"อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นยอด?"
"สมควรที่ได้รับ?"
"สมควรได้รับเชี้ยอะไร!"
อมตะชางเหม่ยโกรธมากจนจมูกเบี้ยวและขว้างก้อนอิฐออกไป
"บูม!"
อิฐสร้างหลุมขนาดใหญ่บนพื้นออกมา มีพลังไม่น้อยไปกว่าการระเบิดของระเบิดมือ ต้องรู้ว่าอมตะชางเหม่ยไม่ได้ใช้พลังชี่แท้เลย
"เอ๊ะ?"
อมตะชางเหม่ยส่งเสียงร้องด้วยความประหลาดใจ ต่อมาก็ดีใจ ด้วยเสียง"ซิ่ว"เขาก็รีบออกไปหยิบอิฐขึ้นมาและพูดด้วยความชื่นชมว่า "ช่างเป็นสมบัติจริงๆ"
เยี่ยชิวและคนอื่น ๆ ก็ประหลาดใจเช่นกัน พวกเขาไม่คิดเลยว่าอิฐก้อนเล็ก ๆ จะมีพลังขนาดนี้
"ผู้เฒ่า ยินดีด้วยนะ ในที่สุดคุณก็ได้รับสมบัติชิ้นนึงแล้ว" เยี่ยชิวกล่าว
อมตะชางเหม่ยยิ้มและพูดว่า: "ต่อไปใครกล้ามายั่วยุฉันอีกฉันจะฟาดมันด้วยอิฐ"
นางฟ้าไป๋ฮวาและ ลู่หลัวก็หุบปากแล้วยิ้ม
"ที่นี่ต้องมีสมบัติอีกแน่ ไปกัน เราไปดูข้างหน้ากันดีกว่า" อมตะชางเหม่ยพูดจบแล้วก็เดินนำไปข้างหน้า
เยี่ยชิว และคนอื่น ๆ เดินตามอย่างใกล้ชิด
หลังจากที่เดินได้สักพัก ทุกคนก็เดินออกมาจากถ้ำ เมื่อเงยหน้าขึ้นมองภูเขาม่วงก็ถูกกลวงออกมาหมดแล้วและมีแสงลอดเข้ามาจากด้านนอกส่องไปยังใจกลางภูเขา
“มีรูปปั้นหินอยู่ตรงหน้า” อมตะชางเหม่ยกล่าว
เยี่ยชิวมองไปข้างหน้าและเห็นเพียงมีรูปปั้นหินสูงยืนอยู่ที่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตร
รูปปั้นหินเป็นชายชราคนหนึ่งที่นั่งไขว่ห้างมือหนึ่งชี้ไปที่ท้องฟ้าและมือหนึ่งชี้ลงที่พื้นดิน
เหมือนกับคนจริงๆ
"ไป เดินไปดูกันดีกว่า"
เยี่ยชิวพาทุกคนเดินไปที่รูปปั้นหิน
ในขนาดที่พวกเขาอยู่ห่างจากรูปปั้นหินเพียงสามสิบเมตร ทันใดนั้นดาบเซวียนหยวนที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของเยี่ยชิวก็บินออกมาและแขวนไว้เหนือศีรษะของเยี่ยชิว ส่งเสียงพึมพำและสั่นสะเทือน
"แย่แล้ว อันตราย"
เยี่ยชิว เห็นคำเตือนของเซวียนหยวนและกำลังจะนำพาทุกคนถอยกลับไป ทันใดนั้น แสงสีขาวเส้นๆก็โผล่ออกมาจากบนพื้นราวกับมังกรปรากฏตัวขึ้นเป็นกรงและล้อมรอบพวกเขาไว้
บริเวณรอบๆเริ่มเบลอลง ไม่เพียงแต่ไม่สามารถมองเห็นรูปปั้นหินได้ แม้แต่ถ้ำก็ไม่สามารถมองเห็นได้แล้ว
สายตาของพวกเขาถูกปิดกั้นโดยอย่างสิ้นเชิง
แสงสว่างเหนือศีรษะก้ไม่สามารถมองเห็นได้ มีเพียงเมฆดำทะมึนเข้ามา ทำให้ผู้คนรู้สึกหดหู่ใจ
"เกิดอะไรขึ้น" ลู่หลัวถามด้วยความตกใจ
อมตะชางเหม่ยกล่าวว่า "ถ้าฉันเดาไม่ผิด ตอนนี้เรากำลังตกอยู่ค่ายกลกระบี่"
คำพูดเพิ่งจบลง
ก็มีแสงสว่างจ้าในอากาศรอบๆ และอักษรรูนก็เปล่งประกายสวยงามอย่างเห็นได้ชัด
"ค่ายกลกระบี่นี้ไม่ธรรมดา" ใบหน้าของอมตะชางเหม่ยเคร่งขรึมอย่างยิ่ง
เยี่ยชิวถามว่า: "ผู้เฒ่า คุณสามารถบอกได้ไหมว่านี้เป็นค่ายกลกระบี่แบบไหน"
"นี่คือค่ายกลกระบี่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยนักปราชญ์ผู้แข็งแกร่ง ฉันจะดูออกได้ไง" อมตะชางเหม่ยกล่าวต่อว่า: "แม้ว่าค่ายกลกระบี่จะดักจับเราไว้ แต่มันก็ไม่มีเจตนาฆ่าใดๆ สันนิษฐานได้ว่าจุดประสงค์ที่นักปราชญ์ผู้แข็งแกร่งสร้างค่ายกลกระบี่ไว้ไม่ได้เพื่อที่จะฆ่าเรา แต่เพื่อจะทดสอบเรา"
"ฉันยืนยันได้ว่าตราบใดที่เราสามารถออกจากค่ายกลกระบี่นี้ได้ ก็จะได้รับผลตอบแทนมหาศาล"
นางฟ้าไป๋ฮวากล่าวว่า: "แต่คำถามตอนนี้คือเราจะออกไปได้อย่างไรก่อน?"
"ผู้เฒ่า ทำไมคุณไม่ทำนายดวงดูล่ะ?" เยี่ยชิวคิดได้อย่างกะทันหัน
"ฉันจะลองดู" อมตะชางเหม่ยหยิบเหรียญทองแดงออกมาสามเหรียญ ร่ายมนตร์อย่างเงียบๆ จากนั้นจึงโยนเหรียญออกไป
เหรียญทองแดงหมุนอยู่เหนือศีรษะของเขาสามครั้ง จากนั้นก็ตกลงมากับพื้นและแตกออกเป็นสองซีก
"นี้มันเกิดอะไรขึ้น?" ลู่หลัวถาม
อมตะชางเหม่ยถอนหายใจและกล่าวว่า: "วิธีการของนักปราชญ์นั้นแข็งแกร่งเกินไป ค่ายกลนี้แยกออกออร่าของโลกภายนอกออกจากกัน และฉันก็ไม่สามารถทนายดวงที่นี่ได้"
การทำนายดวงก็ไม่ได้ผล แล้วควรทำยังไงดี?
จู่ๆ เยี่ยชิว ก็จำมรดกของบรรพบุรุษของตระกูลเยี่ยได้ ซึ่งมีการบันทึกค่ายกลต่างๆ ไว้ด้วย เขาตรวจสอบอย่างรวดเร็วและพบว่าไม่มีค่ายกลในมรดกที่คล้ายคลึงกับค่ายกลที่อยู่ตรงหน้าเขา
มีเสียงดังบูม
หม้อเฉียนคุนไม่สามารถชนค่ายกลออกได้
"อีกครั้ง!" เยี่ยชิวก็เอาหม้อเฉียนคุนออกมาเพิ่มอีกสามอัน
หม้อเฉียนคุนทั้งสี่บินออกไปพร้อมกันด้วยแรงเกินกว่าหนึ่งล้านกิโลกรัม และกระแทกเข้ากับค่ายกลอย่างแรง
"บูม!"
มีเสียงการชนกันที่สั่นสะเทือนไปไปทั่ว แต่ค่ายกลก็ยังคงไม่แตกหักออก
อมตะชางเหม่ยกล่าวว่า: "ฉันพูดถูกใช่ไหม นี้เป็้นค่ายกลที่นักปราชญ์สร้างขึ้น โดยพลังยุทธ์ของเราแม่แต่จะใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ๋ก็ไม่สามารถทำลายได้"
เยี่ยชิวขมวดคิ้ว
หาทางออกไม่เจอ ใช้กำลังก้ไม่ได้ผล แล้วเราควรทำยังไง?
เมื่อทุกคนขมวดคิ้วเครียดอยู่ ทันใดนั้นก็มีการเคลื่อนไหวในกระเป๋าเฉียนคุนเกิดขึ้น
เยี่ยชิว เปิดหม้อเฉียนคุน และเห็นมีไข่หนึ่งฟองที่กลิ้งไปมาอยู่ข้างใน
"อย่าโดนดุดหรอ?" เยี่ยชิวตะโกน
ซิ่ว——
ไข่ฟองนั้นกลิ้งออกมาจากกระเป๋าเฉียนคุน จากนั้นทุกคนก็กลิ้งไปรอบๆ ในสายตาที่ประหลาดใจของทุกคน ทันใดนั้น อักษรรูนทั้งหมดที่อยู่รอบๆ ก็ถูกกลืนหายไปหมด
ค่ายกลถูกทำลาย
"แบบนี้ก็ได้เหรอ?"
เยี่ยชิว ตกตะลึง เขาคิดไม่ถึงว่าค่ายกลของนักปราชญ์จะถูกไข่กลืนลงหายไป ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นด้วยตาของตัวเอง ใครจะกล้าเชื่อ?
หลังจากที่ไข่กลืนกินค่ายกลแล้ว มันก็สั่นไปสองครั้ง ดูเหมือนจะอิ่มแล้ว จึงกลับเข้าไปในถุงเฉียนคุนอีกครั้ง
เยี่ยชิว และคนอื่น ๆ ก็เห็นรูปปั้นหินอีกครั้ง
"ไอ้สารเลว ไข่เมื่อกี้คืออะไรกันแน่?" หลังจากที่อมตะชางเหม่ยพูดจบ แสงระหว่างคิ้วของรูปปั้นหินก็แวบขึ้นมา และตัวหนังสือใหญ่สี่ตัวก็ปรากฏขึ้น
"มรดกขั้นสูงสุด!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...