ถ้าเป็นผู้ชายปกติ ได้ยินเสียงออดอ้อนของเธอ ก็คงจะรีบกระโจนเข้าใส่ทันที แต่เย่ฉ่าวเฉินนับวันยิ่งตาสว่าง เขากำลังสงสัยว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงในคืนนั้นอีกแล้ว
ผู้หญิงคืนนั้นช่างไร้เดียงสา ถึงแม้เธอจะตกเป็นของเขาแล้ว แต่เธอก็คงไม่เปลี่ยนนิสัยเป็นต้องการเขามากขนาดนี้ในช่วงเวลาสั้นๆแน่
เขายังจำตอนที่เขาถามชื่อเธอในคืนนั้นได้ เธอบอกอย่างหนักแน่นว่าเธอไม่ต้องการมีความเกี่ยวข้องใดๆกับเขาอีก
แต่ตอนนี้เฉียวซินโยวกลับรุกให้เขามีอะไรกับเธอ เขาจึงรู้สึกว่ามันแปลกๆ
"ฉ่าวเฉิน คุณเป็นอะไรไปคะ" เฉียวซินโยวกัดริมฝีปากด้วยความหงุดหงิดใจ
เย่ฉ่าวเฉินหลบสายตา ค่อยๆผละตัวออก และพูดอย่างอ่อนโยน "ผมเพิ่งนึกได้ว่ายังมีเอกสารต้องเซ็นต์ คุณนอนก่อนเลย ผมจะไปห้องหนังสือก่อน"
เฉียวซินโยวตัวแข็งทื่อ พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองอย่างหนัก สุดท้ายก็ค่อยๆพยักหน้าลง
เย่ฉ่าวเฉินถอนหายใจออกมา พลางหยิบชุดคลุมข้างเตียงมาสวม และเดินออกไปอย่างมั่นคง
เมื่อเย่ฉ่าวเฉินเดินไปจนลับตาแล้ว เฉียวซินโยวก็กำมือแน่น ทุบลงบนเตียงด้วยความคับแค้นใจ และหัวใจที่แตกสลาย เธอพยายามปลอบใจตัวเองว่า "ไม่เป็นไรนะ ตอนนี้เขาไม่ยอมรับเธอก็เป็นเรื่องปกติ ยังไงเขาก็ต้องเป็นของเธออยู่วันยังค่ำ"
อารมณ์ของเฉียวซินโยวค่อยๆกลับมาสงบ ในสมองเธอมีแต่คำพูดที่เย่ฉ่าวเฉินพูดกับมู่เวยเวยว่า "คุณเป็นได้แค่คู่นอนของผมเท่านั้นแหละ" เมื่อคิดถึงประโยคนี้อารมณ์ของเธอก็ดีขึ้นมาก เธอพูดอย่างเย็นชาว่า "มู่เวยเวย ฉันไม่ปล่อยแกไปแน่ ฉันจะไม่ยอมให้แกมีความสุขอย่างนี้อีกต่อไป"
......
แสงแดดอ่อนๆในยามเช้า ทำให้มู่เวยเวยที่เบื่ออยู่หลายวัน อยากไปนั่งเล่นในสวนดอกไม้ขึ้นมา เธอออกจากห้องมา และกำลังจะเดินลงบันได ทันใดนั้นประตูห้องข้างๆก็เปิดออก ตามด้วยร่างของเฉียวซินโยวมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ
"ว้าว บังเอิญจริงนะ" เฉียวซินโยวยกยิ้มมุมปากขึ้น ก่อนจะมองไปที่แขนขวาของเธอที่ได้รับบาดเจ็บด้วยสายตาเยาะเย้ย และพูดออกมาอย่างช้าๆ "จะลงบันไดหรอ"
มู่เวยเวยไม่อยากสนใจเธอ จึงหันหลังเตรียมจะก้าวเดินลงบันได แต่ทันใดนั้นข้อมือของเธอก็ถูกฉุดอย่างรุนแรงจนทำให้เธอรู้สึกเจ็บแปรบขึ้นมา
"เห็นฉันเดินออกมาจากห้องของฉ่าวเฉิน แกรู้สึกยังไงบ้างล่ะ" เฉียวซินโยวพูดอย่างร้ายกาจ
เมื่อคืนวานเธอปลุกเขาจนมีอารมณ์แล้ว แต่เขาดันมาหยุดเอาตอนขั้นตอนสุดท้าย เธออุตส่าห์ทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิง บอกให้เขามีอะไรกับเธอ แต่เขากลับทิ้งเธอไว้ในห้องคนเดียว และไปอยู่ห้องหนังสือทั้งคืน
เพราะอะไร เขาเกลียดมู่เวยเวยไม่ใช่หรอ
เธอมั่นใจว่าถ้าเธอไม่หยุดไว้ก่อน หลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น
มู่เวยเวยได้ ทำไมเธอไม่ได้
เฉียวซินโยวส่งสายตาเย็นยะเยือกออกมา เอามือจับมือของมู่เวยเวยข้างที่พันผ้าพันแผลแน่น จากนั้นก้พูดออกมาอย่างเคียดแค้น "มู่เวยเวย แกจะให้ฉันทำยังไงแกถึงจะยอมหย่ากับเย่ฉ่าวเฉิน"
มู่เวยเวยขมวดคิ้วมุ่น ผ้าพันแผลสีขาวเริ่มซึมเลือดออกมา มันเจ็บจนทำให้เธอเกร็งไปทั้งตัว เธอดึงมือออก และมองเลือดที่หยดลงบนพื้นเป็นดวงด้วยตาว่างเปล่า พร้อมกับพูดเย็นชาว่า "เรื่องนี้เธอต้องไปบอกเขา"
เฉียวซินโยวส่งประกายเย็นชาออกมา ยกมือขึ้นบีบคางเธออย่างรุนแรง พร้อมพูดด้วยความบ้าคลั่ง "แกก็รู้ว่าฉันพูดไม่ได้ มู่เวยเวยแกแน่ใจนะว่าจะยั่วโมโหฉันอย่างนี้"
เธอโดนตบอย่างรุนแรง แต่มันก็ไม่เจ็บเท่าความสิ้นหวังในใจของเธอตอนนี้
เฉียวซินโยวตบเธอที่แก้ม แต่เธอกลับรู้สึกว่าเฉียวซินโยวทำร้ายหัวใจของเธอจนเป็นแผลเหวอะหวะ
มู่เวยเวยกำที่อกแน่น สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความมืดมน "ฉันไม่อยากตบตีกับเธอ ขอร้องเธออย่ามายุ่งกับฉัน"
คิดไม่ถึงว่าเฉียวซินโยวจะแสยะยิ้มออกมาอย่างดูถูก ก่อนจะเดินเข้ามากระซิบใกล้ๆหูเธอ ด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างโหดร้าย "มู่เวยเวย สู้ไปแกก็ไม่ชนะฉันหรอก ตอนนี้ฉันขอทดสอบหน่อยแล้วกัน"
มู่เวยเวยนิ่งไปอย่างไม่เข้าใจความหมายที่เธอจะสื่อ
เฉียวซินโยวยกมือข้างที่เจ็บของเธอมาไว้ที่ใจเธออย่างอ่อนโยน ก่อนที่เธอจะได้ทำอะไร ทันใดนั้นสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น.......
"ปล่อยฉัน" เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้ มู่เวยเวยก็รีบดึงมือออกอย่างตกใจ
ทันใดนั้น......
"กรี๊ดดด ช่วยด้วย"
เฉียวซินโยวถอยหลังไปหลายก้าว จนพบกับความว่างเปล่า ร่างของเธอเสียสมดุล จึงกลิ้งตกบันไดไป และไปหยุดอยู่ที่ชั้นหนึ่ง
"ซินโยว!"
เสียงคำรามดังมาจากข้างบน จากนั้นเฉ่ฉ่าวเฉินก็มาหยุดยืนอยู่ข้างมู่เวยเวย ดวงตาสีฟ้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาราวกับมาจากน้ำแข็งขั้วโลก "ยัยผู้หญิงใจดำอำมหิต ถ้าซินโยวเป็นอะไรไปแม้แต่นิดเดียว คุณต้องรับผิดชอบ"
มู่เวยเวยตัวแข็งทื่อ มองดูเย่ฉ่าวเฉินวิ่งลงบันไดไปอุ้มซินโยวที่ไม่ได้สติ และตะโกนเสียงดัง "อาหวัง รีบเตรียมรถไปโรงพยาบาล"
เมื่อเห็นสถานการณ์วุ่นวายตรงหน้า มู่เวยเวยก็เพิ่งนึกอะไรได้ เธอจึงรีบวิ่งลงไป ดึงประตูรถที่กำลังจะปิด และพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ "ฉันไปด้วย"
เย่ฉ่าวเฉินมองเธออย่างเกลียดชัง และพูดด้วยน้ำเสียงโหดร้ายอย่างกับไม่ใช่คน "ไสหัวไป"
"ฉันไปด้วย" มู่เวยเวยลุกลี้ลุกลน ดวงตาสีดำสนิทฉายแววดื้อรั้นออกมา "คุณบอกว่าถ้าซินโยวเป็นอะไรไป คุณจะให้ฉันชดใช้ไม่ใช่หรอ คุณไม่กลัวฉันหนีหรือไง"
เมื่อได้ยินเธอพูด เย่ฉ่าวเฉินก็ยิ้มเยาะออกมา และพูดอย่างโหดร้าย "ยังไม่รีบขึ้นรถอีก คิดจะถ่วงเวลารึไง"
มู่เวยเวยตกใจ รีบขึ้นรถ โดยที่เลือดที่แขนของเธอก้หยดติ่งๆลงบนที่นั่ง แต่เธอก็ไม่สนใจ
รถเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเฉียวซินโยวที่หมดสตอยู่ในอ้อมแขนเย่ฉ่าวเฉิน เธอก็รู้สึกผิดในใจขึ้นมา
เมื่อกี้เธอทำอะไรลงไป
เธอผลักซินโยวตกบันได เธอทำอย่างนี้ได้ยังไง
สมองฉายภาพตอนที่เธอกลิ้งตกลงไปซ้ำๆ ใจของมู่เวยเวยเจ็บราวกับมีเข็มแทงเป็นพันๆเล่ม เธอทั้งรู้สึกรู้สึกผิด และโทษตัวเองซ้ำๆ
ถ้าเฉียวซินโยวเป็นอะไรไป เธอก็ไม่ให้อภัยตัวเองเช่นกัน
มู่เวยเวยกัดริมฝีปาก อธิษฐานเบาๆในใจ : ขอโทษนะซินโยว ขอแค่ให้เธอฟื้นคืนมา แม้แต่ชีวิตฉันฉันก็ให้เธอได้
ซินโยว เธอต้องฟื้นขึ้นมานะ....
......
โรงพยาบาลกลางเพื่อประชาชน
มู่เวยเวยยืนอยู่หน้าห้องผ่าตัดอย่างใจจดใจจ่อ เธอว้าวุ่นใจจนทำอะไรไม่ถูก และเพราะเลือดที่แขนซึมออกมามากเกินไป ทำให้เธอเริ่มตาพร่ามัว แต่เธอก็กัดริมฝีปากเพื่อให้ตัวเองยังคงมีสติไว้
เวยเวย ซินโยวยังผ่าตัดอยู่ เธอจะมาหลับไปอย่างนี้ไม่ได้
"เพี๊ยะ..."
"มือขวาของคุณเสียเลือดมาก แถมยังไปให้เลือดอีก อ้อ แล้วก็มีแผลแตกที่ท้ายทอยด้วย ตอนนี้คุณต้องพักผ่อน ไม่งั้นร่างกายจะทรุดลงได้" พยาบาลบังคับเธอนอนลงไปบนเตียง และพูดอย่างสงสาร "ทำไมคุณไม่หวงแหนร่างกายตัวเอง ทำไมปล่อยให้ตัวเองมีแผลมากมายขนาดนี้"
มู่เวยเวยตอบอย่างขมขื่น "บางทีพระเจ้าอาจกำลังลงโทษฉันก็ได้นะคะ"
เธอผลักซินโยวตกบันได เพราะเจ้าก็เลยลงโทษให้เธอทุกข์ทรมาน
พยาบาลขมวดคิ้ว และถามอย่างไม่เข้าใจ "หมายความว่ายังไงคะ"
มู่เวยเวยส่ายหน้า ก่อนจะนึกอะไรได้ จึงถามออกไปอย่างกังวล "คนไข้ผู้หญิงที่ผ่าตัดตอนเช้าอาการเป็นยังไงบ้างคะ"
พยาบาลนิ่งคิด ก่อนจะตอบกลับมาว่า "คุณเฉียวใช่มั้ยคะ ตอนนี้เธอฟื้นแล้วค่ะ แฟนของเธอกำลังดูแลเธออยู่ แฟนเธอหล่อมากๆเลยนะคะ"
มู่เวยเวยพยักหน้า ไม่พูดอะไรต่อไปอีก
พยาบาลใส่น้ำเกลือให้เธอ จากนั้นก็ออกไปพร้อมกับถาดเครื่องมือ
รอจนพยาบาลออกไปแล้ว เธอก็ดึงสายน้ำเกลือออก จนเลือดไหลออกมา แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ ตอนนี้เธอต้องการจะไปขอโทษซินโยวด้วยตัวเอง
หลังทำการผ่าตัดเสร็จ เฉียวซินโยวก็ถูกส่งมาอยู่ห้อง VIP เมื่อมู่เวยเวยเปิดประตูเข้ามา ฉากที่เห็นข้างในก็ทำให้เธอถึงกับก้าวไม่ออก
เฉียวซินโยวนอนอยู่บนเตียง หัวพันด้วยผ้าพันแผล และกำลังนั่งซบเย่ฉ่าวเฉิน ที่กำลังป้อนข้าวให้อยู่
เธอมาผิดเวลารึเปล่า
มู่เวยเวยก้มหน้า ปกปิดความผิดหวังในสายตาไว้ และก้าวถอยหลังเตรียมจะปิดประตู
เฉียวซินโยวเห็นมู่เวยเวยเข้าพอดี เธอก็กระตุกยิ้มอย่างเย็นชา ใบหน้าเต็มไปด้วยสุขใจ เธอพูดเสียงอ่อนโยนว่า "เวยเวย มาแล้วทำไมไม่เข้ามาล่ะ"
มู่เวยเวยรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เธอพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคงว่า "เดี๋ยวฉันค่อยมาใหม่ กินข้าวกันไปเถอะ"
"เธอกินรึยัง เย่ฉ่าวเฉินซื้อมาเยอะมากเลย ฉันกินคนเดียวคงกินไม่หมด เธอมากินด้วยกันสิ" เธอพูด พร้อมกับตบที่นั่งว่างๆข้างตัวเองด้วยสีหน้าอ่อนโยน
มู่เวยเวยรู้สึกผิดในใจ ตอนแรกเธอคิดว่าซินโยวจะด่าเธอ ประจานเธอ คิดไม่ถึงเลยว่าซินโยวยังห่วงเธออยู่
"ยืนทึ่มอยู่ทำไม หรือต้องให้คนไปเชิญมา" เย่ฉ่าวเฉินพูดอย่างเย็นชา และอดรนทนไม่ไหว
มู่เวยเวยรีบเดินเข้าไป มองใบหน้าปกติของซินโยว ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น "ซินโยว ฉันขอโทษ เธอจะด่าจะตีฉันยังไงก็ได้ ยกโทษให้ฉันด้วยนะ"
เฉียวซินโยวตกใจ ก่อนจะยกยิ้มสดใสขึ้นมา และพูดอย่างอบอุ่นว่า "เวยเวย ฉันไม่ระวังเลยตกลงไปเอง ไม่ต้องสนใจหรอก"
เย่ฉ่าวเฉินฮึดฮัดออกมา และพูดอย่างโกรธเคือง "ซินโยว เพราะคุณใจดีขนาดนี้ไง ถึงได้โดนทำร้าย"
เฉียวซินโยวปิดปากของเขาไว้อย่างมีจริต และพูดอย่างเป็นธรรมชาติว่า "พอแล้วค่ะ คราวหน้าฉันจะระวังนะคะ คราวนี้ทำให้คุณเป็นห่วงแล้ว"
เย่ฉ่าวเฉินรู้สึกอบอุ่นขึ้นมามาก เขาบีบจมูกเธอเบาๆ และพูดว่า "ทำไมโง่อย่างนี้"
มู่เวยเวยยืนเงียบ มองภาพสวยงามตรงหน้า ด้วยใจที่ขมขื่น ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ "ฉันกลับก่อนนะ เชิยพวกคุณคุยกันตามสบาย"
"เดี๋ยวก่อน"
มู่เวยเวยค่อยๆหันหน้ากลับไป มองสายตาดุดันของเย่ฉ่าวเฉิน และถาม "มีอะไรรึเปล่าคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...