วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 555

เสียงตบดังกึกก้องไปทั่วในเคบิน

ทันใดนั้นก็เงียบกริบไป

“ฉันพูดอีกครั้ง ลุกไปไกลๆจากที่นั่งของฉัน” เยี่ยชิวตะโกนอย่างไม่ทดไม่ไหว

“วันนี้ฉันจะนั่งอยู่ตรงนี้ นายมีปัญญาก็ฆ่าฉันตายสิ”จินหลิงหลิงก็ตะโกนพูด

“ในฐานะที่เป็นดารา เธอไม่มีคุณสมบัติพื้นฐาน เเล้วเธอยังสมกับการเป็นดาราเหรอ? ไม่ยอมดื่มสุราคารวะ ชอบสุราลงทัณฑ์ ได้เลย ฉันจะช่วยสมความปรารถนาเธอ”

หลังจากเยี่ยชิวพูดจบ เขาก็จับจินหลิงหลิงขึ้นมาแล้วโยนออกไป

คว่าง!

ร่างกายของจินหลิงหลิงกระแทกกับพื้น แล้วปากก็กรีดร้องอีก

ผู้โดยสารโดยรอบๆตกตะลังจนปากค้าง

ใครจะไปคาดได้ว่าเยี่ยชิวจะกล้าวาดตบจินหลิงหลิง

นั่นคือจินหลิงหลิงนะ เทพธิดาของโอตาคุ ถูกเขาตีอย่างนี้ไปเลย ชั่วจริงๆ

ผู้ชายที่ถ่ายรูปกับจินหลิงหลิงเมื่อก่อนหน้านั้นลุกขึ้นยืนทันที และช่วยจับจินหลิงหลิงอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่จินหลิงหลิงเห็นว่ามีคนยืนขึ้นเพื่อเขา ร้องห่มร้องไห้อย่างกับดอกสาลี่พรํ่าหยาดฝนและพูดกับผู้ชายสองสามคนว่า“พวกพี่ ช่วยฉันประเมินทฤษฎีหน่อย ว่าที่ยังมีกฎหมายหลวงอยู่หรือไม่?”

“ฉันแค่นั่งที่เขาแป๊บเดียว แล้วเขาก็ตีฉัน ยังเป็นลูกผู้ชายเหรอ?”

“พี่ ถ้าหากว่าพวกนายช่วยฉันทำกลับไป หลังจากที่ลงเครื่องบินเเล้ว ฉันเลี้ยงอาหารพวกนาย”

“ฉันยังสามารถให้ชุดอัลบั้มพวกนายชุดหนึ่ง เป็นแบบส่วนตัวแบบโป๊ะที่สุดนะ”

รูปโป๊ะส่วนตัว?

เมื่อผู้ชายพวกนี้ได้ยินคํานี้ไป หน้าแต่ละคนดูตื่นเต้นจนเเดงเหมือนเสพยาไป

พวกเขาล้อมเยี่ยชิวไว้อย่างเร็ว

“ไอ้หนุ่ม ไม่นึกเลยว่านายตบผู้หญิง นายยังมีกิริยาท่าทางสุภาพบุรุษอยู่ไหม?”

“ฉันแนะนำให้นายขอโทษคุณจินทันที”

“ไม่อย่างนั้น ระวังว่าพวกฉันจะไม่เกรงใจกับนายนะ”

“ไม่เกรงใจกับฉันเหรอ”เยี่ยชิวเหลือบมองชายสามคนที่พูดและพูดอย่างไม่เเคร์ว่า“เพียงแค่พวกนายยังอยากไม่เกรงใจกับฉัน?แกว่งเท้าหาเสี้ยนจริงๆ!”

“ไอ้สัตว์ กำเริบเสิบสานขนาดนี้ ชกมัน”

ชายสามคนรุมล้อมเข้าไป

อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขายังไม่เข้าใกล้มุมเสื้อผ้าของเยี่ยชิว พวกเขาก็บินกันออกไปหมด

ไม่ถึงหนึ่งวิ

อะไร?

เมื่อเห็นฉากนี้ ใบหน้าของจินหลิงหลิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ไม่เพียงแต่เธอ แม้แต่ผู้โดยสารคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงกับทักษะของเยี่ยชิว

พวกเขาจะไปรู้ได้ยังไงว่า เยี่ยชิวไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นปรมาจารย์ที่ยอดเยี่ยม

ถ้าไม่ใช่เพราะเยี่ยชิวตั้งใจจะบังคับแรงตนเองไว้ ท่าเมื่อกี๊ ชายทั้งสามจะตายไปเลยทันที

รอบๆ หญิงน้อยสองสามคนกระซิบอยู่

“โอ้พระเจ้า ผู้ชายที่หล่อเหลาคนนั้นทรงพลังมาก แม้ว่าบรูซลีจะยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่น่าเป็นเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้มั้ง”

“ใบหน้าของเขาหล่อกว่าบรูซลีอีกถ้าเขาไปแสดงหนังภาพยนตร์ เขาจะเป็นซูเปอร์สตาร์กังฟูที่ฮอตที่สุดแน่นอน”

“ ถ้าเขาเป็นแฟนของฉันก็ดีเเล้ว แบบนี้จะไม่มีใครกล้ารังแกฉันอีกต่อไป รู้สึกปลอดภัยจังเลย”

“เหมียวเหมียว เเกมีอารมณ์รักอีกเเล้ว……”

จินหลิงหลิงได้ยินเสียงของหญิงน้อยหลายคนเเล้วในใจของเธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้น

พวกเธอตาบอดเหรอ?

เขาผอมเหมือนซี่โครงหมู จะมีความรู้สึกปลอดภัยได้ยังไง?

จินหลิงหลิงเหลือบมองชายสามคนที่ถูกเยี่ยชิวทุบล้มอีกครั้ง และความโกรธของเธอก็ยิ่งมากขึ้น

“หมายความว่าไง? ไม่ไปจับกุมเขาแล้วเหรอ? ระวังยื่นคำฟ้องคุณ จินหลิงหลิงพูดอย่างโกรธจัด

“คุณจินคะ ถ้าคุณไม่พอใจก็ไปยื่นคำฟ้องได้เลยค่ะ ตอนนี้ยังต้องการเปลี่ยนที่นั่งไหมคะ?”

จินหลิงหลิงแปลกใจเล็กน้อย

ทัศนคติพนักงานบนเครื่องบินดีมาโดยตลอด แต่วันนี้น้ําเสียงหนักแน่นมาก ผิดปกติมาก

หรือว่า ไอ้หนุ่มนี้มีต้นกำเนิดอะไร?

ไตร่ตรองไปสามวินาที

“ฉันจะเปลี่ยนที่นั่ง” จินหลิงหลิงยังกลืนลมหายใจนี้ไม่ได้และพูดกับเยี่ยชิววอย่างดุร้าย“นายรอไว้ ถ้าถึงเจียงโจวแล้ววฉันค่อยจัดการนาย”

เยี่ยชิวยิ้มอย่างเย็นชา

เป็นคนโง่จริงๆ เจียงโจวเป็นดินแดนของฉัน ใครกล้ามาจัดการฉัน?

ในที่สุดในเคบินก็เงียบลงอีกครั้ง

ไป๋ปิงกระซิบกับเยี่ยชิวว่า “เมื่อกี๊นายไม่ควรตีเขา จินหลิงหลิงเป็นเทพธิดาของโอตาคุ เป็นที่รู้จักในฐานะดาราชั้นนําในประเทศจีน มีแฟนคลับมากมาย ถ้าแฟนคลับของเธอรู้เรื่องนี้ ฉันกลัวว่าพวกเขาจะมาสู้ตายกับนาย”

“ฮึ สู้ตายก็สู้สาย ฉันไม่กลัวหรอก ดีที่สุดเธออย่ามายุ่งกับฉันอีก ไม่งั้นฉันจะทําให้เธอรู้สึกคิดผิดทั้งชีวิต”

เยี่ยชิวกล่าวต่อ“ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ผู้หญิงที่โอ้อวดความเซ็กซี่อย่างจินหลิงหลิง จะมีแฟนคลับเยอะขนาดนั้นได้ยังไง?”

“นายไม่รู้ ดาราตอนนี้ โดยเฉพาะดาราชั้นนำ ไม่เพียงแต่มีแฟนคลับเยอะแยะ เเล้วแฟนคลับเหล่านั้นก็คลั่งไคล้มาก พวกเขาสามารถทําทุกอย่างเพื่อไอดอลของพวกเขาได้”

เยี่ยชิวถอนหายใจและพูดว่า

“บางคนอายุสิบแปดปีเป็นผู้พลีชีพตรงชายแดนของประเทศ เสียสละชีวิตที่อ่อนเยาว์และมีค่าของตนเองไป!”

“และบางคนอายุสิบแปดปี แต่พวกเขาไม่มีขีดขั้นตํ่าในการเป็นติ่งดารา ลืมความยากลําบากที่บรรพบุรุษของพวกเขาได้รับ!”

“ดาราบันเทิงในปัจจุบันกลายเป็นอาชีพที่ไร้เกณฑ์ที่สุด พวกเขาไม่จําเป็นต้องถือใบรับรอง ไม่จําเป็นต้องเขียนงานวิจัย ไม่จําเป็นต้องตรวจสอบคุณสมบัติประจําปี แม้แต่ดาราบางคนก็เพิกเฉยต่อหลักการพื้นฐานที่สุดและไม่มีการฝึกอบรมศีลธรรมและการรู้หนังสือทางวัฒนธรรม ไม่รู้จริงๆว่า พวกเขามีสิทธิ์อะไรที่จะไปสร้างอิทธิพลเเก่วัยรุ่นที่กำลังถึงขั้นตอนในการสร้างมุมมองในทัศนคติ?”

“ฉันคิดว่าบุคลากรทางการแพทย์ วีรบุรุษชายแดน ตำรวจปราบปรามยาเสพติด นักผจญเพลิงนักวิทยาศาสตร์ นักบินอวกาศ นักกีฬาโอลิมปิก ครูอาสาสมัคร และฝ่ายบรรเทาความยากจน ควรจะเป็นดาวเด่นสมัยนี้ที่วัยรุ่นควรไล่ล่าในยุคนี้”

“ความบันเทิงอันดับเเรก ไม่ควรเป็นกระแสหลักในยุคนี้ อย่างพวกดาราที่ไม่มีผลงานและเอาแต่สร้างกระแสชอบทำตัวไปเกี่ยวข้องกับข่าวนั้นๆเพื่อให้คนมาสนใจ ในที่สุดก็จะถูกคัดออกโดยยุคนี้”

“ดูไว้สิ สักวันวงบันเทิงจะถูกจัดการเเน่!”