บทที่ 65 เธออย่าหาเรื่องเพิ่มได้ป่ะ
คนของนรมนตามพวกเขาตลอด ถ้าบุริศร์ทำอะไรละก็พวกเขาก็จะจัดการ แต่พวกเขากินข้าวเสร็จ กานต์ก็เดินออกมาอย่างไม่มีไร ทำให้ทุกคนงงไปหมด
แต่ก็ยังมีคนรู้สึกแปลกๆ รีบโทรให้นรมน
“คุณนรมน เขายังไม่ได้ทำไรคุณหนู ทั้งสองเตรียมเดินมาทางห้องผู้ป่วยแล้ว”
หลังนรมนวางสาย รู้สึกอึ้งมาก
นี้บุริศร์เขาหมายความว่าไง?
รู้ว่ากานต์เป็นใครแล้วก็ไม่ถามไม่ลงมือ ตกลงว่าเขาคิดว่าแผนไรอยู่?
ทิพย์มองนรมนที่มองไปนอกหน้าต่าง
“นรมน เป็นไงบ้าง?”
“บุริศร์ไม่ได้ลงมือกับกานต์และดีกว่าที่คิดด้วย เธอคิดว่าบุริศร์คิดยังไง?”
จุดนี้นรมนคิดไม่ออกจริงๆ
ผู้ชายที่โหดเหี้ยมที่รู้ว่าภรรยาตัวเองท้องก็ยังจะปล่อยไฟเผาอีก เขายังมีหัวใจอยู่หรอ? หรือว่าความเป็นพ่อยังอยู่?
จุดนี้ทิพย์ก็คิดไม่ออกเหมือนกัน
ทั้งสองที่กำลังพูดอยู่กานต์ได้วิ่งเข้ามา
“แม่ครับ ผมกินเสร็จแล้ว แม่กินเสร็จยัง?”
กานต์ที่แก้มแดงๆอย่างสุขภาพทำให้นรมนซึ้งใจมาก
“แม่ไม่หิวจ่ะ ยังไม่อยากกิน”
นรมนที่กำลังพูด บุริศร์ก็ได้เข้ามาพร้อมกับอาหาร และวางบนโต๊ะหล่อน
“อันนี้ย่อยง่าย และเธอก็ชอบกิน อีกแป๊บค่อยกิน”
เขาพูดจบก็กลับไปที่เตียงเขา
นรมนรู้สึกจับต้องอารมณ์เขาไม่ได้ตั้งแต่กลับมาที่เมืองชลธี
คุณหมอเข้ามาตรวจ ทิพย์ก็ได้พากานต์ออกไป
เห็นคุณหมอที่ตรวจอาการของบุริศร์หล่อนก็ได้แค่มองผ่านๆทำเหมือนมองไม่เห็น และเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นไม่พูดอะไร
“คุณบุริศร์จะต้องกินยาตามที่เวลากำหนดน่าจะไม่มีไรละ และของที่แพ้ก็ไม่ต้องไปจับอีก”
“เข้าใจละ”
เขาตอบ
คุณหมอก็ได้ไปตรวจหล่อน เห็นหล่อนดีขึ้นคุณหมอก็รีบออกไป
นรมนคงไม่รู้สึกว่าคนยังอยู่ในห้องอีกคน หล่อนเอากระดาษออกมาวาดรูป แต่ยังไงใจก็ยังไม่หยุดเต้นแรง ถึงเขาไม่อยากยอมรับ เหมือนมีคนมองหล่อน แต่หล่อนก็ทำใจนิ่งๆไม่ได้
หล่อนวางดินสอลง ดึงผ้าห่มห่มแล้วหันข้างเพื่อไม่เห็นหน้าเขา ถึงแม้จะนอนไม่หลับก็ไม่อยากสนใจเขา
เขามีอะไรจะพูดกับหล่อนมากมาย แต่เขาไม่รู้จะพูดยังไง
หล่อนเกลียดเขา
โทรศัพท์ดังขึ้น บุริศร์มองเบอร์โทรที่โทรเข้ามา แล้วมองหล่อน แล้วเอาโทรศัพท์ออกไปด้านนอก
ตอนที่เขาออกจากห้อง นรมนรู้สึกโล่งใจ
อยู่ห้องเดียวกับเขานี้กดดันจริงๆ
คุณหมอเดชาโทรมา
“เป็นไงบ้าง?”
บุริศรถามแต่ก็รู้คำตอบอยู่แล้ว
คุณหมอเดชาพูดเสียงต่ำ:“คุณบุริศร์ ผลออกมาแล้ว DNAเดียวกัน”
ถึงแม้เขาจะเดาออกว่านรมนเป็นภรรยาเขา แต่ตอนนั้นเขาตื่นเต้นมาก
“ไม่ผิดใช่มั้ย?”
“ไม่ผิดแน่นอน ผมรับประกัน”
คุณหมอเดชาทำงานให้ตระกูลโตเล็กหลายปี เขาก็เชื่ออยู่แล้ว
วางสาย เขาตื่นเต้นมากอยากวิ่งเข้าไปกอดหล่อนไว้แน่นๆ แล้วถามหล่อนว่าตกลงเป็นยังไง 5ปีนี้มันเกิดเรื่องไรขึ้น เขามองหล่อนอย่างเจ็บปวดอยู่ด้านนอก
หล่อนขดตัว เหมือนจะไม่ใช่เจ็บขา หน้าซีด
แต่หล่อนไม่พูดสักอย่าง ทนไว้
เขารีบพุ่งเข้าไปหา
“เป็นอะไร? เจ็บตรงไหน? ฉันไปเรียกหมอ”
หล่อนดึงมือเขาไว้
มือคู่นั้นเย็นจัดเต็มไปด้วยเหงื่อ
นรมนมองเขาอย่างเย็นชา :“เธอไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง โรคเก่ากำเริบ ทนๆเดี๋ยวก็หาย”
“ทนอะไร? อย่ามาอวดดีได้มั้ย? ฉันไปเรียกหมอ!”
“บุริศร์ เธออย่าหาเรื่องเพิ่มได้มั้ย?”
หล่อนโมโห
เหมือนหล่อนโมโหเขาตลอด
รอบนี้ที่กลับมา หล่อนดันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่
หล่อนรีบดันอารมณ์ตัวเองไว้ พูดเสียงต่ำ:“ฉันไม่เป็นไร เรียกไปก็เท่านั้น “
เขาเห็นความเกลียดในสายตาหล่อนในวินั้น เขาคิดว่าเขาอาจจะตายได้เพราะสายตาหล่อนด้วยซ้ำ แตาเพียงกี่วิความโมโหของหล่อนก็หายไปหมด
“ฉันสืบมาละ 5ปีมานี้รเมศอยู่ที่บริษัททางอเมริกาไม่กลับบ้าน เห็นเขาบอกว่ารเมศมีลูกสาวคนหนึ่งแต่ไม่มีใครเคยเห็นรู้สึกว่าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่โรงพยาบาลตลอด ไม่มีใครเห็นผู้หญิงคนนี้เลย รู้สึกว่าสนิทกับแคทเธอรีมาก”
สิ่งที่พฤกษ์แจ้งไปทำให้เขาค้างแป๊บ
“รเมศมีลูกสาว? ได้สืบว่าผู้ให้กำเนิดเป็นใครมั้ย?”
“ไม่มีข้อมูลเลย จู่ๆก็มีเด็กออกมา เด็กนั้นสุขภาพไม่ดี รเมศยอมรับลูกสาวเขา แต่ไม่ได้พูดไรมากกว่านั้น ที่เหลือเราก็สืบไรไม่ได้”
จุดนี้พฤกษ์ก็ท้อ
บุริศร์เงียบอีกครั้ง
“เข้าใจล่ะ พูดต่อเออใช่ ความลับของบริษัทเป็นไงบ้าง?”
คำของบุริศรทำให้พฤกษ์ขมวดคิ้ว
“เรื่องไหน?”
“แผนLG”
พฤกษ์รู้ว่าแผนนี้มันรวมไปถึงการทำงาน1ปีของบริษัทฮัวยูกรู๊ปจำกัด แต่ฝั่งตรงข้ามเจ้าเล่ห์มาก ก้าวเร็วกว่าพวกเขา
“ฝั่งตรงข้ามเป็นใคร?”
“เจตต์จากตระกูลรัตติกรวรกุล ”
เจตต์ไม่ถูกกับบุริศร์ ก็นับว่าเป็นตระกูลใหญ่ลำดับที่สองของเมืองชลธี เขาแข่งกับบุริศร์ตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือสาบานว่าจะแซงบุริศรให้ได้ แต่หลายปีมานี้ ก็อยู่ล่างตระกูลโตเล็กตลอด
วันนี้มีโอกาสดีๆ เจตต์ไม่พลาดแน่นอน
บุริศร์คิดไม่ถึงว่าคนที่ได้จะเป็นเจตต์
“สืบได้ยังว่าเจตต์ติดต่ออะไรกับใครในบริษัทเรา?”
“ไม่มี”
พฤกษ์ค้นแล้วก็ไม่พบคนในบริษัทเราจะเป็นไส้ศึก
บุริศร์มีไอเดีย เขาถามไปว่า
“สืบได้ยังว่าแคทเธอรีกับเจตต์มีความสัมพันธ์ไรกัน?”
พฤกษ์ก้ำกึ่งแต่พูดเสียงต่ำ:“ไม่ได้สืบออกมาว่าเขามีความสัมพันธ์ไรกัน แต่นักดีไซน์แคทเธอรีมาที่เมืองชลธีวันแรก ขึ้นเครื่องไฟท์เดียวกับเจตต์
บุริศร์คิด
พฤกษ์เห็นหน้าเขาแบบนี้ ไม่รู้ว่าตัวเองควรถามอีกมั้ย
บุริศร์มองไปที่ทิศห้องผู้ป่วย นึกถึงการกระทำของนรมน :“ไปสืบอย่างละเอียด”
“ได้!”
พฤกษ์จากไป แต่บุริศร์เหมือนมีก้อนหินก้อนใหญ่ทับใจเขาไว้
นรมนจะเป็นคนของเจตต์รึเปล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...