จิ้งจอกขาวตัวน้อยพูดภาษาคนขึ้นมา ทําให้เยี่ยชิวตกใจเลย
“เธอพูดได้เหรอ?”ตอนที่เยี่ยชิวตกใจ ลืมถามถึงเรื่องโอกาสสูงสุดไปเลย
“พูดเพ้อเจ้อ ถ้าเป็นเผ่าปีศาจที่มีการฝึกฝน ล้วนพูดภาษาของเผ่ามนุษย์ได้”เสียงเฉยเมยของจิ้งจอกขาวตัวน้อยมีบารมีสูงมาก ราวกับราชินีที่อยู่ชั้นสูง และถามว่า “ฉันถามนาย นายอยากได้โอกาสสูงสุดใช่ไหม? ”
เยี่ยชิวกล่าวว่า“ ถ้าฉันไม่ต้องการได้โอกาสสูงสุด ฉันจะมาที่นี่ได้ไง? ”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันช่วยนายหนึ่งครั้ง ส่วนจะได้รับโอกาสสูงสุดหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความโชคของนายเเล้ว” หลังจากสุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยพูดจบ เขาก็เดินไปที่หน้าผา
เยี่ยชิวมองไปที่ด้านหลังของสุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อย สายตาของเขาแปลกๆ
“ถ้าเขาพูดภาษาคนได้ แสดงเขาต้องรู้มาก ตอนที่เขาอยู่ช่วงประจําเดือน ฉันใช้นิ้วจิ้มตรงนั้นของเขา...... เขาจะเกลียดฉันไหม? ”
แต่เยี่ยชิวโล่งใจอย่างรวดเร็ว
“กลัวอะไร ฉันเป็นแพทย์ ช่วยผู้ป่วยคนตายเป็นหน้าที่ฉัน ถ้าเขาเข้าใจและมีเหตุมีผล จะโทษฉันได้ไง? ”
“อีกอย่าง ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าเขาประจําเดือนเขามา”
ตอนที่เยี่ยชิวคิดไปเรื่อย เห็นเเต่ว่าสุนัขจิ้งจอกสีขาวตัวน้อยเดินอยู่หน้าหน้าผา จากนั้นร่างตัวเล็กกระทัดรัดก็ยืนตัวตรง อุ้งเท้าทั้งสองข้างเป็นกําปั้น โค้งคํานับกับเหวด้วยความเคารพ
“เขาทําแบบนี้ หมายความว่าไง หรือว่า โอกาสสูงสุดอยู่ที่เหว? ”
ใบหน้าของเยี่ยชิวงงงวย
ฉากนี้ ดึงดูดความสนใจของอมตะชางเหม่ย
“ไอ้เด็กทําเปรต เขาทําอะไรอยู่?”
“ดูเหมือนว่า กําลังบูชาบรรพบุรุษ?”
“หรือว่า เคยมีเผ่าปีศาจเสียชีวิตที่นี่?”
“ไอ้เด็กเปรต ข้างความรู้สึกบางอย่าง สุนัขจิ้งจอกตัวนี้ไม่ใช่ผู้ดี นายควรอยู่ห่างจากเขาหน่อย เผื่อโดนดูดสารจำเป็นแห่งชีวิตไปหมด......”
อมตะชนงเหม่ยยังพูดไม่จบ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั่วร่างกาย และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นสุนัขจิ้งจอกสีขาวตัวน้อยจ้องเขาไว้ รูม่านตาสีเขียวเหมือนน้ําแข็งเย็นหมื่นปีซึ่ง ทําให้ผู้คนสั่นสะท้านอย่างบังคับไม่ได้
“ถ้าพูดไปเรื่อยอีก ระวังฉันไม่เกรงใจนาย”
หลังจากจิ้งจอกขาวตัวน้อยพูดจบ ก็ชกกําปั้นใส่อมตะชางเหม่ย ด้วยใบหน้าที่ดุร้าย
อมตะชางเหม่ยคาดคิดไม่ถึงว่าสุนัขจิ้งจอกสามารถพูดภาษาคนได้ ตกใจจนนั่งลงบนพื้นทันที และตะโกนไปเรื่อยว่า“เเมร่ง นี่คือปีศาจจิ้งจอก......”
“โวยวายอะไร! ร้องอีกก็ตัดลิ้นนายทิ้” สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยพูดอย่างเย็นชา
อมตะชางเหม่ยตกใจจนรีบปิดปาก
พูดมาก็แปลก ทักษะของเขาทะลุไปถึงขั้นต้งเทียนระดับกลางเเล้ว ตามทั่วไปจิ้งจอกขาวตัวน้อยไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาหรอก แต่ตอนที่จิ้งจอกขาวตัวน้อยพูด ทําให้อมตะชางเหม่ยรู้สึกถึงการบีบบังคับที่รุนแรง
การบีบบังคับแบบนี้ทําให้เขาไม่สบายใจ และหดหู่ใจมาก มันเป็นความเคารพจากกระดูกเลย ราวกับว่าสุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยไม่ใช่สัตว์ปีศาจ แต่เป็นผู้ที่อยู่จุดสูงสุดนั่งอยู่บนเก้าอี้มังกร
เยี่ยชิวมองไปที่อมตะชางเหม่ยด้วยความดูถูก และพูดว่า“ดูนายสิ ถูกสุนัขจิ้งจอกทำาตกใจจนขนาดนั้นเลยน ไม่กลัวคนอื่นดูถูกจริงๆ”
อมตะชางเหม่ยยังไม่ทันพูด เสียงของสุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยก็ดังขึ้น
“ฉันไม่ใช่สุนัขจิ้งจอก ฉันเป็นจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง!”
เยี่ยชิวพึมพําด้วยเสียงต่ํา“จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางเป็นสุนัขจิ้งจอกไม่ใช่เหรอ?”
“นายพูดอะไร! พูดอีกรอบ! สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยโกรธเหมือนเด็กหญิงตัวเล็กๆที่น่ารัก กํามือสีชมพูเล็กๆเพื่อแสดงให้เยี่ยชิวเห็นความดุร้าย โกรธแบบเด็กน้อยน่ารัก
เยี่ยชิวรีบพูดว่า“ใช่ๆๆ เธอเป็นจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง ไม่ใช่สุนัขจิ้งจอกธรรมดา ”
“เต้าจ่าง เมื่อกี๊ที่บอกว่าทําให้เต้าจ่างตกใจเลย เกิดอะไรขึ้น?”หยุนซีถามอย่างสงสัย
อมตะชางเหม่ยกล่าวว่า“ ก็สุนัขจิ้งจอกตัวน้อยนั้นเอง จู่ๆก็พูดภาษาคนออกมา ทําให้ข้าตกใจอย่างหนัก......”
“ฉันไม่ใช่จิ้งจอกน้อย ฉันเป็นจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง”จิ้งจอกขาวตัวน้อยไม่รอให้อมตะชางเหม่ยพูดจบ แล้วหันกลับมาเน้นย้ำ
หยุนซีพูดด้วยรอยยิ้ม“เผ่าปีศาจที่ฝึกทักษะได้ดี สามารถพูดภาษาคนได้หมด นอกจากนี้จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางยังเป็นราชวงศ์ของเผ่าปีศาจด้วย ตั้งแต่เกิดมาก็สามารถพูดภาษาเผ่ามนุษย์เราได้” ”
“เจ้าสาวตัวน้อย ยังมีความรู้อยู่อีกด้วย”สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยพูดแบบเชย
เยี่ยชิวรู้สึกตลก สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยนี้ค่อนข้างมีนิสัยเป็นของตนเอง
หยุนซีถูกสุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยเรียกว่าเป็นเจ้าสาวตัวน้อย เธอไม่โกรธเลย กลับยิ้มอย่างใจกว้างและสง่างาม
“เยี่ยฉังเซิง นายรออย่างเชื่อฟัง ฉันหาโอกาสสูงสุดออกมาให้นาย”
หลังจากสุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยพูดจบ เขาก็คุกเข่าที่ขอบหน้าผาอีกครั้ง และโขกหัวกับเหว
“ไอ้เด็กเปรต เขารู้ว่าโอกาสสูงสุดอยู่ที่ไหนเหรอ?”อมตะชางเหม่ยด้วยความประหลาดใจ
เยี่ยชิวกล่าวว่า“ ไม่รู้ คอยดูก่อน”
สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยโขกหัวต่อเหวเก้าครั้งเเล้ว จากนั้นก็ยืนขึ้น หางยาวที่อยู่ด้านหลังก็ยกขึ้นและงอไว้ ปรากฏขึ้นเหนือหัวของเขา
เขาเหยียดอุ้งเท้าออกมาข้างหนึ่ง และบีบหาง ทันใดนั้น เลือดก็พุ่งออกมา
หลังจากที่เลือดพุ่งออกมาเเล้ว ก็ไม่ได้กระเด็นออกไป แต่กลับรวมตัวอย่างรวดเร็วต่อหน้าเขา กลายเป็นลูกปัดสีเลือดที่ขนาดเท่ากําปั้น และในพริบตา ลูกปัดสีเลือดก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้าคราม กระพริบด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์
“นี่คือเลือดเผ่าปีศาจ!”
หยุนซีตกใจ เหมือนเขานึกถึงอะไรบางอย่าง และพูดด้วยความตกใจ“หรือว่า เขาจะสังเวยด้วยเลือดพิสุทธิ์? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...