ฉินเหยี่ยนเย่ว์จิตใจไม่สงบ
นางไม่อยากทนรออีกต่อไป จึงสวมเสื้อคลุม ถือตะเกียงแล้วเดินไปทางห้องครัวใหญ่
เปลวไฟภายในห้องครัวใหญ่กำลังส่องสว่าง
ตอนนี้เป็นเวลาอาหาร คนในจวนท่านอ๋องเจ็ดไม่มาก หลังจากที่ส่งอาหารไปให้บรรดาเจ้านายแล้ว ก็เป็นเวลาที่บรรดาบ่าวรับใช้ทานอาหาร
ตอนที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ผลักประตูเข้ามา ก็เห็นบรรดายายแก่ผู้ดูแลบ้านสิบกว่าคนนั่งล้อมวงอยู่ที่โต๊ะใหญ่ตัวหนึ่งเข้าพอดี ตรงกลางโต๊ะวางหม้อไฟหนึ่งอัน ในหม้อไฟกำลังต้มเนื้อวัวชั้นดี
ด้านข้างยังมีผักอาหารนานาชนิดจัดวางอยู่ อาหารรสเลิศครบถ้วน หลากหลายและหรูหราเสียยิ่งกว่าอาหารที่นางทานไม่น้อย
พวกเขาพลางกินเนื้อพลางดื่มเหล้า ด้านในห้องอบอุ่น แต่ละคนใบหน้าแดงก่ำ
หลังจากที่ประตูถูกฉินเหยี่ยนเย่ว์เปิดออก ลมหนาวพร้อมกับเกล็ดหิมะก็พัดเข้ามา
“ผู้ใดที่ไม่ปิดประตู? ข้าหนาวจะตายอยู่แล้ว ไม่ปิดประตูเป็นเพราะกลัวจะหนีบโดนหางหรืออย่างไร?” คนที่นั่งอยู่ริมสุดกร่นด่าพร้อมกับหันหลังกลับ
หลังจากที่เขาเห็นฉินเหยี่ยนเย่ว์ หน้าถอดสีทันที “พระ พระชายา ท่านมาได้อย่างไรขอรับ?”
“เฟ่ยชุ่ยล่ะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์คร้านจะอ้อมค้อม “ข้าให้นางมาขอสิ่งของบางอย่างที่ห้องครัว เหตุใดจึงไม่เห็นแม้แต่เงาละ?”
“พระนางทรงพูดจาน่าขันนะเพคะ สาวใช้ของท่านหายตัวไป เหตุใดจึงโล่มาตามหาที่ห้องครัวล่ะเพคะ” ยายแก่คนหนึ่งเอ่ย “ห้องครัวกินคนได้หรืออย่างไรเพคะ?”
“พระนางมาตามหาผิดที่แล้วเพคะ จุ๊จุ๊ แม้ว่านังหนูคนนั้นจะซูบผอมไปหน่อย แต่กลับมีเอวเล็กคอด อกผายไหล่ผึ่ง นัยน์ตายังแฝงไปด้วยเสน่ห์ยั่วยวน ไม่แน่ว่าอาจจะไปแอบนัดพบกับใครก็ได้นะเพคะ ห้องครัวของพวกเราซ่อนคนไม่ได้หรอกเพคะ” ยายแก่คนนั้นกล่าวต่อ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย
หลังจากที่นางโบยหงเย้าครั้งก่อน ก็ทำให้ผู้คนจำนวนหนึ่งตกตะลึง หลังจากเกิดเรื่องนั้นขึ้น มีคนจำนวนน้อยมากที่กล้าทำตัวจองหองใส่นางเช่นนี้
ยายแก่ผู้นี้ดื่มสุรามากเกินไป จึงเผยสันดานออกมา
“เฟ่ยชุ่ยอยู่ที่ไหน?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์น้ำเสียงเย็นยะเยือกขึ้น “หลังจากที่นางมาที่ห้องครัว แล้วไปที่ใดต่อ?”
“พระนางทรงถามได้ประหลาดเหลือเกินเพคะ” ยายแก่อีกคนเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “สาวใช้ของท่านไปที่ใด ท่านมาถามพวกเราไม่ได้นะเพคะ”
“นางมีมือมีเท้า ไปที่ไหนพวกเราก็คงไปยุ่งมิได้ พวกเราจะต้องมัดนางเอาไว้หรืออย่างไรเพคะ?”
ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำหมัดแน่น ความไม่สงบภายในจิตใจยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
เฟ่ยชุ่ยมีนิสัยขี้ขลาด ไม่ว่าจะพบเจอกับเรื่องอะไรก็ไม่มีทางขัดขืน เพียงแค่ก้มหน้ายอมรับเงียบ ๆ
หลายวันมานี้ นางคิดว่าการโบยหงเย้า จะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู พวกยายแก่ของห้องครัวกลุ่มนี้จะสงบปากสงบคำ เกรงใจต่อเฟ่ยชุ่ยขึ้นมาบ้าง จะไม่จงใจทำให้นางต้องรู้สึกลำบากใจ
แต่ตอนนี้ดูท่าว่า นางคงประเมินความเลวของคนพวกนี้ต่ำไป
พวกยายแก่กับผู้ดูแลบ้านพวกนี้ อาจจะทำอะไรให้เฟ่ยชุ่ยลำบากใจ ตอนที่นางมองไม่เห็นก็เป็นได้
“ข้าขอถามอีกครั้ง เฟ่ยชุ่ยอยู่ที่ไหน หลังจากที่นางออกจากห้องครัวแล้วไปที่ใดอีก?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยเสียงขรึม
“ข้าถามรอบนี้เป็นรอบที่สามแล้ว อย่าให้พูดซ้ำเกินสามครั้ง ถ้าหากพวกเจ้ายังไม่พูดจาให้รู้เรื่อง อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!” ดวงตาของนางแฝงไปด้วยความเกรี้ยวกราด
คนจิตใจดีถูกรังแก เป็นเพราะเฟ่ยชุ่ยจิตใจดีและขี้ขลาดจนเกินไป ถึงได้ถูกคนพวกนี้ข่มเหงรังแกเอา
“อีกเรื่อง ข้ายังไม่ได้ทานมื้อเย็น แต่พวกเจ้ากลับกินดื่มอย่างอิ่มหนำสำราญอยู่ที่นี่ เป็นครั้งแรกที่ข้าได้รู้ว่า กฎของจวนท่านอ๋องเจ็ดคือพวกบ่าวรับใช้ทานข้าวก่อน ค่อยนำอาหารเหลือให้เจ้านาย ข้าคงต้องมาคุยกันดี ๆ กับพวกเจ้าหน่อย”
เมื่อพวกยายแก่ได้ยินคำพูดของนาง สีหน้าก็มีความเหยียดหยามอย่างเห็นได้ชัด
คนที่หลบอยู่ด้านหลังยายแก่คนหนึ่งบ่นพึมพำ “มาวางท่าเป็นเจ้านายตอนนี้คิดจะข่มผู้ใด? มีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าตำแหน่งพระชายาของท่านได้มาได้อย่างไร? จวนท่านอ๋องเจ็ดของพวกเราไม่มีเจ้านายเช่นนี้ ก็เป็นแค่นังแพศยาคนหนึ่ง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน