ทันใดนั้น พลังงานอันแสนทรงพลังก็พุ่งออกมาจากยอดเขาทำให้ดึงดูดสายตาผู้คนมากมาย
ยังชั่วพริบตา พวกเขาก็เห็นเงาอันคุ้นเคย
อมตะชางเหม่ย!
เห็นเพียงแค่อมตะชางเหม่ยในชุดนักพรตขาดรุ่งริ่ง ผมเผ้ายุ่งเหยิงและรีบวิ่งหนีอย่างกับคนบ้า ด้านหลังของเขาก็คือคางคกทองคำที่วิ่งตามเขาด้วยขาสั้นๆของมัน
ภาพที่เห็นนี้ค่อนข้างตลก
“พี่ใหญ่ ขอร้องล่ะเลิกตามข้าสักที ท่านไม่เหนื่อยบ้างหรือไง” อมตะชางเหม่ยวิ่งไปพลางถามไป
คางคกทองคำตอบว่า “เจ้ากล้าเรียกข้าว่าเจ้าคางคก ข้าไม่มีวันให้อภัยเจ้า”
อมตะชางเหม่ยรีบปฏิเสธ “ข้าไม่ได้พูด”
คางคกทองคำตอบกลับไปว่า “แต่ข้าได้ยิน”
“บ้าจริง ฉันพูดเสียงเบาขนาดนั้นยังได้ยินอีกเหรอ” หลังจากที่อมตะชางเหม่ยพูดจบ เขาก็ถูกคางคกทองคำใช้ขาข้างนึงเตะขึ้นไปกลางอากาศ
“โอ้ย เจ็บจะตายอยู่แล้ว” อมตะชางเหม่ยพูดพึมพำ “เดิมทีแล้วก็เป็นท่านก็เป็นคางคกนี่นา ข้าก็แค่พูดความจริงเท่านั้น เหตุใดจึงรับความจริงไม่ได้กันเล่า”
“งั้นเจ้าก็ตายซะ—“ คางคกทองคำพุ่งเข้าไปหาทันที
“ในเมื่อข้าเอาชนะท่านไม่ได้ แล้วข้าจะอยู่เฉยๆทำไม” อมตะชางเหม่ยที่เห็นดังนั้นก็รีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอดอีกครั้ง
พวกเขาวิ่งไล่กันไปมาในหุบเขาทำให้สัตว์น้อยใหญ่ต่างตกใจจนวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนไปหมด
“พวกเขาทั้งคู่มีพลังเหลือล้นเสียเหลือเกิน เอาแต่ทะเลาะกันไปกันมาทั้งวัน” หยุนซานส่ายหัวและพูดจาราวกับช่วยไม่ได้
จื่อหยางเทียนจุนหัวเราะก่อนจะกล่าวว่า “ข้าว่าดีแล้วนะ ชางเหม่ยเองก็พัฒนาไปไม่น้อย”
ในขณะที่เขากำลังพูดอยู่ คางคกทองคำก็ได้ไล่ตามอมตะชางเหม่ยจนทันและเตะเขาซ้ำเข้าไปอีกรอบ
“เจ้าคางคก ช่วยลงมือให้เบาลงหน่อยได้ไหม”
“ถ้าข้าไม่ยอมเล่นกับท่าน ท่านจะมีความสุขขนาดนี้ได้ยังไง”
“หากท่านกล้าทุบตีข้าอีกรอบ ระวังข้าจะไม่เกรงใจเจ้าแล้วนะ”
อมตะชางเหม่ยพูดด้วยน้ำเสียงหอบเหนื่อย
คางคกทองคำเท้าเอวแล้วพูดอย่างดูถูกว่า “จะไม่เกรงใจข้าแล้วงั้นหรือ เจ้าก็ลองดูสิ”
“เจ้าคางคก ข้าจะบอกเจ้าให้นะ เลิกรังแกข้าสักที” อมตะชางเหม่ยเริ่มพูดจาข่มขู่ “ระวังข้าจะใช้สวรรค์ลงโทษมาผ่าลงมาที่เจ้า”
คางคกทองคำตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ “เจ้าคิดว่าสวรรค์ลงโทษเป็นน้องชายของเจ้าที่เจ้าจะพูดอะไร หรือสั่งอันใด เขาก็ยอมฟังงั้นหรือ”
“อ๊ะ! กล้าสงสัยในคำพูดของข้างั้นเหรอ รอเดี๋ยวเถอะ ข้าจะเรียกสวรรค์ลงโทษลงมาให้ดู” ทันทีที่พูดจบ อมตะชางเหม่ยก็ได้ยกแขนเสื้อขึ้น จากนั้นก็เอานิ้วชี้และนิ้วกลางขวาชี้ไปที่ท้องฟ้าพร้อมตะโกนเสียงดังลั่นว่า “กฎแห่งสวรรค์จงฟังคำสั่ง สายฟ้าฟาด!”
เมื่อคางคกทองคำเห็นฉากนี้ก็อดล้อเลียนไม่ได้ “ไอ้นักพรตหน้าเหม็น เลิกล้อเล่นเสียที.....”
เปรี้ยง!
ทันใดนั้น ฟ้าก็ร้องดังคำรามขัดจังหวะคำพูดของคางคกทองคำ
คางคกทองคำรีบเงยหน้ามอง เขาเห็นเพียงแค่เมฆฝนเคลื่อนผ่านบนท้องฟ้า
“ห๊ะ สวรรค์ลงโทษจริงๆงั้นหรือ” สีหน้าของคางคกทองคำเปลี่ยนไปทันที
“เจ้าคางคก ถ้าเจ้าแน่จริงก็อย่าขยับไปไหนซะล่ะ คอยดู ข้าสับเจ้าให้แหลก” อมตะชางเหม่ยพูดอย่างกำเริบเสิบสาน
คางคกทองคำเองก็ตอบกลับไปอย่างเย่อหยิ่งว่า “เหอะ ตัวข้านั้นเป็นผู้แข็งแกร่งระดับขั้นนักบุญใหญ่ วิชาสวรรค์ลงโทษของคนอย่างเจ้าจะมีพลังมากสักแค่ไหนกันเชียว”
อมตะชางเหม่ยจึงได้บอกว่า “ถึงแม้ว่าข้าจะฆ่าเจ้าไม่ได้ แต่อย่างน้อย ข้าก็ทำเจ้าเจ็บปวดได้ บ้าเอ้ย วันทั้งวัน สิ่งที่เจ้าทำมีเพียงแค่ทุบตีข้าเท่านั้น ถ้าเจ้ากล้าพอก็ไปจัดการผู้อาวุโสจื่อหยางซะสิ”
คางคกทองคำเห็นจื่อหยางเทียนจุนและหยุนซานที่ยืนอยู่หน้าห้องโถงพิธีการใหญ่แล้วจึงพูดว่า “ท่านประมุขเรียกข้ามาเพราะมีธุระ เพราะแบบนั้น ข้าจะไม่ยอมลงไปเถียงกับเจ้าด้วยหรอก”
พูดจบ ร่างของเขาก็หายไปราวกับลมพัดผ่าน และปรากฏตัวอยู่ด้านหลังหยุนซาน
ตลกแล้ว ข้าก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะยอมยืนเฉยๆอยู่ที่เดิมโดยไม่หนี แล้วรอให้เจ้าใช้สวรรค์ลงโทษมาทำร้ายข้าตามใจชอบ
อมตะชางเหม่ยเองก็รับรู้ได้ถึงเจตนาของคางคกทองคำ เขาจึงได้พูดด้วยน้ำเสียงดูถูก “ไอ้ขี้ขลาด”
อย่างไรก็ตาม สวรรค์ลงโทษก็ผ่ามาแล้ว เขาจึงไม่มีเวลาต่อกรกับคางคกทองคำอีก สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้มีเพียงแค่มุ่งความสนใจไปที่การทะลวงสวรรค์ลงโทษเท่านั้น
สวรรค์ลงโทษก็ยังไม่ผ่านลงมา อมตะชางเหม่ยจึงได้หยิบยาศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากวงแหวนอากาศ และรีบกลืนเข้าไปทันที
“เพราะพวกเจ้าไม่เคยเห็นอะไรพวกนี้มาก่อน งั้นเดี๋ยวข้าจะแสดงบางสิ่งที่ทรงพลังกว่านี้ให้ดูเอง”
“อมตะชางเหม่ยประสานมือทำมุทรา ทันใดนั้นเอง ร่างกายของเขาก็ดูรายล้อมไปด้วยยันต์แปดทิศที่ค่อยๆปรากฏขึ้นมาทีละอัน
ยันต์แปดทิศพวกนั้นมีสีทองระยิบระยับและเปล่งประกายแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมาล้อมรอบตัวของอมตะชางเหม่ยซึ่งนั่นทำให้ภาพลักษณ์ของเขาดูเหมือนเทพเซียนโบราณ
ซึ่งฉากนั้นทำให้ลูกศิษย์ของนิกายซิงอวิ๋นตกตะลึงจนตาค้าง
ที่หน้าประตูห้องโถงพิธีการใหญ่
หยุนซานพูดอย่างไม่พอใจว่า “แค่ฝ่าด่านสวรรค์ลงโทษแท้ๆจะแสดงให้ยิ่งใหญ่ไปทำไมกัน”
จื่อหยางเทียนจุนยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “ชางเหม่ยนั้นมีนิสัยดื้อรั้น หากไม่ได้เป็นเรื่องที่สำคัญ อย่างนั้นก็ปล่อยให้เขาทำไปเถอะ ขอแค่เขามีความสุขก็พอ”
หยุนซานกลับพูดว่า “ถึงจะสามารถทะลวงขอบเขตพลังไปได้แต่สุดท้ายก็ไปได้แค่ถึงขั้นทงเสิน ถ้าไม่รู้มาก่อนอาจจะคิดว่าเขาจะทะลวงระดับพลังไปจนถึงขั้นชำระบริสุทธิ์เอาได้”
จื่อหยางเทียนจุนยังคงยิ้มและกล่าวว่า “แม้จะไม่ใช่การทะลวงขอบเขตพลังจนถึงขั้นชำระบริสุทธิ์ แต่ชางเหม่ยจะต้องทำให้เจ้าประหลาดใจแน่นอน”
หยุนซานจึงถามกลับไปด้วยความสงสัย “หมายความว่าเช่นไรหรือขอรับ”
จื่อหยางเทียนจุนยิ้มและกล่าวว่า “เดี๋ยวเจ้าก็รู้”
ในเวลานั้นเอง อมตะชางเหม่ยก็ได้ร่ายคาถาออกมา ใช้เวลาเพียงไม่นาน ทุกคนก็สัมผัสได้ว่าพลังของเขานั้นแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ
ผ่านไปเพียงครู่เดียว
อมตะชางเหม่ยก็ได้เลื่อนระดับพลังของเขาจนไปถึงจุดสูงสุด
“ตอนนี้ ข้าจะให้พวกเจ้าเห็นวิธีการฝ่าด่านสวรรค์ลงโทษอันยิ่งใหญ่ของข้า”
อมตะชางเหม่ยเชิดหน้าขึ้นแล้วทะยานออกไปกลางท้องฟ้าพร้อมทั้งตะโกนออกไปว่า “สวรรค์ลงโทษ รีบมาลงโทษข้าได้แล้ว”
“เปรี้ยงปร้าง...”
สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ทั้งแปดสิบเอ็ดสายที่ยาวนับหมื่นจั้งก็พุ่งลงมาจากก้อนเมฆราวกับเทพมังกรทั้ง 81ตัวที่พุ่งลงมาจากสรวงสวรรค์
“แม่เจ้า นี่มันอลังการเกินไปแล้วหรือเปล่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...