ฉู่เชียนหลีกินข้าว เที่ยวผู้ชาย ฟังคำซุบซิบของชาวบ้าน และเดินตลาดครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดสองมือไพล่หลังเดินกลับจวนอ๋องเฉินอย่างสบายใจ ราวกับชายชราที่มีอายุมากแล้ว
เมื่อเหล่าคนรับใช้เห็นใบหน้าอัปลักษณ์ที่มีปาน ตกใจจนเดินเลี่ยงสามส่วน
ยามดึก
ยามราตรีในจวนดั่งวารี แสงเทียนล้นเหลือ สายลมอ่อนตีหน้า เงาต้นไม้กวัดแกว่ง สงบสุขสำราญ
ทันใดนั้นเสียงจืดชืดของผู้ชายก็ดังขึ้นกลางอากาศ ไม่รู้ว่ามาจากที่ไหน
“ไปไหนมา”
ฉู่เชียนหลีหันกลับมา ก็มองเห็นเงาอันสูงศักดิ์ร่างหนึ่งเดินออกมาจากยามราตรีที่มืดสลัวอย่างเชื่องช้า ชายคนนั้นเดินทวนแสงเข้ามา เงาร่างยาวที่ถูกสะท้อนกระทบลงบนร่างกายของนาง ทำให้นางมองไม่เห็นใบหน้าของเขา
รู้สึกเพียงดวงตาสีดำคู่นั้นลึกล้ำมาก มองไม่เห็นก้นบึ้ง
“กลับบ้านแม่”
ตอนออกจากบ้านก็บอกนายแล้วไม่ใช่เหรอ?
นายบกพร่องทางสติปัญญาเหรอ?
นายหูหนวกเหรอ?
นายปัญญาอ่อนเหรอ?
แววตาเฟิงเย่เสวียนครึ้มลง เดินผ่านข้างกายนาง แล้วหยุดอยู่ตรงระหว่างไหล่ที่เฉียดผ่าน
หันหน้า โน้มตัว ริมฝีปากบางเฉียดผ่านติ่งหูของนาง
“ตัวหอมเช่นนี้เลยหรือ?” น้ำเสียงแหบแห้ง
ฉู่เชียนหลีตกใจจนร่างเกร็ง พริบตาที่ริมฝีปากบางเฉียดผ่านติ่งหู เหมือนกับกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย รู้สึกชาจนแทบยืนไม่มั่นคง
เขา…
เจ้าผู้ชายบ้าคนนี้เข้าใกล้นางโดยไม่มีสาเหตุใดๆ คงจะไม่ใช่หิวจนไม่เลือกอาหารกระมัง
นางคาดเดาความคิดของชายคนนั้น กล่าวอย่างตะลึงงัน “เป็น…เป็นตั้งแต่เกิด”
“ฮืม” เขาค่อยๆ หันมา ดวงตาคู่นั้นเหมือนหมาป่าโดดเดี่ยวในความมืดมาก จ้องมองนาง พุ่งเป้ามาที่นาง ทำให้หนังศีรษะของนางหดเกร็งอย่างไม่มีเหตุผล
เขามองดูนาง เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “นี่พระชายาเกิดมาพร้อมกับกลิ่นแป้งหอมราคาถูกเช่นนี้หรือ?”
“...”
มักจะรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีความหมายอื่นแฝงอยู่ในคำพูดเสมอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ