เจ้าอาวาสรู้จักกับจิ่งโม่เยี่ยมานานหลายปี จึงเข้าใจนิสัยของเขาเป็นอย่างดี เขาไม่มีทางนำเชือกป่านมาหาเขาโดยไร้ต้นสายปลายเหตุหรอก
และหากจิ่งโม่เยี่ยหาตัวคนสำนักลี้ลับเจอ จะต้องบอกเขาอย่างแน่นอน
วันนี้จิ่งโม่เยี่ยนำเชือกมาให้เขาตรวจสอบเพื่อยืนยัน ทว่าสุดท้ายกลับไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย ซึ่งปกติแล้วจิ่งโม่เยี่ยจะไม่ทำเรื่องอะไรแบบนี้ นอกเสียจาก...
นอกเสียจากคนสำนักลี้ลับที่จิ่งโม่เยี่ยหาเจอจะมีค่อนข้างพิเศษ
เจ้าอาวาสนึกไม่ออกว่ามีใครพอจะมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับคำว่าพิเศษนี้บ้าง ในสมองของเขามีชื่อของเฟิ่งชูอิ่งผุดขึ้นมา แต่ก็ถูกปัดตกไปอย่างรวดเร็ว
ใครบ้างไม่รู้ว่าเฟิ่งชูอิ่งเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไปขออาศัยจวนสกุลหลิน นางไม่มีทางเกี่ยวข้องกับสำนักลี้ลับได้อยู่แล้ว
เขาถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก ถ้าอย่างนั้นคนพิเศษที่ว่านั่นเป็นใครกันล่ะ?
หลังจิ่งโม่เยี่ยเดินออกมาจากอารามแล้ว เขาก็ยืนถอนหายใจให้กับธรรมชาติอันงดงามตรงหน้า
เขาไม่รู้ว่าเฟิ่งชูอิ่งไปเรียนการถักเชือกของสำนักลี้ลับมาจากที่ไหน วิธีที่นางใช้ผูกเชือกก็ไม่สามารถบอกอะไรได้เลย
แต่อย่างน้อยนางก็สามารถทำให้เขาหลับได้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
ตอนแรกเขาไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของนาง ไม่ว่านางจะอยู่หรือตายก็ไม่เกี่ยวกับเขา อย่างไรเขาก็ไม่คิดจะแต่งงานกับนางอยู่แล้ว
เพราะว่าเขาถูกคำสาปชั่วร้าวกลืนกิน และพร้อมจะตายได้ตลอดเวลา
บัดนี้เขากลับคิดว่า นางสามารถทำให้เขานอนหลับสนิทได้ ดังนั้นชีวิตของนางจึงมีค่าสำหรับเขาอยู่บ้าง
เขาเอ่ยเสียงเรียบว่า “เฟิ่งชูอิ่ง มีคนอยากให้เจ้าตายมากมายนัก เจ้าก็อย่าเพิ่งรีบตายเร็วเกินไปล่ะ”
ในขณะเดียวกัน เฟิ่งชูอิ่งก็จามออกมาเสียงดังลั่น ไอ้เจ้าลูกเต่าตัวไหนมันกำลังนินทานาง?
นางสูดจมูกเล็กน้อย ยกมือนวดหลังคอเบาๆ เมื่อคืนนี้จิ่งโม่เยี่ยสับหลังคอนางไปตั้งหลายครั้ง จนนางคิดว่าคอของตัวเองเกือบจะถูกเขาสับหักอยู่แล้ว
ไอ้ผู้ชายเส็งเคร็ง!
หากมีโอกาสขึ้นมา นางจะฆ่าเขาให้ตายเลย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี