10 : อยากตายก็เข้ามาสิ
เสี่ยวหยวนน้อยเห็นคนวัยเดียวกันก็ใจชื้นขึ้นมา ยกมือขึ้นมาโบกส่ายเล่นกับเขา เด็กน้อยหลี่ซืออี้ยกมือโบกตอบกลับเขาด้วยความเขินอาย จี้ชิวหรงดึงมือน้อย ๆ ของบุตรชายลงแทบไม่ทัน
“เจ้าคือเหยาเอ๋อร์รึ”
หลี่หงซวนมองหลานสาวตนเองด้วยความประหลาดใจ เด็กน้อยขี้ขลาดขี้กลัวผู้นั้น ใช่คนตรงหน้านี้จริงหรือ
“เจ้าค่ะ ข้าคือเหยาเอ๋อร์ คำนับท่านปู่ท่านย่า ท่านพ่อแม่ใหญ่ ท่านลุงรองท่านป้าสะใภ้รอง” นางคำนับให้เพียงผู้อาวุโสเท่านั้น ส่วนคนอื่น ๆ ทำเพียงปรายตามองนิ่ง ๆ
“เหยาเอ๋อร์พวกเขาจะไล่เราออกจากเรือน” เฉาซูหลิ่งรีบฟ้องบุตรสาว
“เอ๋ ไล่ออกจากเรือน แล้วคืนนี้ข้าจะนอนที่ไหนกันเล่า” เสี่ยวหยวนน้อยเงยหน้าขึ้นมอง คนโน้นทีคนนี้ทีอย่างไม่เข้าใจ
“เด็กคนนี้คือ ?”
หลี่หย่วนเจ๋อจ้องเสี่ยวหยวนตาเขม็ง เขารู้สึกเหมือนได้พลาดบางอย่างไป
เสี่ยวหยวนรีบก้าวเท้าออกมาตรงหน้า
“คำนับท่านลุงข้าชื่อหลี่ชงหยวนขอรับ แต่ท่านแม่กับพี่หญิงใหญ่ มักเรียกข้าว่าเสี่ยวหยวน”
เจ้าก้อนซาลาเปาน้อยเจื้อยแจ้วสดใส ทำให้หัวใจของหลี่หย่วนเจ๋อกระตุกวาบด้วยความตกใจ
“เจ้าบอกว่าเป็นลูกของใครนะ”
“ก็ท่านแม่คนนี้ไงเล่า” เสี่ยวหยวนรีบเข้าไปจับข้อมือของมารดา แล้วเขย่าเล่นไปมา “ท่านลุงผู้นี้เข้าใจอะไรยากจัง” มีแอบบ่นเบา ๆ อีกด้วย
เฉาซูหลิ่งเม้มปากเข้าหากันแน่น น้ำตายังคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ๆ หลี่เมิ่งเหยาพอจะเดาสถานการณ์ออก มารดาของนางยังไม่ได้บอกคนตระกูลหลี่ เรื่องของเสี่ยวหยวน
“อนุเฉาเหตุใดเจ้าไม่บอกข้า !” หลี่หย่วนเจ๋อตวาดใส่นางเสียงดังลั่น
“ข้าห้ามไว้เองแหละ”
หลี่เมิ่งเหยายืดตัวตรง มองบิดาราวกับคนแปลกหน้า เด็กน้อยคนนั้นคงเป็นบุตรชาย ที่เกิดกับภรรยาเอกของบิดา
“ในเมื่อพวกท่านขับไล่ข้ากับท่านแม่ออกมาแล้ว คงไม่มีเรื่องให้ต้องเกี่ยวข้องกันอีก” บิดาของนางหน้าตาดีเพียงนี้ มิน่ามารดาของนาง ถึงเฝ้ารอคอยมาตลอดห้าปีเต็ม
“ดูลูกสาวของเจ้าสิหย่วนเจ๋อ ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ ไร้มารยาทสิ้นดี” ฮูหยินผู้เฒ่าสะบัดแขนเสื้อใส่หลี่เมิ่งเหยา สีหน้าแสดงออกว่า ไม่พอใจนางเป็นอย่างมาก
หลี่เมิ่งเหยาไม่ใส่ใจนาง หันไปมองทุกคนแล้วเอ่ยถาม
“เช่นนั้นข้าขอถามพวกท่าน พวกท่านจะไล่ข้ากับแม่และน้องชาย ออกจากเรือนหลังนี้ใช่หรือไม่”
หลี่หงซวนหันไปมองฮูหยินของตนเองเล็กน้อย ก่อนจะมองไปยังบุตรชายคนที่สาม มองเลยไปยังเสี่ยวหยวน แล้วหันกลับมามองหลี่หย่วนเจ๋ออีกหน
“หย่วนเจ๋อเจ้าต้องตัดสินใจเลือกแล้วล่ะ”
คนเป็นลูกได้ยินแล้วหลับตาลงแน่น ๆ “ท่านพ่อเด็กนั่นก็เป็นลูกชายของข้าเหมือนกัน”
จี้ชิวหรงกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ไม่คิดว่าเฉาซูหลิ่งจะคลอดเด็กผู้ชาย โดยไม่ส่งข่าวให้ตระกูลหลี่ได้รู้ เป็นเรื่องที่ผิดคาดจริง ๆ
“เช่นนั้นก็เก็บเขาไว้เถิด”
คำพูดนี้หลี่หงซวนเป็นคนเอ่ยออกมา
เฉาซูหลิ่งน้ำตาอาบหน้าในทันที
“ท่านพ่อเอ่ยเช่นนี้หมายความว่า จะไล่ข้ากับเหยาเอ๋อร์ออกไป แล้วให้เสี่ยวหยวนอยู่กับพวกท่านอย่างนั้นหรือ”
“เป็นเช่นนั้น” หลี่หงซวนพยักหน้ายอมรับตรง ๆ
“ข้าไม่ยินยอมนะเจ้าคะ เสี่ยวหยวนเป็นลูกชายข้า ข้าคลอดและเลี้ยงดูเขามากับมือ เหตุใดถึงมาพรากเขาไปจากข้า อีกอย่างไม่ใช่ว่าฮูหยินใหญ่ ก็มีบุตรชายแล้วหรือเจ้าคะ”
นับเป็นครั้งแรกที่หลี่เมิ่งเหยาได้เห็นมารดาในมุมนี้ มันต้องอย่างนี้สิ
“เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้ เจ้าแอบคลอดลูกชาย โดยไม่แจ้งข่าวกับตระกูลหลี่ ความผิดนี้ข้ายังไม่ลงโทษเลยนะ” หลี่หงซวนชี้นิ้วใส่หน้านาง สีหน้าเกรี้ยวกราดยิ่งนัก
เฉาซูหลิ่งไหนเลยจะกล้าต่อกรกับเขาได้ นางหลบอยู่ด้านหลังบุตรสาวอย่างหวาดกลัว
“ข้าว่าเรื่องนี้ให้เสี่ยวหยวน เป็นคนตัดสินใจเองเถอะ ว่าเขาอยากอยู่กับใคร” หลี่เมิ่งเหยาเอ่ยขึ้น เมื่อครู่ป้าหลูกระซิบเล่า ที่มาที่ไปของพวกเขา ให้นางฟังจนหมดแล้ว
“เหลวไหลมีใครเขาทำอย่างเจ้าว่า เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ต้องยุ่งเรื่องของพวกใหญ่” เป็นฮูหยินผู้เฒ่าตวาดใส่นาง
หลี่เมิ่งเหยาจึงหันไปเผชิญหน้ากับผู้เป็นย่าตรง ๆ
“ท่านย่าเจ้าคะ ตลอดห้าปีที่ผ่านมานี้ พวกท่านเคยส่งเสียเลี้ยงดูเสี่ยวหยวนหรืออย่างไร เหตุใดยามนี้ถึงได้อยากให้เขาอยู่ในตระกูลหลี่นักเล่า พวกท่านมีอะไรสามารถเลี้ยงดูเขาได้หรือ ลำพังตัวพวกท่านเองยังเอาไม่รอด ต้องมาแย่งเรือนของข้ากับท่านแม่”
หลี่หย่วนเจ๋อไม่คิดว่าบุตรสาวของตนจะหยาบคายถึงเพียงนี้ “เหยาเอ๋อร์เรือนนี้เป็นของเจ้าตอนไหนกัน !”
หลี่เมิ่งเหยาหันไปทางบิดา ใช้สายตามองประเมินเขา ก่อนจะหันไปทางน้องชาย “เสี่ยวหยวนเจ้าอยากอยู่กับพวกเขาหรือว่าอยู่กับข้ากับท่านแม่”
เสี่ยวหยวนไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราว แต่กลับตอบออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “พี่หญิงใหญ่กับท่านแม่อยู่ที่ไหน ข้าก็อยู่ด้วย”
หลี่หย่วนเจ๋อ “เจ้าไม่มีสิทธิ์พาเขาไป !”
“ใครสนกัน ! ป้าหลูลุงจงเก็บของ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง