บทที่ 418 เธอก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน
กลิ่นของน้ำหอมชนิดนี้พิเศษมาก คนธรรมดานั้นไม่ใช้กัน แต่ในบรรดาคนที่นรมนรู้จัก มีเพียงคนเดียวที่จะใช้น้ำหอมประเภทนี้
ตุลยา!
และก็พูดได้เช่นกันว่าบุริศร์ไปพบหน้าตุลยามาหรือ
เมื่อคิดถึงตรงนี้แล้ว นรมนก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ระหว่างบุริศร์และตุลยาก็เพิ่งจะมีเรื่องอื้อฉาวออกมาให้ผู้คนได้วิพากษ์วิจารณ์กัน แม้ว่าจะเชื่อมาตลอดว่าบุริศร์จะไม่ทำเรื่องอย่างการขืนใจตุลยาออกมา แต่เรื่องแบบนั้นก็ยังเหมือนกับว่ามีก้างปลาทิ่มแทงอยู่ที่ลำคอ เอาออกก็ไม่ได้ กลืนก็ไม่ลง ก็เหมือนกับกบกระโดดอยู่บนหลังเท้า ไม่ทำร้ายคน แต่ทำให้คนหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้ายอยู่ตลอดเวลา
สายน้ำในห้องน้ำไหลซู่ เป็นธรรมชาติที่บุริศร์จะไม่รู้เรื่องชัดเจน แต่ในใจนรมนกลับหนักอึ้งเป็นอย่างมาก
เธอเปิดหน้าต่าง มองคลื่นน้ำทะเลที่ขึ้นๆลงๆ ในใจก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีใยฝ้ายกองหนึ่งอัดแน่นอยู่ อย่างไรก็รู้สึกไม่สบาย
“ทำไมถึงเปิดหน้าต่างล่ะ ไม่หนาวหรือ ร่างกายของคุณเพิ่งจะดีขึ้นได้ไม่นาน อย่าถูกลมพัดเข้าเสียล่ะ”
ตอนที่บุริศร์เดินออกมาก็เห็นนรมนยืนอยู่หน้าบานหน้าต่างพอดี
ลมทะเลพัดผ่านเส้นผมยาวสยายของเธอ งามสง่าเป็นอย่างมาก แต่กลับทำให้คนรู้สึกเลือนรางอยู่บ้าง ตอนนี้ความคิดของนรมนวุ่นวายซับซ้อน ให้ความรู้สึกเหมือนเดาไม่ออก จับต้องไม่ได้ จนใจไม่สงบเป็นอย่างมาก
“คิดอะไรน่ะ”
เขาสวมกอดนรมนจากทางด้านหลัง
หยดน้ำกลิ้งจากปลายผม ตกลงสู่แผงอก
นรมนรีบปิดหน้าต่าง พูดบ่นว่า “ทำไมถึงไม่เช็ดผมให้แห้งก่อนแล้วค่อยออกมาคะ ไม่กลัวว่าจะเป็นหวัดหรือ”
“นี่ก็ไม่ใช่เพราะว่าคิดถึงคุณหรอกหรือ”
บุริศร์เกาะติดอยู่บนตัวของนรมน เหมือนกับเด็กน้อย บนร่างของเขามีกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำ ทำให้อารมณ์ของนรมนผ่อนคลายลงไม่น้อย
“ไปนั่งที่เตียงเถอะ ฉันจะช่วยเป่าผมให้คุณ”
นรมนไม่มีเกราะป้องกันต่อท่าทางแบบนี้ของบุริศร์เลยแม้แต่น้อย
“ได้”
บุริศร์ยิ้มระรื่น ยอมให้นรมนจัดการ
เมื่อหาไดร์เป่าผมเจอแล้ว นรมนก็ยืนเป่าผมให้เขาอยู่ข้างกาย
เส้นผมของบุริศร์นิ่มมาก ไม่เหมือนกับผู้ชายคนอื่น อ่อนนุ่มเสียจนทำให้นรมนที่เป็นผู้หญิงเกิดความอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย
มองไปยังบุริศร์อย่างละเอียด เครื่องหน้าได้รูปชัดเจน โดยเฉพาะนัยน์ตายาวดังนกการเวกคู่นั้น ยิ่งทำให้นรมนหลงใหลไม่มีที่สิ้นสุด
ตอนนี้เขากอดร่างของนรมนเอาไว้แน่น แนบใบหน้าเข้ากับท้องของเธอ ลมหายใจร้อนทำให้นรมนรู้สึกคันยิบๆเล็กน้อย ทั้งยังมีความรู้สึกชาวาบไหลวนไปทั้งร่าง
“อย่าเล่น อยู่นิ่งๆหน่อยค่ะ”
เสียงของนรมนแหบพร่าเล็กน้อย
แต่บุริศร์กลับยิ้มเจ้าเล่ห์
“ร่างกายของคุณดีขึ้นหรือยัง”
ในเมื่อบุริศร์ถามแบบนี้แล้ว จึงเป็นธรรมดาที่นรมนจะรู้ว่า เขาหมายความว่าอะไร แก้มเนียนแดงระเรื่อไปถึงลำคอในชั่วพริบตา
“ยังค่ะ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว คุณคิดเรื่องไม่ดีให้น้อยๆหน่อย”
“นี่เป็นความคิดที่ไม่ดีตรงไหนกัน ผมกำลังปรึกษากับคุณอยู่ไม่ใช่หรือ”
พูดแล้ว มือของบุริศร์ก็เริ่มอยู่ไม่สุขขึ้นมา
นรมนรู้สึกเพียงแค่ว่า ทั่วทั้งร่างถูกจุดไฟให้ร้อนขึ้นมา ความร้อนรุ่มเดือดพล่าน อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปตีเขา พลางพูดว่า “อย่าเล่น เหนื่อยจริงๆนะคะ”
บุริศร์เห็นใต้ตาของนรมนยังมีรอยดำคล้ำอยู่ ถึงได้เก็บความต้องการเอาไว้
“กลับไป ผมต้องไปถามคุณแม่ว่า ทำอย่างไรถึงจะทำให้สุขภาพของคุณดีขึ้น ไม่อย่างนั้นผมต้องเก็บกดจนตายแน่”
นรมนถมึงตาใส่เขา พลางเอ่ยว่า “คุณมีคนรู้ใจอยู่ด้านนอกไม่ใช่หรือคะ”
“มีที่ไหนกัน คุณอย่ามาใส่ร้ายผมนะ! ผมเป็นคนที่รักษาตัวให้รอดพ้นจากปัญหาวุ่นวายขนาดนี้!”
บุริศร์รีบแสดงจุดยืนทันที
น่าตกใจ!
คำพูดนี้ล้วนไม่สามารถพูดสุ่มสี่สุ่มห้าได้!
ยิ่งกว่านั้น ทำไมจู่ๆนรมนถึงได้พูดคำพูดแบบนี้ออกมากัน นี่ทำให้บุริศร์รู้สึกไม่คาดฝันอยู่บ้าง
นรมนมองบุริศร์ เห็นนัยน์ตาของเขาใสสะอาด เรื่องตุลยาค้างอยู่ในปากของเธอนานแล้ว สุดท้ายแล้วก็กลืนกลับลงไป
“ฉันก็แค่พูดไปอย่างนั้น ถึงอย่างไรช่วงนี้สื่อมวลชนก็นำคุณมาเป็นคนใหญ่คนโตเบอร์หนึ่งที่ต้องนำมารายงาน”
“คุณฟังสื่อมวลชนเนี่ยนะ”
บุริศร์ยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “หัวใจของผมนั้นดวงจันทร์และดวงอาทิตย์สามารถเป็นพยาน สวรรค์สามารถ.........”
“หยุด!”
นรมนทนไม่ไหวแล้ว
“คุณรู้สึกว่าน้ำเน่าหรือไม่คะ”
“คุณชอบฟังก็พอแล้ว”
ก่อนหน้านี้บุริศร์ไม่เคยรู้สึกว่าคำพูดหวานๆจะมีประโยชน์อะไร แต่นับตั้งแต่ตัวเองได้อยู่ด้วยกันกับนรมนแล้ว คำพูดพวกนี้เขายิ่งพูดก็ยิ่งคล่องปาก โดยไม่จำเป็นต้องไปเรียน สงสัยจริงๆว่า บุริศร์คนเก่าที่ไม่พูดและไร้ใจนั้นเป็นตัวเขาจริงๆหรือ
นรมนเป่าผมให้บุริศร์เสร็จแล้ว ก็พูดว่า “คืนนี้นอกจากน้ำซุบไก่แล้วยังมีอะไรอีกไหมคะ”
“คุณอยากกินอะไร ผมจะไปทำให้คุณ”
เมื่อได้ยินว่านรมนอยากจะกินข้าว บุริศร์ก็ลุกขึ้นยืน แต่กลับถูกนรมนกดให้นั่ง
“คุณเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ช่างมันเถอะค่ะ และก็ไม่จำเป็นต้องให้คุณทำเท่านั้น ให้ธิดาทำอะไรสักอย่างก็ได้แล้ว ฉันไม่ได้เอาใจยากขนาดนั้น”
วันรุ่งขึ้น บุริศร์ถูกโทรศัพท์สายหนึ่งเรียกออกไป
นรมนก็ไม่ได้ถาม และอยู่ภายในบ้านแค่คนเดียว
ตอนนี้ที่ไหนเธอก็ไม่ไปแล้ว คิดอยากจะตรวจสอบเรื่องอะไรก็ไม่สะดวก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะทำลายสถานการณ์แบบนี้ลงไปได้
ไม่สามารถนั่งรอความตายแบบนี้ไปตลอดหรอก
แม้จะรู้ว่าบุริศร์พยายามที่จะกลับคำพิพากษาให้กับตัวเองมาโดยตลอด แต่การหนีหรือหลบซ่อนแบบนี้ นรมนรู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆ
ดูท่า เธอต้องคิดหาวิธีเบนความสนใจของฝูงชนออกไปถึงจะดี
ในตอนที่นรมนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
เธอเพิ่งจะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ แต่กลับมีคนสามารถโทรศัพท์เข้ามาได้ นรมนก็รู้สึกประหลาดใจมากเช่นกัน
คนคนนี้จะเป็นใครกันนะ
นรมนลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่ก็ยังคงกดรับสาย
“นรมน ความรู้สึกในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ความรู้สึกที่หนูวิ่งข้ามถนน แล้วผู้คนต่างร้องให้รุมตีนั้นดีมากใช่หรือไม่”
เสียงคุ้นหูลอยมา ทำให้นรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ตังเม! ในที่สุดเธอก็โผล่หน้าออกมาแล้ว”
ไม่รู้ว่าทำไม ในใจของนรมนถึงได้ผ่อนคลายลงมาก
ถ้าหากว่าตังเมอยู่ในที่มืดตลอด เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร แต่ในเมื่อเธอติดต่อตัวเอง อย่างนั้นก็หมายความว่าเธอไม่มีความอดทนมากพอแล้ว
ขอเพียงแค่ตังเมมีความอดทนไม่มากพอ เธอก็มีร่องรอยให้ติดตาม
ตังเมได้ยินเสียงที่เรียบเฉยของนรมนแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยเสียงเย็นว่า “เธอคิดจริงๆหรือว่า บุริศร์จะปกป้องเธอไปตลอดชีวิต หรือเธอคิดว่า คำสาบานของผู้ชายนั้นน่าเชื่อถือขนาดนั้น คำว่ารักที่บุริศร์พูดกับเธอปาวๆนั้น แค่หันกลับไปก็มีเรื่องอื้อฉาวกับตุลยาโผล่ออกมาแล้วไม่ใช่หรือ”
“เธออยากจะพูดอะไร ก็พูดมาตรงๆ”
นรมนรีบเชื่อมต่อฐานข้อมูลโทรศัพท์ คิดอยากจะตรวจสอบตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของตังเม
เพียงแต่ว่าตังเมก็ไม่ใช่ตะเกียงไร้น้ำมัน อาจจะรู้แต่แรกแล้วว่านรมนจะทำแบบนี้ เธอเพียงแค่ยิ้มแล้วเอ่ยว่า “เมื่อวานตุลยากับบุริศร์ได้พบกัน เธอรู้ไหม พวกเขาพูดคุยอะไรกัน เธอรู้ไหม นรมน เธอเป็นคนโง่คนหนึ่ง คนที่โง่ที่สุดภายใต้ผืนฟ้านี้ เขมิกา ลูกสาวของฉันถูกบุริศร์หลอกลวง เธอก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน ในไม่ช้า เธอก็จะได้รู้ว่า ตัวเองโง่เขลามากขนาดไหน”
เอ่ยจบแล้ว ตังเมก็ตัดสายโทรศัพท์ไปอย่างรวดเร็ว
ทางด้านนรมนยังคงค้นหาตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของเธอไม่เจอ สัญญาณก็ถูกตัดไปแล้ว
ต้องพูดเลยว่า ตังเมนั้นกลับกลอกปลิ้นปล้อนมาก
นรมนบอกกับตัวเอง ไม่จำเป็นต้องไปสนใจคำพูดของตังเม ถึงอย่างไรเป้าหมายของตังเมก็คือ ให้ตัวเองไม่มีความสุข แต่หัวใจดวงนี้ก็รู้สึกแย่ขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่
เมื่อวานบุริศร์ได้พบกับตุลยา เป็นตังเมที่จัดการหรือ หรือว่าเป็นความต้องการของบุริศร์เอง
บุริศร์รู้อยู่แท้ๆว่าตัวเองรังเกียจที่เขากับตุลยาเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา แต่เมื่อกลับมาแล้วก็ไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้สักคำ เป็นเพราะอะไรกันแน่
เธอบอกตัวเองให้เชื่อบุริศร์ แต่กลิ่นน้ำหอมนั้นดูเหมือนว่าจะอบอวลอยู่ในจมูกของเธอ ไม่จางหายไป กระตุ้นประสาทรับกลิ่นของเธอ รบกวนจิตใจเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...