"อ้อ ของว่างอยู่ทางนุ้น เครื่องดื่มก็อยู่ทางนุ้น หรือไม่ เดี๋ยวฉันพาอันนาไปเอง"
“ไม่เป็นไร ฉันเองก็ขอแห้งพอดี”
พูดจบ เสี่ยวอวี้หลินจับมือเซี่ยอันนาเดินจากไปต่อหน้าตงจื่อด้วยความภูมิใจ
ก่อนจะจากไป เซี่ยอันนาก็โบกมือให้ตงจื่อ ราวกับว่าเธอถูกเสี่ยวอวี้หลินลากไป
เดินไปที่โต๊ะของว่าง เสี่ยวอวี้หลินถามด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจ: "พวกเธอสองคนมีเรื่องอะไรต้องคุยกันนักหนา?"
เซี่ยอันนาทำอะไรไม่ถูกและพูดว่า: "ตั้งแต่เจอกัน ฉันกับตงจื่อเพิ่งคุยกันได้สองคำ"
"สองคำก็เยอะแล้ว"
"ความหมายของเธอ คือจะให้ฉันเป็นใบ้หรอ?"
"บางครั้ง ฉันก็อยากตัดลิ้นเธอ"
“ บ้าเปล่า!”
กรอกตาใส่เสี่ยวอวี้หลิน จากนั้นเซี่ยอันนาก็เริ่มกินของว่าง
วุ้วว อันนี้อร่อยจริงๆ!
ตอนแรกเซี่ยอันนาแสร้งว่าอร่อย แต่พอกินไปกินมา มันเริ่มอร่อยจริงๆแล้วเธอจึงเริ่มเอื้อมไปหยิบของกินทุกอย่าง อย่างมีความสุข
กลัวว่าเซี่ยอันนาจะสำลัก เสี่ยวอวี้หลินจึงไปเอาน้ำมาให้เธอ
เซี่ยอันนาก็ไม่เกรงใจ ขอให้เสี่ยวอวี้หลินช่วยหยิบของว่างจากตรงนั้นให้ สักพักขอให้หยิบสลัด พอกินแล้วอร่อย ยังให้เสี่ยวอวี้หลินลองชิมอีกด้วย
ทั้งสองคนทำแบบนี้เป็นเรื่องปกติมาก แต่ในสายตาคนอื่น พวกเขาดูสนิทสนมกัน
ทุกสายตาจ้องไปที่เสี่ยวอวี้หลินกับเซี่ยอันนา อวิ๋เวยที่เห็นเช่นนี้ก็บีบมือตัวเองแน่น
ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีมากจนทำให้คนอื่นอิจฉา
แต่พวกเขาเพิ่งรู้จักกันไม่นาน ทำไมถึงสนิทสนมกันขนาดนี้? เป็นไปได้ไหมว่าเสี่ยวอวี้หลิน ตั้งใจทำแบบนี้เพื่อให้เธอเห็น?
เมื่อนึกถึงเช้นนี้ มือที่กำแน่นของอวิ๋เวยก็ปล่อยออก สีหน้าที่ไม่ดีก็คลายลง
กินอิ่มพอสมควรแล้ว เซี่ยอันนาเงยหน้าขึ้นและเห็นว่ามีคนมารวมตัวกันที่แผนกต้อนรับ เธออดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัย: "พวกเขากำลังจะทำอะไร?"
เสี่ยวอวี้หลินยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า: "เธอนี่นะมัวแต่กิน งานเริ่มแล้วยังไม่รู้อีก"
“ งานเริ่มแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันแค่รับผิดชอบเรื่องกิน อย่าลืมสิ เธอบอกว่าพาฉันมากินนิ”
คำพูดของเซี่ยอันนาทำให้เสี่ยวอวี้หลินพูดไม่ออก
บนเวที พิธีกรได้หยิบของประมูลขึ้นมา ผู้คนด้านล่างก็เริ่มยกป้ายประกาศของพวกเขา
ในขณะที่เซี่ยอันนากำลังกินและดูไปด้วย รู้สึกน่าเบื่อมาก
จนกระทั่ง พิธีกรหยิบสร้อยเพชรออกมา เซี่ยอันนาจึงหยุดกินและพูดว่า " อืม สร้อยเส้นนี้ดูดีอยู่นะ"
“ ถ้าเธอชอบ ฉันจะซื้อเป็นของขวัญให้”
เซี่ยอันนาเห็นว่าสร้อยคอเส้นนี้ค่อนข้างเรียบง่าย คงไม่แพงมากหรอก
รายการประมูลเมื่อกี้คือแจกันที่แตก แต่ยังมีราคาหลานล้าน ดูเหมือนงานนี้จะมีมูลค่าสูงจริงๆ
"ราคาเริ่มต้นที่ หนึ่งล้าน"
ขณะที่เซี่ยอันนากำลังพรึมพรำ พิธีกรก็พูดราคาออกมาด้วยรอยยิ้ม
"แค่กแค่ก -"
เมื่อเห็นเซี่ยอันนาสำลัก เสี่ยวอวี้หลินตบเธอเบาๆ
เช็ดริมฝีปากด้วยผ้าเช็ดหน้า เซี่ยอันนาพูดไม่ออกจริงๆ
สร้อยที่เรียบง่ายดูธรรมดาแบบนั้นราคาเป็นล้านเลยหรอ? หลอกเอาเงินหรือเปล่าเนี่ย!
แต่ก็มีคนหลายคน ยอมให้ถูกหลอก
"หนึ่งล้านห้า"
"สองล้าน"
"สองล้านสอง"
......
ผู้คนยังคงชูป้ายแย่งกันและทุกคนก็กระตือรือร้น ดูเหมือนว่าสร้อยเส้นนี้ไม่แพงเลย
บ้าไปแล้ว คนพวกนี้บ้าไปแล้วจริงๆ!
ในขณะที่เซี่ยอันนากำลังส่ายหัว ผู้ชายที่อยู่ข้างๆก็ชูป้ายขึ้น
"ห้าล้าน!"
ดวงตาอึ้งของเซี่ยอันนามองไปที่เสี่ยวอวี้หลินอย่างไม่เชื่อและพูดว่า "เธอก็บ้าไปแล้วเหมือนกัน"
เสี่ยวอวี้หลินพูดอย่างสบายๆ: "กว่าจะมีชิ้นที่เธอชอบ ก็ต้องซื้อให้เธอสิ"
“ก็ไม่เห็นต้องเสียเงินมากขนาดนี้เลยนิ มันมากเกินไป!”
"ไม่ต้องห่วง ฉันรวยมาก แค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอก"
“ หกล้าน!”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกัน ก็มีคนชูป้ายขึ้น
คือ อวี๋เวย
เสี่ยวอวี้หลินหันหน้าไปมองอวิ๋เวยและหรี่ตาลง
เมื่อเห็นคนอื่นแย่งไป เซี่ยอันนาจึงรีบพูดว่า: "คุณหนูอวี๋เองก็ชอบ งั้นยอมให้เธอเหอะ"
"ทำไมเธอถึงไม่มีความมุ่งมั่นเลย ถ้าชอบก็ต้องสู้สิ ถ้าเธอยอมให้คนอื่นตลอด เขาก็ต้องได้ใจสิ"
น้ำเสียงของเสี่ยวอวี้หลินค่อนข้างสูง ซึ่งทำให้เซี่ยอันนารู้สึกว่าคำพูดของเสี่ยวอวี้หลินมีแรงจูงใจแอบแฝง
อวี๋เวยอีกด้านก็ดูเหมือนจะไม่ยอม พร้อมชูป้ายสู้
"เจ็ดล้าน"
“แปดล้าน”
“ เก้าล้าน”
"สิบล้าน!"
ตัวเลขนี้ทำให้ทุกคนตะลึง
อวี๋เวยยังคงอยากจะยกมือขึ้น แต่มีคนข้างๆจับเธอไว้และพูดบางอย่างกับเธอ
มองไปที่เสี่ยวอวี้หลินอย่างเงียบ ๆ อวิ๋เวยก็ไม่ได้เสนอราคาสู้ต่อ
เพิธีกรถือโอกาสวางค้อนและตะโกนในทิศทางของเสี่ยวอวี้หลิน: "ถ้าอย่างนั้น สร้อยเส้นนี้เป็นของคุณเสี่ยว!"
ภายใต้สายตาของทุกคน เสี่ยวอวี้หลินเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างช้าๆ หลังจากรับสร้อยคอแล้วเขาก็สวมสร้อยให้เซี่ยอันนา
เซี่ยอันนากลายเป็นจุดสนใจอีกครั้ง แต่เธอไม่ชอบเลย
จนกระทั่งมีการประมูลรายการต่อไป การจ้องมองนั้นค่อยๆลดน้อยลง
ด้วยความโล่งอก เซี่ยอันนาพูดกับเสี่ยวอวี้หลิน: "ฉันอยากไปห้องน้ำ"
"อืม ไปสิ"
เซี่ยอันนาจึงหันไปเข้าห้องน้ำ มองตัวเองในกระจกและรู้สึกว่าคอของเธอหนักมาก
ตั้งสิบล้าน จะไม่หนักได้ไง......
นี่เป็นของขวัญที่นี่ ราคามหาศาลขนาดนี้
ผู้คนนิยมซื้อเครื่องประดับเพื่อความสวยงาม และเครื่องประดับของเซี่ยอันนาเป็นเพียงเครื่องเตือนใจ บางทีเดินอยู่ข้างถนนอาจจะถูกปล้นได้
ไม่ได้ไม่ได้ ถอดมันออกดีกว่า แล้วค่อยเอาคืนเสี่ยวอวี้หลิน
คิดอย่างนั้นในใจ เซี่ยอันนาจึงถอดสร้อยคอของเธอและไปออกจากห้องน้ำ
แต่เมื่อเธอกลับไป เซี่ยอันนาก็ไม่เห็นเสี่ยวอวี้หลิน
แปลกจัง ไปไหนแล้ว?
เซี่ยอันนาเดินไปรอบคฤหาสน์ เซี่ยอันนาสูดหายใจลึกๆในขณะที่กำลังเดินตามหาเสี่ยวอวี้หลิน
แต่เมื่อเธอมาถึงมุมหนึ่ง เธอก็แอบได้ยินเสียงคนคุยกัน
“ใส่แล้วมันไม่เหมาะกับฉัน”
"พูดอะไรเนี่ย ฉันให้เธอแล้ว เธอใส่ไว้หนะดีแล้ว"
“ ไม่เอา ฉันเก็บไว้ไม่ได้จริงๆ”
“ ทำไมเธอเป็นคนไม่ฟังเหตุผลแบบนี้”
“ ฉันก็เป็นคนแบบนี้แหละ เธอเพิ่งรู้หรอ?”
ในขณะที่พูด เซี่ยอันนาหันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
"เฮ้ย เธอจะไปไหน?"
“กินอิ่มแล้ว ก็สมควรกลับแล้วสิ”
"เดี๋ยวก่อน" เสี่ยวอวี้หลินคว้าเซี่ยอันนาไว้และพูดว่า "เดี๋ยวค่อยกลับ"
“ รออะไรอีก เธอจะเอาฉันไปเป็นตัวประชดอีกนานแค่ไหน?”
เสี่ยวอวี้หลินขมวดคิ้วและถามว่า "ประชดอะไรกัน?"
เมื่อเห็นเสี่ยวอวี้หลินยังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง เซี่ยอันนาก็โกรธมาก
เธอดูน่าโง่ขนาดนั้นเลยหรอ ถึงหลอกกันแบบนี้?
หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ เซี่ยอันนามองตรงไปที่เสี่ยวอวี้หลินและพูดว่า "ฉันรู้ว่าเธอเคยช่วยฉันมาก่อน คุณขอให้ฉันช่วย ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ครั้งหน้าช่วยบอกฉันก่อนนะว่าให้ฉันมาช่วยเป็นตัวอะไร ฉันจะได้ไม่ต้องคิดไปเอง”
เสี่ยวอวี้หลินรู้สึกวิงเวียนศีรษะและถามว่า "เซี่ยอันนา เธอกำลังพูดถึงอะไร"
“ พูดอะไรเธอก็รู้อยู่ในใจ ช่างเหอะ ในเมื่อเธอจะแกล้งโง่ งั้นก็แกล้งไปให้สุดเถอะ”
หลังจากพูด เซี่ยอันนาก็สลัดมือของ เสี่ยวอวี้หลิน และเดินออกไปข้างนอกคฤหาสน์
แต่สิ่งที่เซี่ยอันนาไม่คาดคิดคือมีนักข่าวอยู่ข้างนอกคฤหาสน์
เมื่อเห็นเซี่ยอันนาและ เสี่ยวอวี้หลินเดินออกมา นักข่าวก็พากันไปรอบๆพวกเขาทันที ถือไมโครโฟนและกล้องถ่ายรูปชี้ไปที่ทั้งสองคน
"คุณเสี่ยว ได้ยินมาว่าคุณเป็นผู้เสนอราคาสูงสุดในงานประมูลครั้งนี้ เพื่อเป็นการบริจาคเพื่อการกุศล แต่ไม่รู้ว่าทำไมของประมูลชิ้นนี้ถึงทำให้คุณสนใจเป็นพิเศษ?"
เสี่ยวอวี้หลินยื่นมือออกมาจับเซี่ยอันนาและพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉยว่า : “จริงๆแล้วฉันไม่ได้ตั้งใจจะประมูล แต่เห็นว่าแฟนฉันชอบก็เลยซื้อให้เธอ"
"แฟน?"
"ใช่แล้ว ผู้หญิงคนนี้แหละ เซี่ยอันนา"
จากคำพูดดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้เล็งกล้องไปที่ เซี่ยอันนาทันที
แม้ว่าเซี่ยอันนาจะถูกดังข่าวถ่ายมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน
มันเป็นรายการอัด ถ้าพูดผิดยังถ่ายใหม่ได้
แต่ตอนนี้จะพูดผิดไม่ได้แม้แต่คำเดียว ยิ่งทำให้เซี่ยอันนารู้สึกกดดัน
ดูเหมือนจะตระหนักถึงความกังวลใจของเซี่ยอันนา เสี่ยวอวี้หลินบีบฝ่ามือของเธอและส่งสัญญาณว่าเขาอยู่ที่นี่และขอให้เธออย่าประหม่า
ผู้สื่อข่าวต่างให้ความสนใจในตัวตนของเซี่ยอันนาเป็นอย่างมากและถามว่า "ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงคนนี้คือลูกสาวของคนมีชื่อเสียงตระกูลไหน?"
ก่อนที่เซี่ยอันนาจะพูด เสี่ยวอวี้หลินก็พูดขึ้นก่อนว่า: "เธอเป็นเพียงนักเรียนหญิงธรรมดาๆ ฉันหวังว่าเพื่อนๆในสื่อจะให้ความเห็นใจและไม่ทำให้เธอตกใจ"
ด้วยน้ำเสียงติดตลก เซี่ยอันนารู้สึกโล่งใจ
"เหอะๆ เสี่ยวเชาดูเป็นห่วงเป็นใยแฟนคนนี้จริงๆ"
"ผู้หญิงคนนี้เธอดูคุ้นๆ" นักข่าวคนหนึ่งจ้องไปที่เซี่ยอันนาและทันใดนั้นก็ตบหัวของเธอและพูดว่า "อ้อ ฉันจำได้ว่าโพสต์ยอดนิยมเมื่อสองวันก่อนคือนักเรียนหญิงที่ล่อลวงอาจารย์ ใช่เธอหรือเปล่า......”
"ฉันกำลังจะพูดถึงเรื่องนี้" เสี่ยวอวี้หลินขัดจังหวะอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจังและพูดว่า "นั่นเป็นการใส่ร้ายจากคนไม่หวังดี ฉันอยากจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดและหาความยุติธรรมให้แฟนฉัน "
“ ถ้าอย่างนั้นคุณคิดว่าคุณเซี่ยบริสุทธิ์งั้นหรอ?”
"ไม่อย่างงั้นล่ะ มีแฟนที่หล่อและรวยแบบฉัน จะไปหาอาจารย์แก่หัวโล้นทำไม? คนที่มีสมองคงคิดเรื่องนี้ได้ "
"ฮ่าฮ่า ที่คุณพูดก็ถูก”
"เอาล่ะ ฉันจะส่งเธอกลับโรงเรียนแล้ว รบกวนหลีกทางให้หน่อย"
เสี่ยวอวี้หลินจับมือของเซี่ยอันนาไว้แน่นและเดินผ่านนักข่าวไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...