แม้ว่าแก่นแท้ของสิ่งที่อยู่ภายในนั้นเขายังไม่สามารถตรัสรู้ได้อย่างแท้จริง แต่เขาก็ยังสามารถรับรู้ได้บ้างเป็นเค้าลาง เพราะเคยเป็นยอดปรมาจารย์ระดับจักรวาลในโลกมนุษย์มาก่อน ทำให้มีข้อได้เปรียบในเรื่องความเข้าใจธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ อยู่แล้ว
หลังจากเฝ้าสังเกตนานกว่าครึ่งชั่วโมง อู๋เป่ยเริ่มคิดหนักในใจ รู้สึกว่ามีสิ่งใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นในจิตใจ แม้เวลาจะจำกัด เขาจึงหันไปจ้องมองที่วงแหวนชั้นใน
ในวงแหวนชั้นในนั้นมีสิ่งที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น เป็นวิธีการใช้ดวงดาวเป็นหมากรุกเพื่อจัดตั้งกองทัพดวงดาว พลิกกลับลำดับธรรมชาติ และสร้างกฎเกณฑ์ใหม่ขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม อู๋เป่ยรู้สึกว่ายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะใช้เทคนิคเหล่านั้น จึงเพียงดูเพียงสองสามวิธีแล้วหันไปมองวงแหวนชั้นกลางแทน
ในชั้นกลางบันทึกวิชาดาวระดับต่ำกว่าลงมา เป็นการใช้พลังของดวงดาวหนึ่งดวงหรือหลายดวง มีลักษณะคล้ายกับพลังแห่งความรอบรู้ แต่มีความแข็งแกร่งมากกว่า และพลังของวิชาดาวนั้นไม่สิ้นสุด เพราะเป็นพลังที่ยืมมา
เขาอยากจะดูชั้นนอกด้วย แต่เวลาที่ได้รับอนุญาตให้ตรัสรู้นั้นใกล้หมดแล้ว จึงรีบออกจากที่นั้นและเดินไปยังประตูแห่งแสงดาว
เมื่อออกมา อู๋เป่ยเห็นชายหนุ่มผู้มีพลังอำนาจเข้มขลังมายืนอยู่ข้างหัวหน้าผู้ปกครองยอดเขาดาว ทั้งสองคนจ้องมองเขาอย่างไม่ละสายตา
หัวหน้าผู้ปกครองถามว่า “คุณชายอู๋ ได้รับอะไรบ้างไหม?”
อู๋เป่ยตอบด้วยความมั่นใจว่าแน่นอนว่าได้ เขาเห็นบางสิ่งในแก่นแท้แต่ไม่กล้าบอกว่าตรัสรู้จริงจัง ส่วนสิ่งในชั้นในแทบจะดูครบแล้ว แต่ยังใช้ไม่ได้ในตอนนี้
สิ่งที่เขาจดจำได้มากที่สุดคือวิชาดาวในชั้นกลาง ซึ่งเขาได้บันทึกไว้นับร้อยวิชา ล้วนแต่เป็นวิชาที่มีอันดับสูง
ชายที่ชื่อหลิวฟงเฉินดีใจมาก รีบถามว่า “คุณชายอู๋ ได้ตรัสรู้วิชาดาวกี่วิชา? และเป็นสีอะไร?”
อู๋เป่ยถามกลับว่า “สีที่ว่าหมายถึงอะไร?”
หลิวฟงเฉินอธิบายว่า ในชั้นกลางของดาวศิลป์นั้นคือวิชาดาวที่แสดงเป็นสีต่าง ๆ ตามระดับความยากง่าย ในบันทึกเก่าและประสบการณ์ของเขา วิชาระดับหนึ่งจะเป็นสีขาว ระดับสองเป็นสีเทา
แต่เขาไม่ได้พูดถึงวิชาที่ระดับสูงกว่านั้น เพราะมันยากมาก
อู๋เป่ยตอบว่า “ผมไม่เห็นวิชาระดับขาวหรือเทาเลย แต่ผมเห็นวิชาสีทองและสีม่วง”
หลิวฟงเฉินถึงกับตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น “สีทองและสีม่วง!”
อู๋เป่ยพูดว่า “ผมได้เรียนวิชาสีทองหลายวิชา และวิชาสีม่วงสองวิชา”
ชายหนุ่มนั้นยืนเหม่อไปอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะลั่นว่า “คุณชายได้วิชาสีทอง! ยอดเยี่ยม! สีทองเป็นวิชาระดับห้า ส่วนสีม่วงเป็นวิชาระดับหก!”
อู๋เป่ยถามว่า “มีระดับเจ็ดไหม?”
หลิวฟงเฉินส่ายหน้าอย่างจริงจัง “ไม่มี! สูงสุดคือหกระดับ! ตั้งแต่ก่อตั้ง ‘ประตูดาว’ มา มีเพียงไม่กี่คนที่ฝึกวิชาระดับสี่ และมีคนเดียวที่ฝึกระดับห้า แต่คุณชายฝึกวิชาระดับห้าหลายวิชา และตรัสรู้วิชาระดับหกสองวิชา! คุณชายคืออัจฉริยะอันดับหนึ่งของโลก!”
อู๋เป่ยเพียงพูดว่า “โอ้” แบบไม่ตื่นเต้นมากนัก เพราะแท้จริงแล้วเขาได้ตรัสรู้ในชั้นในบางส่วน และเข้าใจแก่นแท้ในแก่นแท้ด้วยซ้ำ
หัวหน้าผู้ปกครองยอดเขาดาวยิ้มอย่างสดใส บอกว่า “ตั้งแต่ตอนนี้ไป ฉันกับหลิวฟงเฉินจะเป็นผู้ติดตามของคุณชาย ช่วยเหลือให้คุณชายกลายเป็น ‘ดาวเจ้า’ รุ่นใหม่ของประตูดาว”
อู๋เป่ยดูเหมือนจะประหลาดใจ “ผมก็เป็นดาวเจ้าได้ด้วยเหรอ?”
หัวหน้าผู้ปกครองหัวเราะ “แน่นอน”
อู๋เป่ยถามต่อ “ถ้าอยากเป็นดาวเจ้า ต้องเข้าร่วมประตูดาวใช่ไหม?”
คำตอบคือ “ใช่ แต่ไม่ต้องห่วง หลังจากเข้าร่วมแล้ว คุณชายจะไม่ถูกจำกัดอะไรเลย กลับกันจะได้รับทรัพยากรมหาศาลจากประตูดาว”
เมื่อได้ยินคำว่าทรัพยากรมากมาย อู๋เป่ยจึงถามว่า “ทรัพยากรมากแค่ไหน?”
หลิวฟงเฉินตอบว่า “ถ้าคุณชายกลายเป็นดาวเจ้ารุ่นใหม่ จะได้แบ่งทรัพยากรหนึ่งในสามของประตูดาวร่วมกับดาวเจ้ารุ่นใหม่คนอื่น ๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
ทำไมบางตอนถึงสั้นจังครับ...
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...