วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 2001

เยี่ยชิวรีบถาม: “ท่านอาจารย์ ท่านพ่อข้าเขา..........”ได้

จื่อหยางเทียนจุนพูดว่า: “หวู่ซวงถูกไล่ล่า และเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเพียงแก่นวิญญาณของเขาที่หนีรอดเอาชีวิตไปได้”

อะไรนะ?

สภาพอนาถขนาดนี้ ยังเรียกว่าดีได้อีกเหรอ?

เยี่ยชิวรีบถาม: “ท่านอาจารย์ ท่านพ่อข้าเขาอยู่ที่ไหน? ท่านรีบบอกข้าเร็ว........”

“ก็ข้าบอกไปแล้วไม่ใช่หรือว่ายังไม่ถึงเวลา ในตอนนี้พวกเจ้าพ่อลูกยังพบกันไม่ได้ ” จื่อหยางเทียนจุนพูดด้วยรอยยิ้ม : “แม้ว่าพ่อของเจ้าจะตกอยู่ในอันตราย แต่เขาก็สามารถเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นความโชคดีได้"”

“และอีกอย่าง เขาเป็นลูกศิษย์ของข้า ใครจะฆ่าเขาได้”

“เจ้าวางใจเถอะ!”

เยี่ยชิวคิดในใจ ถ้าหากว่าท่านพ่อตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ ท่านอาจารย์คงไม่นิ่งนอนใจอย่างแน่นอน

ในขณะที่ท่านอาจารย์รู้ว่าพ่อของเขาตกอยู่ในอันตราย แต่ก็ไม่ได้ไปช่วยเขา ท่านอาจารย์จะต้องมีเจตนาของท่านแน่

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ความตื่นตระหนกบนใบหน้าเยี่ยชิวจึงค่อยๆหายไป

“ไม่พบกันนาน มาดื่มเป็นเพื่อนข้าหน่อยไหม?” จื่อหยางเทียนจุนพูด

“ได้ท่านอาจารย์” เยี่ยชิวตอบรับอย่างเต็มใจ

จื่อหยางเทียนจุนเอาน้ำเต้าที่แนบไว้ข้างเอวของเขาออกมา แล้วเปิดจุกเขย่าน้ำเต้าด้วยดีหน้าเขินอาย

“โอ้ ข้ารีบมากจนลืมกรอกเหล้าเข้าไป!”

เยี่ยชิวหัวเราะแล้วพูดว่า : “ท่านอาจารย์ ข้ามีเหล้า”

หลังจากพูดจบ เขาก็เอาอมตะชางเหม่ยออกมาจากถุงเฉียนคุน แล้วพูดว่า : “ตาเฒ่า เอาเหล้าวิญญาณออกมาสิ”

อมตะชางเหม่ยพูดอย่างรวดเร็วว่า: “เจ้าเด็กเปรต ตาเฒ่านั้นอยู่ไหน? เขายังไล่ล่าเจ้าอยู่ใช่ไหม? เจ้าเอาชนะเขาไม่ได้หรอก ทำตามที่ข้าบอก ข้าจะปลอมตัวเป็นเจ้าหลอกเขาแล้วไปเสี่ยงตายเพื่อเจ้า”

“เจ้าเด็กเปรต ข้าตายเพื่อเจ้า ต่อไปเจ้าจะต้องล้างแค้นให้ข้าด้วยนะ”

“หากเจ้าไม่ช่วยล้างแค้นให้ข้า ข้าจะไปเข้าฝันเจ้าทุกวัน ทำให้เจ้าอยู่อย่างไม่เป็นสุขทั้งวันทั้งคืน.......”

เยี่ยชิวเบื่อที่ฟังอมตะชางเหม่ยพูดไม่ยอมหยุด จึงรีบขัดจังหวะเขา : “หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว รีบเอาเหล้าวิญญาณออกมาเร็วๆ ”

อมตะชางเหม่ยด่าว่า : “เวลาเช่นนี้ เจ้ายังมีอารมณ์จะดื่มเหล้าอีก? รีบหนีดีกว่า !”

หลังจากพูดจบ อมตะชางเหม่ยก็หยิบยาแปลงโฉมออกมา เงยหน้าและกำลังจะกลืนมันลงไป ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นจื่อหยางเทียนจุนยืนอยู่เหนือหัวของเขา

“ผู้อาวุโส..........”

อมตะชางเหม่ยเบิกตากว้าง ไม่อยากจะเชื่อ

จากนั้น อมตะชางเหม่ยก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาใช้สองมือผลักเยี่ยชิวอย่างแรง แล้วตะโกนว่า : “เจ้าเด็กเปรต รีบหนีไป”

“ตาเฒ่านั้นต้องปลอมตัวเป็นท่านอาจารย์ของเจ้าแน่ ๆ เจ้าอย่าหลงกลมันนะ”

เยี่ยชิวงุนงง

หรือท่านอาจารย์ทำให้ตาเฒ่านี้กลัว

แต่จื่อหยางเทียนจุนมองไปที่อมตะชางเหม่ยด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า: "สหายชางเหม่ย สบายดีใช่ไหม!"

“ให้ตายเถอะ ใครคือสหายของเจ้า” อมตะชางเหม่ยชี้ไปที่จื่อหยางเทียนจุนแล้วด่าว่า: “ตาเฒ่า อย่าคิดว่าเจ้าจะหลอกข้าได้ด้วยการปลอมตัวเป็นจื่อหยางเทียนจุนนะ ”

“ข้าจะบอกเจ้า ข้าได้ฝึกฝนวิชาตาทิพย์มา มองเพียงแวบเดียวข้าก็เห็นตัวตนที่แท้จริงของเจ้าแล้ว”

“เจ้าเด้กเปรต เจ้ารีบหนีไป วันนี้ข้าจะเสี่ยงชีวิตหยุดตาเฒ่าคนนี้เพื่อช่วยเจ้า”

เยี่ยชิวยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ

“รีบไปสิ!” อมตะชางเหม่ยผลักเยี่ยชิวอย่างแรง

เยี่ยชิวพูดไม่ออก เขารู้สึกซาบซึ้งใจเล็กน้อย

ปกติอมตะชางเหม่ยเป็นคนที่ไว้ใจไม่ค่อยได้ แต่ในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้ เขาก็ดูน่าเชื่อถือเหมือนกัน

ความเสียสละที่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือกันนั้น คู่ควรแก่ถนอมรักษาไว้ตราบชั่วชีวิต

“ตาเฒ่าไม่ต้องตกใจ คนที่อยู่เหนือหัวเจ้าคนนี้ เขาไม่ใช่ผู้อาวุโสตระกูลเฉิน แต่เป็นท่านอาจารย์ ” เยี่ยชิวกังวลว่าอมตะชางเหม่ยจะไม่เชื่อ เขาพูดย้ำอย่างหนักแน่นว่า: “เป็นท่านอาจารย์จริงๆ”

อมตะชางเหม่ยมองสีหน้าเยี่ยชิวดูจริงจังมาก ไม่เหมือนล้อเล่น จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นแล้วถามจื่อหยางเทียนซุนว่า: "เจ้าเป็นท่านอาจารย์ของเจ้าเด็กเปรตคนนี้จริง ๆ หรือ?"

อมตะชางเหม่ยตะโกน: "ผู้อาวุโส ข้าคิดถึงท่านมาก"

คิดถึงข้า?

ใครจะเชื่อ!

จื่อหยางเทียนจุนสีหน้าเคร่งขรึมพูดว่า : “พูดจาให้เหมือนมนุษย์หน่อยสิ”

อมตะชางเหม่ยเงยหน้าขึ้นแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม : “ข้าแค่อยากกอดขาท่าน”

ให้ตายเถอะ สามารถทำลายพลังยุทธ์แปดร้อยปีของนักบุญราชาผู้แข็งแกร่งเพียงนิ้วเดียว ถ้าไม่กอดขาใหญ่นี้จะให้ไปกอดขายาวงั้นเหรอ?

ขายาวนั้นดี แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้!

“ไม่เอาไหนจริง ๆ” เยี่ยชิวหัวเราะและด่าว่าไปหนึ่งที

พวกเขาไม่รู้ว่าอันที่จริงแล้วในใจของอมตะชางเหม่ยกำลังกังวลอยู่

เพราะเขากับจื่อหยางเทียนจุนไม่ได้สนิทสนมกันมาก่อน หากพูดถึงความสนิทแล้ว ก็คงจะเป็นเขาเป็นเพื่อนกับพ่อของเยี่ยชิว

อมตะชางเหม่ยกังวลว่าการกระทำของเขาจะทำให้จื่อหยางเทียนจุนขุ่นเคือง แต่เขาก็ยังอยากที่จะทำเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม เขาก็เป็นเพื่อนกับพ่อของเยี่ยชิว ด้วยความสัมพันธ์นี้ จื่อหยางเทียนจุนแม้จะไม่ชอบเขาก็คงไม่คิดจะฆ่าเขาหรอก

ดังสุภาษิตโบราณที่ว่า ความมั่งคังย่อมได้จากที่เสี่ยงอันตราย หรือไม่ก็หาจากผู้หญิงที่ร่ำรวย

ถ้าหากว่าจื่อหยางเทียนจุนไม่ได้รังเกียจเขา เขาก็จะอาศัยจังหวะนี้ตีสนิทกับเขา

จื่อหยางเทียนจุนแข็งแกร่งขนาดนี้ ในตัวเขาจะต้องมีสมบัติล้ำค่าเยอะแน่ๆ

จำได้ว่า ตอนที่จื่อหยางเทียนจุนเอาถุงเฉียนคุนและยาปี้เทียนให้เยี่ยชิว นั้นทำให้อมตะชางเหม่ยอิจฉาอย่างมาก

จื่อหยางเทียนจุนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แล้วพูดว่า: "เอาล่ะ อย่าทำตัวเป็นเด็กแล้วกอดขาของข้าไว้ กอดขาของข้าจนจะเป็นเนื้อก้อนเดียวกันอยู่แล้ว ใครที่ไม่รู้คงคิดว่าเราเป็นคู่รักกัน"

อมตะชางเหม่ยพูดด้วยรอยยิ้มแซวเล่นว่า: "ผู้อาวุโส หากท่านไม่รังเกียจ ข้าก็ยินดีนะ"

"ไปให้พ้น!" หลังเท้าของจื่อหยางเทียนจุนสบัดเล็กน้อย อมตะชางเหม่ยก็กระเด็นออกไปล้มลงกับพื้น หน้าตามอมแมมไปด้วยฝุ่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ