วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1033

มันเป็นวันส่งท้ายปีเก่า

ในตอนเช้า

เสียงของลมเหนือก็ลอย

กิ่งก้านในสวนปลิวไสวตามสายลม ส่งเสียง "ครวญคราง" ซึ่งทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า

และในตอนเที่ยง

พระอาทิตย์ก็เริ่มที่จะส่องแสงและท้องฟ้าก็เริ่มแจ่มใส

สวนในบ้านของตระกูลเยี่ยตอนนี้ประดับตกแต่งเต็มไปด้วยโคมไฟหลากสี เพื่อต้นรับเทศกาลวันตรุษจีน

เยี่ยหวู่ตี้รู้สึกว่ามันไม่จำเป็น เพราะหลังจากคืนนี้เมืองหลงทั้งเมืองอาจจะหายไปเลยก็ได้

แต่ว่าผู้อาวุโสเยี่ยนั้นยืนยันที่จะทำ

ผู้อาวุโสเยี่ยพูดขึ้นว่า:“ถ้าวันนี้จะต้องตาย ตอนระหว่างทางเดินไปก็ต้องกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันไปด้วยระหว่างทาง”

แต่ทว่าภายในใจของทุกคนนั้นรู้สึกหนักอึ้ง

ทุกคนนั่งกินข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

เพื่อต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ผู้อาวุโสเยี่ยก็ได้ลงมือเข้าครัวทำอาหารเองหลายจานเลยทีเดียว

ในช่วงบ่ายโมง

ทุกคนนั่งทานอาหารอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จเยี่ยชิวนั้นก็กลับเข้าห้องโทรหาเฉียนจิ้งหลาน หลินจิงจื้อ ไป๋ปิง ฉินหว่าน ซูลั่วยิง เชียนซานเสวี่ยแล้วก็โทรหาสวีชางจินคนละสาย

หลังจากนั้น

เยี่ยชิวนำของขวัญไปที่บ้านของตระกูลไป๋เพื่อเยี่ยมเยือนนายพลไป๋จิงเหยา

วันนี้ไป๋ปิงอยู่เจียงโจวไม่ได้กลับปักกิ่ง และไป๋ยวี่จิงนั้นก็อยู่ที่ต่างประเทศ เลยทำให้บ้านตระกูลลไป๋นั้นเงียบสงบกว่าบ้านอื่นหลังๆ

เมื่อเยี่ยชิวพบกับนายพลไป๋จิงเหยา เขานั้นสวมใส่เสื้อทหารสีเหลืองผสมเทา กำลังนั่งผิงไฟอยู่ในสวน

และมีตำรวจสองคนอยู่เป็นเพื่อน

“เสี่ยวเยี่ย วันนี้เป็นวันสำคัญ ทำไมยังทำตัวว่างมาหาคนแก่อย่างฉันอีก?”

“นายไม่ควรมานะ”

“นายควรเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้อย่างสุดความสามารถ”

ข่าวลือเกี่ยวกับศึกตัดสินนั้นแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวง ขนาดนายพลไป๋จิงเหยายังรับรู้

“นายพลไป๋ วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าพี่ไป๋ก็ไม่ได้กลับมา ฉันเลยมาเยี่ยมท่านแทนเธอ”

เยี่ยชิวถามด้วยความห่วงใยว่า: “ร่างกายของคุณเป็นยังไงบ้าง?”

“ตั้งแต่นายรักษาฉันครั้งสุดท้าย ร่างกายของฉันดีขึ้นมากเลยล่ะ” นายพลไป๋จิงเหยาเพียงยกมือขึ้นและโบกมือไปมาเบาๆ ตำรวจทั้งสองคนก็รีบออกไปทันที

หลังจากนั้น นายพลไป๋จิงเหยาก็ยิ้มขึ้นและถามเยี่ยชิวว่า:“เสี่ยวเยี่ย ศึกตัดสินในคืนนี้นายจะทำยังไง?”

“ไม่มี”เยี่ยชิวตอบอย่างตรงไปตรงมา

ทันใดนั้นสีหน้าของนายพลไป๋จิงเหยาก็เปลี่ยนไป:“ในเมื่อไม่มีแผนการอะไร ทำไมยังไม่รีบหนีไปอีก?”

เยี่ยชิวตอบกลับ:“เรื่องบางเรื่องก็ต้องเผชิญหน้ายอมรับ หนียังไงก็หนีไม่พ้นหรอกครับ”

นายพลไป๋จิงเหยาจึงกว่าวยกย่องเยี่ยชิวว่า:“รู้ทั้งรู้ว่าที่ภูเขามีเสือก็เลยชอบไปเที่ยวภูเขา นี่คือพฤติกรรมของผู้กล้า”

“เสี่ยวปิงมองนายไม่ผิดเลย นายช่างกล้าหาญจริงๆ”

“หวังว่าคืนนี้นายจะรอดนะ ฉันไม่อยากให้เสี่ยวปิงเป็นม่าย”

เยี่ยชิวยิ้มและพูดว่า:“ฉันจะพยายาม”

นายพลไป๋จิงเหยายังพูดต่ออีกว่า:“พวกพระราชวังต้องห้ามต่างส่งจดหมายเชิญชวนพวกตระกูลใหญ่ๆในเมืองปักกิ่งให้ไปดูการประลองคืนนี้ คืนนี้ฉันก็จะไปเช่นกัน”

“ฉันคิดว่า เรื่องใหญ่ขนาดนี้คนที่ได้รับจดหมายเชิญยังไงก็ปทุกคน”

“เสี่ยวเยี่ย ฉันมันไม้ใกล้ฝั่งแล้ว ช่วยอะไรนายไม่ได้ คืนนี้นายต้องพึ่งตัวเองแล้ว”

“นายต้องรอดให้ได้นะ!”

เยี่ยชิวนั้นสามารถรับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงจากนายพลไป๋ว่าเป็นห่วงเขามากขนาดไหน

เยี่ยชิวยิ้มและพูดว่า:“นายพลไป๋ไม่ต้องเป็นกังวล ฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถ”

“อื้ม”นายพลไป๋พยักหน้าเล็กน้อย

“ฉันยังมีสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้นอาจจะไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนคุณแล้ว ถ้าคืนนี้ฉันไม่ตายไปก่อนล่ะก็ ฉันจะพาคุณไปเที่ยวชมเจียงโจว”เยี่ยชิวพูด:“เจียงโจวมีทั้งภูเขามีทั้งแม่น้ำ เป็นที่ที่ไม่เลวเลย”

นายพลไป๋พยักหน้า:“ได้”

เยี่ยชิวลุกขึ้นยืน และก้าวเดินไปสองสามก้าว ทันใดนั้นก็หันกลับมามองนายพลไป๋แล้วพูดว่า:“นายพลไป๋ ถ้าวันหนึ่งฉันฆ่าไป๋ยวี่จิง คุณจะตำหนิฉันไหม?”

นายพลไป๋เงียบไปสักครู่แล้วพูดขึ้นว่า“เสี่ยวเยี่ย นายเป็นหมอที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการรักษาผู้บาดเจ็บและกำลังจะตาย”

“ฉันรู้ว่านายจะไม่ฆ่าคนอย่างไร้เหตุผลแน่ๆ”

“ถ้านายฆ่าไป๋ยวี่จิง ก็หมายความว่าไป๋ยวี่จิงมีเหตุผลที่จะตายเท่านั้น”

เยี่ยชิว เยี่ยหวู่เว่ย เยี่ยหวู่ตี้และหลงหนี่ว์ก็เดินตามไปติดๆ

ส่วนปรมาจารย์ตู้เอ้อร์นั้นสวมชุดสีแดงและถือไม้เท้าเดินตามอยู่ข้างหลัง

ด้านนอกประตู มีรถสามคันจอดรออยู่นานแล้ว

ก่อนที่จะขึ้นรถ

จู่ๆก็มีหิมะตกลงมาจากบนท้องฟ้า ทำให้จากบรรยากาศที่ดูอึดอัดใจนั้นดูสวยงามขึ้นมา

ผู้อาวุโสเยี่ยยื่นมือออกมา และเกร็ดหิมะก็หล้นลงบนมือของเขา ไม่กี่วินาทีใันก็ละลายหายไป

“ชีวิตของคนเราก็เหมือนกับหิมะ มันดูสวยงาม แต่มันก็หายไปอย่างรวมเร็ว”

ผู้อาวุโสเยี่ยถอนหายใจและถามขึ้นว่า:“เยี่ยชิว พวกเรากำลังจะไปที่ไหน?”

เยี่ยชิวตอบกลับ:“ฆ่าหลงอี ทำลายพระราชวังต้องห้าม”

“ถ้าไปแล้วไม่กลับมาล่ะ?”ผู้อาวุโสเยี่ยถามอีกครั้ง

เยี่ยชิวตะโกนตอบกลับ:“งั้นก็ไปไม่กลับ!”

ผู้อาวุโสเยี่ยขำชอบใจ:“ถูกต้อง นายคู่ควรกับการเป็นหลานชายของฉันเยี่ยเจิ้งหลิงจริงๆ”

“ความสุขของชีวิตคืออะไร และความกลัวความตายคืออะไร? ผู้ชายเป็นคนซื่อตรงและทุ่มเท ไม่มีอะไรที่คุณสามารถทำไม่ได้”

“เยี่ยชิวขึ้นรถ เราจะไปพระราชวังต้องห้ามกัน”

ในขณะนั้นทุกคนก็ขึ้นรถ

ในเวลานี้เยี่ยต้าเป่าและแม่ของเขาก็คุกเข่าอยู่ที่ประตูบ้านของตระกูลเยี่ย

“ปู่ พ่อ ลุงสาม พี่——”

“ทุกคนต้องกลับมาได้ให้นะ!”

“ต้องรอดกลับมาให้ได้นะ!”

เยี่ยต้าเป่าตะโกนจนสุดปอด ก้มหัวลงไปที่พื้น

ม่ช้า เลือดก็เริ่มไหลออกจากหน้าผากของเขา

ส่วนแม่ของเขานั้นก็มองดูรถที่เยี่ยหวู่เว่ยนั่งไป และน้ำตาไหลออกมาเงียบๆ

เยี่ยชิวอดไม่ได้ที่จะคิดถึงสองประโยคในใจของเขาไม่ได้ ลมพัดแรงและน้ำเย็น และชายที่แข็งแกร่งจะไม่กลับมาอีกเมื่อเขาจากไป

“ออกเดินทาง!

เมื่อผู้อาวุโสเยี่ยพูดจบ รถก็ขับมุ่งไปที่พระราชวังต้องห้าม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ