วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 500

คุณป้าดึงแขนเสื้อของมู่ยู่วฉีและพูดอย่างร้อนรน “ฉันพูดความจริงนะ คุณมู่ต้องเชื่อฉันนะ”

“แล้วทำไมผมต้องเชื่อคุณ”มู่ยู่วฉีขมวดคิ้ว

“ฉันอยู่ที่นี่ทำงานมานานขนาดนั้น พวกคุณมีข้อมูลของฉันทั้งหมด ทำไมฉันถึงจะเอาชีวิตที่สงบสุขไปทิ้งแค่เพียงเพราะเรื่องนี้ล่ะ แถมพวกคุณยังเป็นคนจ่ายเงินให้ฉัน ฉันจะไม่สำนึกบุญคุณได้ยังไง”

มู่ยู่วฉีพยักหน้า “พูดมีเหตุผล”

เมื่อเห็นน้ำเสียงของมู่ยู่วฉีสงบลง คุณป้าก็มองอย่างมีความหวัง “ฉันแค่ถูกคนหลอกใช้ให้ทำความผิด คุณช่วยตรวจสอบให้แน่ชัดด้วย”

“ผมจะตรวจเรื่องนี้แน่ ถ้าคุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องผมจะมาขอโทษ คุณทำงานอยู่ที่นี่ต่อไปก่อน”

“ค่ะ”

“โอเคทำงานต่อได้”

พูดจบมู่ยู่วฉีก็ลุกเดินออกไปจากห้องอาหาร

มู่ยู่วฉีแอบมองคุณป้าจากนอกห้องอาหาร และเรียกคนเข้ามา

“จับสังเกตป้าแม่ครัวไว้ ถ้ามีอะไรผิดสังเกตให้มารายงานทันที”

“ครับ”

วันเวลาเดินไปตามปกติ ทุกคนยังคงตามหาเกาะกระแสของเซี่ยอันน่า

แต่เมื่อเวลาผ่านไปใบหน้าของทุกคนก็เคร่งขรึมมากขึ้น

หลังจากตรวจสอบทำให้รู้ว่า คุณป้าไม่รู้เรื่องจริงๆ เธอถูกชายมีหนวดหลอกใช้ ดังนั้นมู่ยู่วฉีจึงตั้งใจมาขอโทษเธอ และลงไปในห้องใต้ดิน ซ้อมชายมีหนวดจนเกือบตาย

และวันเวลาก็ยังผ่านไปอย่างเดิม

แต่คุณป้าบอกว่าเพราะว่าตัวเธอไม่ระวัง จึงถูกชายมีหนวดหรอกใช้ เธอรู้สึกเสียใจมาก

เธอจึงทำอาหารไว้เต็มโต๊ะเพื่อชดเชย

อาหารบนโต๊ะนั้นน่าทานมาก ทุกคนนั่งลงอย่างสงบ และกินอาหารอันโอชะเงียบๆ

แต่เมื่อกินไปเรื่อยๆหนังตาก็เริ่มหนักขึ้น ทุกคนค่อยๆเลือดออกจากปาก และหมดลมหายใจไป

เมื่อเห็นอย่างนั้นคุณป้าก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย

เธอเดินไปในห้องลับ เปิดประตูมองชายมีหนวดที่สภาพแทบตาย และพูดเสียงเย็น “ฉันคิดว่าคุณจะจริงใจ ไม่คิดว่าคุณจะทรยศฉันอย่างนี้”

ชายมีหนวดมองคุณป้าอย่างเย็นชา “ถ้าเธอทำได้อย่างที่พูด ฉันคงไม่ต้องเลือกทางนั้น”

“คนในครอบครัวของคุณได้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ยังจะเอาอะไรอีก”

“ถึงตอนนี้แล้วเธอยังโกหกฉันอีกหรอ ฉันเห็นรูปนั้นหมดแล้ว เธอจะว่ายังไงอีก”

“รูปหรอ”คุณป้าขมวดคิ้ว และคลายอย่างรวดเร็ว พร้อมส่งรอยยิ้มเหยียดหยาม “ฉันว่าคุณถูกเสี่ยวอวี้หลินกับมู่ยู่วฉีหลอกแล้ว คนพวกนั้นเจ้าเล่ห์ ทำให้ดูไม่ออกว่าอันไหนจริงอันไหนปลอม”

“คุณก็อย่ายอมมากเกินไป”

คุณป้าพูดด้วยสีหน้าเย็นชา “แสดงว่าตอนนี้คุณไม่ไว้ใจฉันแล้วงั้นหรอ หึ งั้นฉันก็ไม่ต้องคิดเกี่ยวกับความรู้สึกเก่าๆแล้ว ฉันจะใช้กฎของแก๊งค์จัดการคุณ ตามนี้แล้วกัน”

พูดจบคุณป้าก็หยิบ

ปืนออกมาเล็งตรงหน้าชายมีหนวด

“แม้จะไม่อยากขัดการใช้กฎของคุณ แต่ก่อนอื่น ผมว่าผมต้องคิดบัญชีกับคุณก่อน”

เสียงจากด้านหลังทำให้คุณป้าตัวแข็งทื่อ หันไปมองอย่างไม่น่าเชื่อ

“พวกแก.... ยังไม่ตาย”

รอยยิ้มของมู่ยู่วฉีเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “ถ้าพวกเราถูกวางยาได้ง่ายขนาดนั้น จะอยู่มาถึงขนาดนี้ได้ยังไง”

“แต่พวกแกไม่ได้สงสัยฉันแล้ว แล้วฉันก็ไม่ได้แสดงพิรุธอะไรด้วย”

มู่ยู่วฉีพูดอย่างโหดเหี้ยม “คุณมีพิรุธตั้งนานแล้วไม่รู้ตัวหรอ”

“เป็นไปไม่ได้”

“เป็นไปไม่ได้งั้นหรอ งั้นผมจะบอกให้ จะได้เลิกมั่นใจสักที”มู่ยู่วฉียิ้ม “คุณป้าแม่ครัวคนนั้นเป็นคนซื่อสัตย์ และเธอจะพูดติดอ่างตอนกังวลแต่วันนั้นคุณกลับพูดคล่องปร๋อ คิดว่าผมจะเชื่อคุณได้ไง”

หลังจากได้ยินอย่างนั้นร่างกายของคุณป้าก็ทรุดลงบนพื้น เธอรู้ว่าเธอแพ้อย่างสมบูรณ์

มู่ยู่วฉียืนมองเธอจากข้างบนและถาม “มีอะไรอยากพูดอีกไหม”

คุณป้าเริ่มกลับมาสงบ เธอเงยหน้าขึ้นยิ้มอย่างเย็นชา

“ถึงพวกแกจะรู้แล้วยังไง ยังไงก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ ยังไงพวกแกก็ต้องตาย”

“แต่ก่อนจะถึงตอนนั้นแกตายก่อน แถมยังต้องตายอย่างน่าอนาจด้วย”

“หึ ตายแล้วก็จบ ฉันไม่กลัว”

“ใช่ตายมันง่ายมาก แต่การมีชีวิตอยู่อย่างทรมานนั้นน่ากลัวกว่า”มู่ยู่วฉีโน้มตัวไปมองคุณป้าและยิ้มอย่างอันตราย “พี่หกได้รับข่าวจากแกแล้วว่าพวกเราตายหมดแล้ว และกำลังจะมาที่นี่ ถ้ามันรู้ว่าเธอส่งข่าวผิด มันจะทำยังไงกับเธอ”

คุณป้ายังไม่ได้ส่งข่าวให้พี่หก คนพวกนี้ต้องแอบใช้ชื่อเธอส่งเขาแน่

พี่หกให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ถ้าเธอล้มเหลว และทำให้เขาต้องเหนื่อย ต้องโดนลงโทษอย่างทรมานแน่

เมื่อคิดถึงตรงนั้น คุณป้าก็เหมือนคิดถึงเรื่องน่ากลัวอยู่

เมื่อเห็นสีหน้าของคุณป้าเปลี่ยนไป มู่ยู่วฉีก็ยืดตัวขึ้นอย่างพอใจ

“เพราะฉะนั้นฉันจะไม่ทำอะไรแก รอให้พี่หกมาพาแกกลับไป พวกเราจะได้ไม่ต้องเสียแรงเองด้วย”

“ไม่ อย่าส่งฉันให้พี่หก”

มู่ยู่วฉีมองไปที่คุณป้าอย่างขบขัน “ทำไมล่ะ เมื่อกี้แกก็แสดงท่าทางว่าจงรักภักดีต่อมันมากไม่ใช่หรอ”

“ฉันขอร้องล่ะ ถ้าไม่ฆ่าฉันตอนนี้ ก็ปล่อยฉันไปเถอะ”

มู่ยู่วฉีขมวดคิ้ว “น่าเสียดายที่สองเงื่อนไขนี้ฉันไม่ยอมรับ ในเกมนี้ฉันต่างหากที่เป็นมือโปร เพราะฉะนั้นเธอต้องเล่นไปตามเกมของฉัน มาพาเธอไปซะ”

“ครับ”

ระหว่างที่คนมาพาตัวคุณป้าไป เธอก็ยังร้องขอให้มู่ยู่วฉีฆ่าเธอไม่หยุด แสดงว่าในใจเธอพี่หกน่ากลัวมาก

มู่ยู่วฉีหันไปมองชายมีหนวด และยักไหล่พูด “ดูซิว่ามีแต่คนแบบไหนอยู่ในแก๊งค์ของแก อยู่กับคนแบบนี้ สักวันก็ต้องได้รับกรรม”

“แสดงว่าพวกคุณจะให้โอกาสผมอีกครั้งใช่ไหม”

“โอกาสหรอ มีสิ แต่ต้องดูว่าแกจะคว้าไว้ไหม”

สายตาของชายมีหนวดเป็นประกายขึ้นมา “ครั้งนี้ผมจะไม่ตุกติก ผมจะสู้เพื่อตัวเอง”

“ดีมาก”

มู่ยู่วฉีหันมาพยักหน้าให้คนข้างหลัง และทุกคนก็เข้าใจความหมายเขาทั้งที

“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับพวกแก”

เย่ชูวเสวี่ยยักไหล่พูด “พอดีเลยพ่อกับแม่ฉันก็อยู่ยุโรป พวกเขาน่าจะมาอังกฤษ มาคุยกับเพื่อนคนนี้สักหน่อย”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นพี่หกก็กำมือแน่นขึ้น เขาแสดงท่าทีอย่างดุร้าย ราวกับหาจุดเชื่อมต่อความสัมพันธ์ที่แท้จริงได้แล้ว

เมื่อเห็นปฏิกิริยาอย่างนี้ ทุกคนก็ดูออกว่าพี่หกมีความสัมพันธ์กับตระกูลเย่จริงๆ

ตอนแรกเย่จิงเหยียนไม่ตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะจำเป็นต้องบอกมากๆ เพราะมีเพียงแค่บรรพบุรุษเท่านั้นที่จะสามารถไขปริศนาได้

เสี่ยวอวี้หลินไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาเป็นห่วงแค่คนเดียว

“ปล่อยนางอีกแล้วพวกเราจะปล่อยแกไป และเราจะให้แกได้เจอกับพ่อแม่ของพี่น้องตระกูลเย่ เพื่อคุยเรื่องเก่าๆ”

“ฉันไม่จำเป็นต้องทำตามการจัดการของพวกแก หลังจากที่คิดดูถึงสถานการณ์ของพวกแกดีๆแล้ว ฉันบอกได้เลยว่าพวกแกต้องตายอยู่ในอังกฤษ ตายทั้งหมด”

“ช่วยบอกเหตุผลที่ฆ่าพวกเราด้วย”

“เพราะพวกแกสมควรตาย”

ที่หกอยากฆ่าทุกคนจริงๆ สายตาของเขาน่ากลัวมาก

สายตาของเย่จิงเหยียนมืดลง “ในโลกใบนี้อาจมีความรักที่ไม่อธิบายได้ แต่ไม่มีความเกลียดที่อธิบายไม่ได้ ถึงแกจะไม่ยอมรับ แต่พวกเราก็เดาออกว่าแกกับตระกูลเย่ต้องมีเรื่องบาดหมางกัน”

“แต่แกก็แค่คนรุ่นหลัง ความแค้นในสมัยนั้น แกคิดว่าแกจะเข้าใจหรอ แล้วแกคิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรอ”

“คนที่ไม่รู้ความจริงคือพวกแก”พี่หกมองไปที่ทุกคนด้วยสายตาสงสาร “ตอนนี้พวกแกวาดฝันต่อไปเถอะ เดี๋ยวตื่นขึ้นมา พวกแกก็จะรู้เองว่าสิ่งที่อบอุ่นที่สุด ที่แท้เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุด ความสุขของพวกแกมันน่าขำสิ้นดี”

สายตาอันประหลาดของพี่หก ทำให้ทุกคนแปลกใจ

เย่ชูวเสวี่ยใจเต้นขึ้นมา “แกก็ได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นจากคนอื่นเหมือนกัน แกจะรู้ได้ยังไงว่าคนนั้นไม่โกหกแก”

“บนโลกใบนี้มักจะมีคนที่ทำให้แกเชื่อโดยไม่ต้องสงสัย และพร้อมจะบุกน้ำลุยไฟเพื่อเขา”

ต้วนอีเหยาฟังเรื่องนี้เงียบๆ ก่อนจะพูด “คนที่เป็นอย่างนี้ถ้าไม่ใช่คนรัก ก็ต้องเป็นคนในครอบครัว จากนิสัยของแก แกไม่น่าใช่คนที่ทำเรื่องบ้าแบบนี้เพื่อผู้หญิง ฉะนั้นก็เหลือแค่คนในครอบครัว อย่าบอกว่าคนในครอบครัวของแกมีปัญหากับตระกูลเรานะ”

คำพูดของต้วนอีเหยาเขาใกล้ความจริงมาก จนทำให้พี่หกโกรธ

“พวกแกไม่มีสิทธิ์พูดถึงเรื่องนี้ หุบปากทั้งหมด”

“ฉันพูดถูกหละสิ”

“นังชั่ว หุบปาก”

พี่หกทนไม่ได้กับต้วนอีเหยา เย่จิงเหยียนเดินเข้ามาจะสั่งสอนพี่หกแต่ก็ถูกต้วนอีเหยาห้ามไว้

เธอใช้สายตาปลามเย่จิงเหยียน และพูด “ได้พวกเราไม่พูดเรื่องนี้แล้ว แล้วจะให้พวกเราทำยังไง ถึงจะปล่อยตัวเซี่ยอันน่า”

เมื่อพูดถึงเซี่ยอันน่า สีหน้าของพี่หกก็เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดมาก

“ผู้หญิงคนนั้นนุ่มมือมาก ฉันอยากเก็บไว้ใช้เอง ไม่อยากให้พวกแกแล้ว”

คำพูดที่ไม่ชัดเจนนี้ทำให้เสี่ยวอวี้หลินโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แทบจะฉีกพี่หกออกเป็นชิ้นๆ

“ไอ้ชั่ว มึง...”

มู่ยู่วฉีห้ามเสี่ยวอวี้หลินไว้ “สงบสติอารมณ์หน่อย มันแค่อยากปั่น”

เสี่ยวอวี้หลินทนไม่ได้แล้ว เขาอยากฆ่ามันให้ตาย

เมื่อเห็นว่าเสี่ยวอวี้หลินกำลังจะเสียการควบคุม ต้วนอีเหยาจึงรีบพูดเข้าประเด็น “พวกเราเป็นอย่างนี้ก็ไม่มีประโยชน์กับใครทั้งนั้น หาวิธีประนีประนอมไม่ดีกว่าหรอ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ