง
"หมอเทวดาหลิน!"
"หมอเทวดาหลิน!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สุดยอดลูกเขยของเทพธิดา
ทำไมขาดๆหายๆ...
อยากอ่านต่อครับ...
ลงวันละ10ตอนไม่ได้เหรคับ 5ตอนมันน้อยไป กว่าจะอ่านจบลืมหมดพอดี...
อ่านสนุกนางเอกค่อนข้างโง่ซื่อบื้อ...
อยากอ่านต่อ...
เขียนดีอ่านสนุกครับ...
D...
ทำไมบางตอนเนื้อหาหายไปหมดเหลืออยู่แค่ไม่ถึง6บรรทัดเลย...
หลินหยาง...ผมอยากบอกว่า คุณมันกระจอก 5555...
บทหาย...