ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 137

จู่ๆก็ให้นางกลับ?

ซูจื่ออวี๋มองไปยังคุณชายชุดขาวผู้นั้นด้วยความสงสัย แต่เขาเอาแต่ก้มหน้าลงต่ำจนซูจื่ออวี๋มองหน้าไม่ชัด

และในตอนนี้เทียนชิงได้เดินเข้ามาถึงตัวของซูจื่ออวี๋แล้ว “คุณหนูซู เชิญ!”

ซูจื่ออวี๋รู้ว่าจวินมู่เหนียนมีความลับอยู่มากมาย ดังนั้นในตอนนี้นางก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวน

ซูจื่ออวี๋หันไปมองจวินมู่เหนียนโดยไม่ได้ถามถึงตัวตนของคุณชายในชุดขาวท่าน แต่กลับถามว่า “ท่านอ๋อง ข้าจะได้เข้าเฝ้าฝ่าบาทในวังอีกเมื่อใด?”

นางยังจำได้ว่านางต้องพิสูจน์ตัวเองจึงจะได้แต่งเข้าจวนของฉินอ๋อง

จวินมู่เหนียนครุ่นคิดก่อนจะบอก “กลับไปรอฟังข่าว” อันที่จริงแล้วอาการเจ็บป่วยของฝ่าบาทกำลังดีขึ้นด้วยการรักษาของโม่ซุน ดังนั้นจวินมู่เหนียนจึงไม่ต้องการให้มีปัญหาแทรกซ้อน

คำว่ารอข่าวนั้นพูดได้ว่าเป็นการพูดออกมาส่งๆ

ซูจื่ออวี๋เบะปาก ในตอนที่นางได้ยินก็เข้าใจความหมายของจวินมู่เหนียนได้แล้ว แต่ตอนนี้มีคนยืนรออยู่ที่หน้าประตูมันจึงไม่ใช่เวลาที่จะก่อกวน ซูจื่ออวี๋โค้งคำนับและออกไปกับเทียนชิงหลังจากที่คำนับเสร็จแล้ว

หลังจาดที่ซูจื่ออวี๋ออกไปแล้ว ชายในชุดขาวผู้นั้นก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นและเดินเข้ามาด้านในห้อง “ศิษย์พี่รอง อ๋องแปด”

จวินมู่เหนียนพยักหน้ารับ “เหนื่อยเจ้าแล้ว ผลตรวจสอบเป็นเยี่ยงไร?”

เมื่อจวินมู่เยว่ได้ฟังก็รู้สึกสับสนและหันไปถามจวินมู่เหนียน “พี่เจ็ด ใครคือจู้หลิง? หยกเจี๋ยจื่อคืออะไร? ทำไมท่านถึงได้ตามสืบคดีเมื่อสิบห้าปีก่อน”

จวินมู่เหนียนเม้มปากแต่ไม่ได้ตอบอะไร เขาหันไปถามหันหรูเฟิงต่อ “ท่านอาจารย์ตอบกลับมาหรือไม่?”

หันหรูเฟิงพยักหน้าและหยิบกระบอกไม้ไผ่เล็กๆออกมาจากแขนเสื้อส่งให้กับจวินมู่เหนียน

จวินมู่เหนียนเปิดมันออกและหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆออกมา บนกระดาษมีเพียงประโยคเดียวสั้น “สิ่งที่ปรุงแต่งขึ้นทั้งปวง บ้างดุจฝันมายาฟองสบู่เงา บ้างก็ราวกับฝันที่ว่างเปล่า ดุจน้ำค้างและอสนีบาต ควรพินิจด้วยอาการเช่นนี้แล”

จวินมู่เยว่เกาหัวของเขาอย่างไม่เข้าใจในความหมายได้อีกต่อไป จวินมู่เยว่ถามขึ้น “พี่เจ็ดนี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ