วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1032

เยี่ยหวู่ตี้พูดขึ้นว่า:“พวกของหลงอีแกร่งเกินไป หากพวกเราร่วมมือกันล่ะก็ พวกเรารับมือไม่ไหวแน่”

“ดังนั้น มีเพียงการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งเท่านั้นถึงจะพอมีโอกาศรอด”

“ทุกคนว่ายังไง?”

เทพทหารพูดขึ้น:“ฉันเห็นด้วยกับกลยุทธ์ที่เยี่ยหวู่ตี้พูด ถ้าเป็นการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งละก็ยังพอได้อยู่”

เยี่ยชิวพยักหน้า:“ฉันก็คิดว่าความคิดของลุงสามเป็นความคิดที่ดี”

ปรมาจารย์ตู้เอ้อร์พนมมือไหว้แล้วพูดขึ้นว่า:“อานิโทพุทธ ข้าก็คิดว่าการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งเป็นความคิดที่ดี”

ผู้อาวุโสเยี่ยก็พูดต่อจากปรมาจารย์ตู้เอ้อร์ขึ้นว่า:“ในเมื่อทุกคนคิดว่าการต่อสู้แบบหนึ่งต่อหนึ่งเป็นความคิดที่ดี งั้นพวกเรามาวางแผนกันว่าจูเก่อหยุนจะสู้กับใคร?”

“ฉันจะจัดดการกับจูเก่อหยุนเอง”

น้ำเสียงที่เย็นชานั้นดังขึ้น จากทางด้านประตูรของห้องอาหาร

ทุกคนเงยหน้าขึ้นและเห็นหลงหนี่ว์สวมเสื้อคลุมสีทองเดินเข้ามาจากด้านนอก

วันนี้หลงหนี่ว์ไม่สวมหน้ากากแสดงใบหน้าที่สวยงามของเธอให้ทุกคนเห็น

หน้ารูปทรงเมลอน ดวงตาสีน้ำตาลอัลมอนด์

คิ้วที่โค้งราวกับสะพาน

ผิวพันธุ์ที่ขาวใส

และจมูกของหลงหนี่ว์นั้นโด้งเป็นอย่างมาก วันนี้เธอมีสไตล์ที่แปลกใหม่เล็กน้อย และใบหน้าที่สวยงามของเธอก็มีความสง่างามมาก

มากจนทำให้เยี่ยหวู่ตี้ถึงกับตกตะลึงและลุกขึ้นยืน:“ภรรยาสุดที่รัก ช่วงนี้ไปทำอะไรมา?”

“ช่วงนี้ติดต่อไม่ได้เลย?”

“นี้ยังคิดอยู่เลยว่า ถ้าวันนี้เธอไม่มาจะ ฉันจะหย่า......”

ปัง!

ก่อนที่เยี่ยหวู่ตี้จะพูดจบ เขาก็ถูกหลงหนี่ว์ต่อยเข้าให้

หลังจากนั้นหลงหนี่ว์ก็หันไปทางทุกคนแล้วพูดว่า:“ขอโทษที่ฉันควบคุมสามีได้ไม่ดีพอ ทำให้ทุกคนเห็นเรื่องตลกแล้ว”

ทุกคนที่นั่งอยู่พยายามที่จะกลั้นขำ

“ผู้นำสำนักพราหมณ์ เชิญนั่ง”ผู้อาวุโสเยี่ยลุกขึ้นยืนและทำมือเชื้อเชิญให้นั่งลง

เต็มไปด้วยความสุภาพ

ที่หลงหนี่ว์รีบมาในเวลาหน้าสิ่วหน้าวานแบบนี้ นั้นก็เป็นการแสดงออกแล้วว่าเธอรักเยี่ยหวู่ตี้จริงๆ

“ไม่ต้องเกรงใจไป พูดได้เลย เธอเรียกฉันว่าพ่อได้เลยนะ”

หลงหนี่ว์ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า:“คุณพ่อคะ ฉันสั่งสอนเยี่ยหวู่ตี้แบบนี้ คุณพ่อไม่โกรธใช่ไหมคะ?”

ผู้อาวุโสเยี่ยยิ้ม:“สั่งสอนได้ดี ขอบคุณเธอมากนะ”

เยี่ยหวู่ตี้หันไปมองผู้อาวุโสเยี่ยอารมย์เป็นในว่า ลูกตัวเองถูกภรรยาทำร้ายขนาดนี้แล้วยังจะเข้าข้างอีก

สรุปแล้วยังเห็นฉันเป็นลูกชายอยู่ไหม?

“คุณพ่อไม่ต้องขอบคุณหรอกคะ หลังจากนี้ฉันยังต้องสั่งสอนเขาอีกเยอะ”หลงหนี่ว์พูดจบก็ยื่นมือไปดึงเยี่ยหวู่ตี้

หึ!

เยี่ยหวู่ตี้ทำน้ำเสียงไม่สนใจหลงหนี่ว์

“ทำไม รังเกียจที่เมื่อกี้ใช้แรงน้อยไปใช่ไหม?จะเอาอีกสักรอบไหมล่ะ?”หลงหนี่ว์ถามขึ้น

เยี่ยหวู่ตี้หันไปมองหลงหนี่ว์อย่างโกรธๆ:“ภรรยา เธออย่ามาเยอะนะ แล้วจะหาว่าฉันไม่เตือน”

“ทำไม จะทำไม?”จู่ใบหน้าของหลงหนี่ว์ก็ดูเย็นชา ดวงตาคู่นั้นของเธอก็ดูดุดันเหลือเกิน

“ฮ่าฮ่าฮ่า โถวว ที่รัก ฉันก็แค่ล้อเธอเล่นเท่านั้นเอง อย่าคิดเป็นจริงเป็นจังเลยนะ”

พูดจบเยี่ยหวู่ตี้ก็จับมือหลงหนี่ว์ เขานั้นลุกขึ้นมาจากพื้นและพูดขึ้นอย่างตั้งใจว่า:“ที่รัก เธอมาตั้งไกล ต้องเหนื่อยมากแน่ๆเลยใช่ไหม?”

“ให้ฉันบีบไหล่ให้นะ”

เยี่ยต้าเป่าถึงกับตกตะลึง เพราะว่าเขาเคยกลัวเยี่ยหวู่ตี้มากที่สุด เพราะทุกครั้งที่เขาเจอเยี่ยหวู่ตี้นั้น เยี่ยหวู่ตี้จะมีใบหน้าที่เย็นชาหน้านิ่งอยู่เพียงสีหน้าเดียว

ยิ่งไปกว่านั้นเยี่ยหวู่ตี้นั้นยังเป็นคนช่วยสอนทักษะต่างๆให้กับเยี่ยต้าเป่าอยู่บ่อยๆ

บ่อยครั้ง เยี่ยต้าเป่านั้นไม่เคยคิดเลยว่าในสายตาของเขา ลุงสามที่ดุร้ายเหมือนเสือจะขี้ขลาดได้ขนาดนี้

เยี่ยต้าเป่ารู้สึกมีความสุขมากและพูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำว่า:“สามสิบปีเหอตง สามสิบปีเหอซี”

“ช่างเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันจริงๆ”

“ลุงสามอา ลุงสาม คุณก็มีวันนี้กับเขาด้วย”

ถึงแม้ว่าเยี่ยต้าเป่าจะพูดเสียงเบา แต่ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็สามารถได้ยินอย่างชัดเจน

“แต่การฆ่าหลงอีนั้นช่างยากเหลือเกิน!”

เยี่ยหวู่ตี้พูดขึ้น :“ถ้าคิดจะฆ่าหลงอี ก็มีวิธีเดียวแล้วล่ะ พวกเราต้องร่วมมือกันและพยายามอย่างถึงที่สุด”

ปรมาจารย์ตู้เอ้อร์ถอนหายใจและพูดขึ้น:“น่าเสียดาย คนของพวกเรานั้นน้อยเกินไป ใช่แล้ว อมตะชางเหม่ยก็ได้รับจดหมายท้าจากพระราชวังต้องห้ามนิ ทำไมเข้าถึงไม่มาล่ะ?”

เยี่ยหวู่ตี้พูดขึ้นอย่างโมโหว่า:“อย่าไปหวังอะไรกับตาเฒ่านั้นเลย เชื่ออะไรไม่ได้ ฉันโทรไปหาเป็นล้านสายแล้วก็ยังไม่รับสายฉันสักสาย”

“ยังจะบอกว่าจะไปด้วยกัน”

“ถ้ามีคนมากกว่านี้ เราก็สามารถจัดโต๊ะไพ่นกกระจอกด้วยกันได้”

หลังจากที่เยี่ยหวู่ตี้พุดจบทุกคนก็เงียบอย่างหมดคำจะพูด

เยี่ยหวู่ตี้พูดต่อว่า: “ศึกนี้ พวกเราต้องพึ่งพากันเองแล้วล่ะ”

“แล้วผู้อาวุโสถังล่ะ?”เยี่ยชิวถามขึ้น :“ผู้อาวุโสถังเป็นยังไง?”

ผู้อาวุโสเยี่ยส่ายหน้า :“ผู้อาวุโสถังยังไม่แสดงออกอย่างแน่ชัด แต่เหมือนว่ากำลังจะพิจารณาอยู่”

“ฉันเข้าใจได้ เพราะว่าพระราชวังต้องห้ามนั้นไม่ได้จัดการได้ง่ายๆ”

“ฉันคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าพวกเรากับพระราชวังต้องห้ามไม่ว่าจะช้าหรือเร็วก็ต้องทำสงครามกัน ด้วยเหตุนี้ฉันกับเทพทหารจึงค่อยติด่อกันและเตรียมพร้อมมาโดยตลอด”

“เทพหทารช่วยพวกเตรียมฝึกกำลังคนจำนวนห้าสิบคน ทุกคนล้วนแล้วเป็นคนมีฝีมือมาก สามารถเทียบกับระดับมังกรชั้นสูงได้เลยทีเดียว”

“ฉันจะระดมพลสิบคน นำโดยถังเฟยแลหลงเยี่ย เพื่อพาต้าเป่าและแม่ของเขาออกจากเมืองหลวง”

“ทหารที่พร้อมจะเสียชีวิตคนอื่น ๆ นั้นจะติดตามพวกเราไปที่พระราชวังต้องห้าม”

“ในคืนพรุ่งนี้เราจะสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง”

“ตัวเตรียมให้พร้อมรับกับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้น”

“จะเป็นรึตายก็ขึ้นอยู่กับสวรรค์จะกำหนดแล้วล่ะ”

เมื่อบท บทสนทนาจบลง

เยี่ยชิวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะตั้งแต่เริ่มสนทนาจนจบสนทนานั้น เทพทหารพูดน้อยมาก

เยี่ยชิวพักอยู่ที่บ้านของตระกูลเยี่ย

วันถัดไป

วันที่ 30 เดือน 12 ศึกชี้ขาดกำลังจะมาถึง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ