"เพื่อน นี่อะไร" เสี่ยวอวี้หลินมองตงจื่อหยิบปากกาขึ้นมาเขียน ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่อย่างจริงจัง แต่เขาดูไม่ออกว่ากำลังวาดอะไรอยู่
"ที่ที่พี่หกมักจะไปปรากฏตัวก็ประมาณนี้แหละ พวกเราลองไปที่พวกนี้ก่อน จากนั้นฉันว่าเราน่าจะหาตัวเจอ" การแสดงออกของตงจื่อดูหนักแน่นแปลกๆ ต่างจากเสี่ยวอวี้หลิน
ตอนนี้เสี่ยวอวี้หลินรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ และรีบร้อน จากข่าวลือในตลาด เซี่ยอันน่าอาจจะโดนพี่หกทำลายไปแล้วก็ได้ ตอนนี้เสี่ยวอวี้หลินรอให้ตงจื่อไปตรวจสอบมานานมากพอแล้ว ไม่มีเวลาให้เขาคิดอีกต่อไปแล้ว
ตอนนี้เขาต้องหาที่ที่จะช่วยเซี่ยอันน่าออกมา ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้คงเป็นสงครามอันยาวนาน
"ไม่ต้องไปดูแล้ว พวกเราที่งานประมูลเลย" แม้เสี่ยวอวี้หลินจะไม่ได้คุ้นชินกับการประมูล แต่ก็เคยได้ยินมาบ้าง ไม่ว่ายังไง คนในเมืองจิงเฉิงก็ชินกับพฤติกรรมกการปรากฏตัวแปลกๆของเขาแล้ว
ถ้าวันไหนเขากลายเป็นคนไม่ดีขึ้นมาจริงๆ ก็เกรงว่าทุกคนจะรับไม่ได้ แต่ตอนนี้ก็ดูจะเป็นอย่างนั้น
"อะไรนะ นายจะไปที่แบบนั้นจริงหรอ นายไม่รู้รึไงว่าที่แบบนั้นคนแบบไหนที่ไปกัน" เมื่อตงจื่อได้ยินคำพูดของเขา สายตาของเขาก็แสดงความกังวลขึ้นมา
ตงจื่อมองไปที่เสี่ยวอวี้หลินด้วยความเสียใจ ราวกับสถานที่ประมูลนั้นเป็นถ้ำเสือ เป็นหลุมลึกที่เข้าแล้วย้อนกลับมาไม่ได้
"ตงจื่อไม่ต้องพูดแล้ว ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะหาทางช่วยเซี่ยอันน่าดีกว่าต้องนั่งรอความตายแบบนี้ ซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย" เสียงของเสี่ยวอวี้หลินแหบเล็กน้อย ต่างกับคนก่อนโดยสิ้นเชิง ซึ่งตอนนั้นเขาคิดถึงแต่ตัวเอง
แต่ตอนนี้เขาไม่เหมือนเดิมแล้ว
ในจิตใต้สำนึกเขาบอกว่า ไม่ว่าจะราคาเท่าไหร่ เขาก็จะต้องพาตัวเซี่ยอันน่ากลับมาให้ได้
"เพื่อน ฟังนะ ถึงเซี่ยอันน่าจะสวยจริงๆ แต่นายก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากมายขนาดนี้เพื่อเธอ" ถึงตงจื่อจะกังวลเรื่องเซี่ยอันน่า และชอบเธอเช่นกัน แต่ก็ไม่อยากให้เสี่ยวอวี้หลินไปเสี่ยงในงานประมูลแบบนี้
"แกจะมองเซี่ยอันน่าเข้าถ้ำเสือไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้หรอ" เสี่ยวอวี้หลินเข้าใจสิ่งที่ตงจื่อบอก ที่นี่อันตรายมาก ดังนั้นเขายิ่งต้องพยายามช่วยเซี่ยอันน่าออกมา
ได้ยินมาว่ามีคนไม่น้อยที่ตายในที่ประมูล เขาไม่อยากให้เซี่ยอันน่าโดนอย่างนั้น
"ไม่ใช่ เสี่ยว แกก็รู้ว่าที่นั่นมีแต่คนแบบไหนที่เข้าไป เธอไม่รู้แต่พวกเรารู้ดี ผู้หญิงมีมากมาย นายไปหาผู้หญิงคนอื่นก็ได้" หลังจากตงจื่อธิบายถึงสถานที่ประมูลที่กำลังจะเข้าไปแล้ว เขาก็กล่อมให้ยกเลิกการช่วยเหลือครั้งนี้ไป ถึงผู้หญิงคนนี้จะดี แต่ค่าใช้จ่ายในการช่วยมากเกินไป
"ตงจื่อ ตอนแรกฉันก็คิดว่าเรื่องอื้อฉาวของแกกับเธอจะเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่อย่างนั้น นายดูจะให้ความสำคัญกับตัวเองมากกว่า" เสี่ยวอวี้หลินพูดคำพูดพวกนี้ด้วยความสับสนในใจ แถมเขายังพบว่าเซี่ยอันน่ากับตงจื่อไม่ได้มีความสัมพันธ์อันดีกันขนาดนั้น และรู้ถึงความเห็นแก่ตัวของตงจื่อ
ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้ยากจะเข้าใจ
เสี่ยวอวี้หลินไม่รู้ว่าจะเสียใจหรือดีใจดี แต่เขาก็แอบดีใจอยู่ครึ่งหนึ่ง ขณะเดียวกันเขาก็เห็นถึงความคิดเล็กคิดน้อยของตัวเอง เขารู้สึกขอโทษตงจื่อมาก ที่จริงแล้วตงจื่อเฉยชา ไม่ได้สนใจเธอเลย
ตอนนี้ไม่มีเรื่องไหนสำคัญไปกว่าการช่วยเซี่ยอันน่าแล้ว แต่สำหรับเพื่อนคนหนึ่ง และพี่น้องที่ดีที่สุด ตงจื่อไม่อยากให้เสี่ยวอวี้หลินเข้าไปเสี่ยงมากมายขนาดนี้เพื่อผู้หญิงคนเดียว ถึงเธอจะสำคัญ แต่บางครั้งผู้หญิงก็เป็นภาระ ทำให้ผู้ชายต้องเป็นบ้าตาม
อย่างตอนนี้ เพื่อผู้หญิงคนเดียวที่รู้จักกันมาไม่นาน เขาก็พร้อมจะเอาทุกอย่างของตัวเองเข้าแลกแล้ว
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดเลย ถึงจะชอบก็เพียงแค่พักเดียวเท่านั้น ว่ากันว่าผู้หญิงเหมือนแมว ใครดีต่อเธอ เธอก็ตอบทั้งนั้น
และตงจื่อก้แค่ชอบเซี่ยอันน่าเฉยๆ ไม่ได้ต้องการจะทำอะไรเพื่อเธอ ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง เขาก็พร้อมจะช่วยเธอ แต่ถ้าต้องยืมอำนาจของคนอื่น ตงจื่อก็อาจจะต้องชั่งน้ำหนักดูอีกที
คงจะไม่พอที่จะเรียกว่ารัก
แต่สำหรับเสี่ยวอวี้หลิน นับวันเขายิ่งรู้สึกว่าเซี่ยอันน่าสำคัญต่อชีวิตเขา นับวันยิ่งรู้สึกว่าเซี่ยอันน่าเป็นผู้หญิงที่ต้องดูแลอย่างดี ยิ่งคิดอย่างนี้ เขาก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดเมื่อต้องเสียเธอไป ยังนั้นจึงไม่ได้คิดอะไรอย่างรอบคอบ
แต่ในขณะที่เขากำลังคิดว่าเซี่ยอันน่าตกอยู่ในมือเสือแล้ว ก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งจากในนั้นดังขึ้นมา
แสงสีเหลืองส่องกระทบผนังในห้องใต้ดิน
เซี่ยอันน่าถูกพี่หกพาลงมาในห้องใต้ดิน ถึงที่นี่จะเป็นห้องใต้ดิน แต่เมื่อเซี่ยอันน่าดูเฟอร์นิเจอร์แล้วก้เห็นว่ามันหรูหราไปหมด
"ฉัน....ฉัน....." เสียงของพี่หกอ่อนโยน ไม่มีความดุร้ายอย่างตอนแรกแล้ว
"ไมอยากเข้าไปหรอ" สายตาของพี่หกเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนจนเซี่ยอันน่าแทบรับไม่ได้ ระหว่างทางบางทีเขาก้ดุร้าย บางทีเขาก็อ่อนโยน ทั้งหมดนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
มองจากสถานการณ์ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์ดีๆร้ายๆอย่างนี้ต่อไป ดังนั้นเซี่ยอันน่าจึงไม่กล้าทำอะไรบ้าๆ สิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้ก็คือ รีบพาตัวเองออกไปจากที่นี่ หนีไปจากผู้ชายที่ไม่ปกติตรงหน้า เพื่อให้ตัวเองมีอารมณ์ที่มั่นคงกว่านี้
ถ้าไม่อย่างนั้น เธอจะเครียดไปถึงตอนไหนเธอก็ไม่รู้ได้
"ไม่ ไม่ใช่" เซี่ยอันน่าจะกล้าพูดได้ยังไง ถึงจะกลัวจริงๆ แต่ก็ทำได้แค่ทำตาม ไม่อย่างนั้นจะมีแรงไปคิดวิธีหนีได้ยังไง
หึ ที่แท้เสี่ยวอวี้หลินก็เหมือนกับผู้ชายรวยๆหลายๆคน เขาไม่เคยเห็นเซี่ยอันน่าอยู่ในสายตา ถ้าอย่างนั้น เธอก็ควรจะคิดถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองสักหน่อย
ตอนนี้ข่าวของเขาสักนิดก็ไม่มี ราวกับเขาว่าไม่สนใจเธอเลยสักนิด หรือไม่เขาก็อาจจะไม่รู้เลย
ช่างเถอะ ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้เธอก็ทำได้แค่ต้องพึ่งตัวเอง
"มา เข้าไป" พี่หกค่อยๆเปิดประตูห้องใต้ดิน ก่อนที่แสงสว่างจากข้างในจะส่องออกมา
เมื่อมองไปไกลๆ ถึงแม้จะดูอลังการ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ขาดสไตล์ มันไม่เหมือนกับสไตล์การออกแบบของนักออกแบบคนอื่นๆ การออกแบบของที่นี่คล้ายกับอังกฤษเล็กน้อย และมีบรรยากาศที่โรแมนติก
บนโต๊ะวางดอกยิปซี แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเจ้าของเป็นคนเอาใจใส่ขนาดไหน เขาเอาใจใส่ดอกไม้มากขนาดนี้ จึงไม่แปลกใจเลยที่เขาจะเอาใจใส่กับการตกแต่ง
“ชอบไหม” พี่หกกลับมาอารมณ์ขุ่นมัวอีกครั้ง ทำให้เซี่ยอันน่ารู้สึกกลัวขึ้นมา
เมื่อต้องอยู่กับคนที่ไม่สามารถเดาอารมณ์ได้เธอก็แทบจะบ้า และยิ่งตอนนี้เธอไม่กล้าพูดอะไรเลย เพราะกลัวว่าอาจจะไปทำให้เขาโกรธเข้า นี่ไม่ใช่จุดจบที่เธอต้องการ
“คุณห้องใต้ดินนี้สวยมาก และฉันก็ชอบมาก ดูแล้วคุณน่าจะชอบผู้หญิงคนนั้นมากใช่ไหม” เซี่ยอันน่าถามอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าจะไปแทงใจดำเขาเข้า ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่จากบทสนทนาของทั้งสองคนเมื่อสักครู่ เธอก็ดูออกว่าเขารักเธอคนนั้นมาก ห้องนี้น่าจะทำเพื่อผู้หญิงคนนั้น
ถ้าไม่อย่างนั้น เขาคงไม่ต้องกังวลว่าห้องนี้สวยหรือว่าไม่สวย ทำให้ผู้หญิงพอใจได้หรือไม่
แม้แต่เธอที่เป็นผู้หญิงที่เขาซื้อมา เขายังพาเธอมาชม แสดงให้เห็นว่าเขาไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
ตอนนี้อารมณ์ของเซี่ยอันน่าเริ่มหนักแน่นขึ้น ผู้ชายคนนี้ต้องโดนโจมตีหนักขนาดไหนกัน ตอนนี้เธอไม่กลัวอะไรเลย เธอกลัวแค่ว่าเขาจะเอาเธอมาเป็นตัวแทน แล้วถ้าวันนึงเขาเกิดไม่พอใจขึ้นมาเขาจะฆ่าเธอไหม
ถึงจะคิดอย่างนี้ แต่เซี่ยอันน่าก็ยังหัวเราะเยาะตัวเอง ตอนนี้เธอเป็นลูกไก่ในกำมือของเขาแล้ว เธอจะต้องคิดถึงเรื่องพวกนี้อีกทำไมกัน
ช่างน่าขำจริงๆ ตอนนี้เธอแทบจะถูกเชือดแล้ว ยังคิดว่าตัวเองจะหนีออกไปได้อีกหรอ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ขอบตาของเซี่ยอันน่าก็เริ่มรื้อน้ำตาขึ้นมา ตอนแรกเธอไม่ต้องการแสดงอารมณ์ใดๆ แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถคุมมันไว้ได้
“หุบปาก เธอร้องไห้ทำไม ฉันไม่ได้ตีเธอสักหน่อย” เมื่อเซี่ยอันน่าร้องไห้ พี่หกก็ทำอะไรไม่ถูกทันที
ความคิดของผู้หญิงกับผู้ชายไม่เหมือนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นราวกับปัญหาระดับโลก
“ฉันไม่ได้ร้องไห้” เซี่ยอันน่ายังคงสะอื้นอยู่ และพยายามไม่ทำให้เหมือนกับร้องไห้ ตอนนี้เธอกลัวผู้ชายตรงหน้าไม่พอใจมาก เธอกลัวเขาจะหั่นเธอเป็นชิ้นๆ เรื่องอย่างนี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
จากตำนานที่เคยเล่าขานกันมาก็ดูจะเป็นอย่างนี้ เมื่อเซี่ยอันน่าเห็นอารมณ์ไม่คงที่ของเขา เธอก็รู้สึกว่าสองคนนี้คล้ายกันมาก ไม่แน่อาจจะเป็นคนๆเดียวกันก็ได้
และจากที่ไม่ไกลออกไป เสี่ยวอวี้หลินกับตงจื่อก็ยังคงทะเลาะกันอยู่เรื่องผู้หญิงหรือว่างานสำคัญกว่ากัน แม้ว่าจะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เสี่ยวอวี้หลินก็รู้สึกว่าเขาถูกดึงดูดความสนใจไม่น้อย
“ตงจื่อ นายหมายความว่ายังไงกันแน่” เสี่ยวอวี้หลินโกรธกับท่าทีของตงจื่อมาก ในเมื่อเขาก็ชอบเซี่ยอันน่า แล้วทำไมยังพูดคำพูดพวกนี้เพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเขาอีก
“เสี่ยว แกน่าจะรู้ดีว่ากว่าแกจะมาถึงจุดนี้ได้ แกพยายามมากขนาดไหน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...