วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 982

ซั่งหลิงเจินเหรินสังเกตเห็นใบหน้าของเยี่ยชิวไม่ค่อยดีนัก เขาจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า “ผู้นำเยี่ย ท่านไม่สบายหรือเปล่า?”

“แค่บาดเจ็บเล็กน้อยน่ะ ไม่ได้ร้ายแรงอะไรหรอก” เยี่ยชิวโกหกแบบผ่านไปที

ที่จริงแล้วเขาไม่สามารถบอกซั่งหลิงเจินเหรินว่า อาจารย์ที่เคารพของพวกเขาเป็นคนไม่ได้เรื่องได้ราวใช่หรือไม่?

ซั่งหลิงเจินเหรินเชื่อสนิทใจ และกล่าวว่า “ภูเขาอู่ตานของพวกเรามียาวิเศษที่รักษาอาการบาดเจ็บอยู่มากมาย กลับไปฉันจะเตรียมให้ผู้นำเยี่ยสักหน่อย”

“ขอบใจมากเจินเหริน”

หลังจากนั้นไม่นาน

มีเงาของคนเดินออกมาจากวิหาร

นักบวชเต๋าผู้นี้

อายุของเขาประมาณเจ็ดสิบกว่า สวมจีวรสีขาว หนวดเคราเผ้าผมของเขาเป็นสีขาวทั้งหมด ใบหน้าเปล่งปลั่งในมือถือแส้ขนหางจามรี ประหนึ่งว่าเป็นเทพเจ้า

ยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้าของนักบวชเต๋าดูเมตตาอ่อนโยน ใบหน้าเป็นระเบียบเรียบร้อย เห็นได้ว่าตอนที่เขายังเป็นหนุ่มนั้นคงจะหล่อระดับแนวหน้าก็ว่าได้

ในระหว่างที่นักบวชเต๋าเดินอยู่นั้น ทั่วทั้งตัวของเขาคล้ายกับว่ามีพลังที่มองไม่เห็นซ่อนอยู่ในตัวของเขา

หรือว่านี่จะเป็นพระอาจารย์ชงซวีเต้าเหรินแห่งอู่ตาน?

ช่างวิเศษจริงๆ!

ทันใดนั้นเยี่ยชิวก็ตระหนักได้ว่า ทำไมอมตะชางเหม่ยถึงได้จองหองมากเมื่อพูดถึงชงซวีเต้าเหริน ดูเหมือนว่าตอนนี้ อมตะชางเหม่ยจะอิจฉาริษยาอยู่ไม่น้อย

ไม่ว่าจะเป็น รูปร่างหน้าตา จิตใจและการฝึกฝนของชงซวีเต้าเหรินนั้น เหนือกว่าอมตะชางเหม่ยโดยสิ้นเชิง

นอกจากนี้ชงซวีเต้าเหรินยังเป็นผู้นำนิกายลัทธิเต๋าที่ได้รับความเคารพและศรัทธาจากผู้คนเป็นจำนวนมาก และมีสถานะสูงสุดในองค์กร อย่างนี้แล้วจะไม่ให้อมตะชางเหม่ยอิจฉาได้อย่างไร?

ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่จุดเดียวกันกับอมตะชางเหม่ยก็ต่างพากันอิจฉาและชื่นชม ทุกคนคือลัทธิเต๋า ทำไมเจ้าถึงเก่งกว่าข้า?

มีสิทธิ์อะไร?

“คารวะท่านอาจารย์!”

หลังจากที่นักบวชเต๋าก้าวเท้าผ่านออกจากประตู ซั่งหลิงเจินเหรินและซั่งเจินเจินเหรินโค้งคำนับด้วยความเคารพทันที

“หลงเหมินเยี่ยชิว คารวะท่านผู้อาวุโส” เยี่ยชิวประสานมือเป็นกำปั้นที่หน้าอกพร้อมกับโค้งตัวคำนับ

ถึงอย่างไรก็ตาม ชงซวีเต้าเหรินก็คือพระอาจารย์อู่ตาน คุณธรรมและบารมีสูง ยิ่งกว่านั้น จุดประสงค์ที่สำคัญในการมายังภูเขาอู่ตานของเยี่ยชิวในครั้งนี้เขาต้องการเข้าไปในหอคัมภีร์ เพื่ออ่านความลับของศิลปะการต่อสู้ที่เก็บสะสมอยู่ในภูเขาอู่ตาน เพื่อที่จะเลื่อนขั้นการฝึกฝน และขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น

อย่างไรก็ตาม เยี่ยชิวไม่ทันที่จะโน้มตัวของเขาลงไป เขาถูกมือหนึ่งดึงขึ้นด้วยความอ่อนโยน

“ผู้นำเยี่ย ไม่จำเป็นต้องมากพิธีหรอก เจ้ามาถึงภูเขาอู่ตานได้ ข้าก็ดีใจแล้ว”

เสียงของชงซวีเต้าเหรินเปรียบเสมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิและฝนตกปรอยๆ ทำให้ผู้คนที่ได้ฟังรู้สึกถึงความใกล้ชิดจากก้นบึ้งของหัวใจ

เยี่ยชิวเงยหน้าขึ้นและยิ้มเล็กน้อย

ชงซวีเต้าเหรินมองไปที่เยี่ยชิวไม่กี่ครั้ง เขายิ้มและพูดว่า “ผู้นำเยี่ยยังหนุ่มเช่นนี้ ก็เป็นผู้ดูแลหลงเหมินแล้ว ช่างเป็นคนที่ฉลาดปราดเปรื่องเสียจริง แต่ละคนเป็นผู้นำมานับร้อยปี ผู้อาวุโสพูดชื่นชม”

เยี่ยชิวพูดอย่างถ่อมตัวว่า “ผู้อาวุโสก็ชมเกินไปครับ ผู้น้อยแค่โชคดีเท่านั้นเอง”

“ผู้นำเยี่ยไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้ามีพลังที่งดงามเหมือนหยก ความสงวนท่าทีของเจ้า คงจะเป็นผู้ที่ร่ำรวยมั่งคั่งเป็นแน่ เนื่องจากท่านเป็นผู้ดูแลหลงเหมิน นอกจากเป็นความโชคดีของหลงเหมินแล้ว ยังเป็นนความโชคดีของประเทศอีกด้วย” ชงซวีเต้าเหรินยังพูดต่ออีกว่า “ผู้นำเยี่ย ข้าได้ยินซั่งเจินพูดว่า เจ้าได้ฝึกฝนชี่แท้โดยกำเนิดด้วย”

“ครับ” เยี่ยชิวตอบอย่างเปิดเผย

เมื่อไม่นานมานี้ ตอนที่ไปส่งไท้เจี่ยนที่ดินแดนแม้ว คนจากเมืองต้องห้าม(จื่อจิ้นเฉิง)เข้ามาก่อกวน ชี่แท้โดยกำเนิดได้ปรากฏให้เห็นตอนที่เยี่ยชิวได้ต่อสู้กับพวกเขา

ในเวลานั้น ซั่งหลิงเจินเหรินได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย และเขาเป็นพยานได้

ชงซวีเต้าเหรินกล่าวว่า “ผู้อาวุโสยังไม่เคยเห็นชี่แท้โดยกำเนิดนั่นว่าเป็นยังไงมาก่อนเลย ผู้นำเยี่ยแสดงให้ข้าเห็นทีสิ”

“ได้ครับ” เยี่ยชิวพูดจบ เขาก็ทำการเปิดชี่แท้โดยกำเนิดให้ทุกคนได้เห็น

ชงซวีเต้าเหรินกล่าวว่า “ผู้อาวุโสอยากให้ผู้นำเยี่ยทำอะไรบางอย่างให้กับข้า ไม่ใช่สิ ทำเพื่อภูเขาอู่ตานต่างหากล่ะ”

“ผู้อาวุโสบอกมาเถอะครับ”เยี่ยชิวกล่าวด้วยท่าทางที่เคร่งขรึม

ชงซวีเต้าเหรินกล่าวว่า “ก่อนที่ผู้อาวุโสจะพูดเรื่องนี้ จะขอผู้นำเยี่ยรับปากผู้อาวุโสก่อน”

เยี่ยชิวเริ่มระมัดระวังขึ้นทันที

นักบวชเต๋าผู้นี้คงไม่คิดที่จะขุดหลุมฝังตัวเองหรอกนะ

ถ้าหากตอนนี้รับปากไปแล้วและจะทำอย่างไรถ้าปล่อยให้ชงซวีเต้าเหรินฆ่าตัวเขาเอง?

เยี่ยชิวขมวดคิ้วและพูดว่า “ผู้อาวุโส ท่านพูดออกมาเถอะครับ มิฉะนั้นผู้น้อยเกรงว่าจะทำมันไม่ได้”

ชงซวีเต้าเหรินยิ้มพลางกล่าวว่า “ผู้นำเยี่ยสบายใจเถอะ เรื่องนี้จะไม่ฝ่าฝืนมนุษยธรรมของยุทธจักร และจะไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตของผู้นำเยี่ย ข้าเชื่อว่าเจ้าทำได้แน่นอน”

“ผู้อาวุโสพูดจริงเหรอครับ?” เยี่ยชิวยังคงไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นัก

ชงซวีเต้าเหรินกล่าวว่า “เป็นพระอาจารย์ของสำนักนักบวช หนึ่งคำหลุดจากปาก สี่ม้ายากตามกลับคืน”

เยี่ยชิวคิดอยู่ครู่หนึ่ง และตกลงที่จะรับปาก จุดประสงค์หลักของเขาคือเข้าไปในหอคัมภีร์ เพื่ออ่านความลับของศิลปะการต่อสู้ ส่วนเรื่องที่ชงงซวีเต้าเหรินให้เขาทำนั้น ถ้าหากทำไม่ได้ ถึงเวลาอย่างมากก็แค่ไม่ต้องทำมันก็ได้

“ในเมื่อผู้อาวุโสพูดเช่นนี้แล้ว ข้าน้อยก็ขอรับปากครับ”

เยี่ยชิวถามขึ้นว่า “ผู้อาวุโส ตอนนี้ท่านจะบอกเรื่องที่จะให้ข้าทำได้หรือยังครับ?”

“ไม่ต้องรีบ ข้าจะพาผู้นำเยี่ยไปที่หอคัมภีร์ก่อน” เมื่อชงซวีเต้าเหรินพูดจบ ร่างก็สว่างวาบหายไป เลียบจากหน้าผาลงสู้พื้นดิน

เยี่ยชิวโอบเซียวอี้เหรินไว้และติดตามอย่างใกล้ชิด

ซั่งหลิงเจินเหรินและซั่งเจินเจินเหรินก็ตามลงมาด้วย

ชงซวีเต้าเหรินเป็นผู้นำทางอยู่ข้างหน้า ในไม่ช้า พวกเขาก็มาถึงด้านหน้าวิหารแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ