หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 443

พ่อของหยินซู่ซู่ถอยหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความโศกเศร้า “ที่คุณพูดมาก็ถูก จี้หยกนี้นำพาหนะมาสู้ตระกูลหยิน ที่ยิ่งน่าเศร้าก็คือ ตระกูลหยินเหลือเพียงแค่เราสองคนแล้ว”

ก่อนหน้านี้ที่เฉินผิงได้ยินไป๋จ่านถังพูดกับหยินซู่ซู่ จี้หยกนี่ดูเหมือนจะนำพาปัญหามาให้ตระกูลหยินโดยที่พวกเขาไม่ต้องการ ตอนนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับเวลาแล้วว่าโศกนาฎกรรมนั่นจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่!

“พ่อคะ ไม่ต้องเป็นห่วง หนูขอสาบานว่าจะแก้แค้นคืนให้กับทุกคนในตระกูลหยินให้ได้!” หยินซู่ซู่ให้คำมั่นสัญญากับพ่อของเธอด้วยสายตาที่ลุกโชนไปด้วยความโกรธ

แต่พ่อของเธอกลับทำให้เธอต้องประหลาดใจ เขาส่ายหน้าแล้วพยายามจะบอกหยินซู่ซู่ว่าเธอไม่ควรทำแบบนั้น “ซู่ซู่ ลืมมันไปซะเถิด ตอนนี้พ่อเหลือลูกอยู่เพียงคนเดียว พ่อไม่อยากสูญเสียลูกไป เราไปหาที่สงบๆ เพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยกันสองคนเถอะนะ”

หลังจากพูดจบเขาก็ดึงจี้หยกออกจากมือของหยินซู่ซู่แล้วยื่นส่งให้เฉินผิง “ผมขอบคุณที่คุณช่วยชีวิตผมไว้ ผมคิดว่าจี้หยกนี่คงจะมีความหมายสำหรับคุณ คุณเป็นคนทำให้จี้หยกนี่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ผมจึงอยากจะมอบมันให้กับคุณ นับจากนี้ต่อไปจี้หยกนี่มันไม่มีค่าอะไรสำหรับพวกเราอีกแล้ว”

เฉินผิงรับจี้หยกมาโดยปราศจากความลังเลใจแม้แต่น้อย “ขอบคุณมากครับ ถ้าพวกคุณมีปัญหาอะไรก็เรียกหาผมได้ทุกเมื่อ ไม่ต้องเกรงใจไปนะครับ”

เฉินผิงจดหมายเลขโทรศัพท์ของเขาแล้วยื่นส่งให้หยินซู่ซู่กับพ่อของเธอ เขายังมอบเงินเอาไว้ให้ทั้งคู่อีกด้วย พอพวกเขาขอบคุณเสร็จหลังจากนั้นเฉินผิงก็จากไปทันที

อันที่จริงพวกเขาตั้งใจที่จะมาตำหนักยาเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บพ่อของหยินซู่ซู่ ในเมื่อเฉินผิงรักษาให้กับเขา พวกเขาจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพักอยู่ที่นี่อีกต่อไป อีกอย่าง ไป๋จ่านถังกับฉินเฟิงก็กำลังตามหาพวกเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย

เฉินผิงกลับมาถึงที่โรงแรมเมื่อท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีและพระอาทิตย์กำลังฉายแสง เฉินผิงไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่เพียงนิด เขาเริ่มเพาะเลี้ยงจี้หยกโดยหวังที่จะเปลี่ยนมันให้เป็นสุดยอดเครื่องมือป้องกันให้เร็วที่สุด ตราบใดที่ซูอวี่ฉีนำมันพกติดตัวไว้ แม้แต่พวกที่มีกำลังภายในระดับขั้นปรมาจารย์ก็จะไม่สามารถทำอันตรายอะไรเธอได้!

“เฉินผิง ตื่นไปกินอาหารเช้ากันได้แล้ว!” ซูอวี่ฉีบังเอิญมาเคาะประตูห้องเรียกเขาในขณะที่เขาเพาะเลี้ยงจี้หยกให้กลายเป็นสุดยอดเครื่องป้องกันพอดี

เขาไม่อยากให้ซูอวี่ฉีรู้ เลยแกล้งทำเป็นว่าเขาเพิ่งตื่นแล้วจึงก้าวออกไปเปิดประตูพร้อมกับปิดปากหาว

“ในเมื่อผมมีสาวสวยแบบคุณอยู่ข้างๆ คุณคิดว่ายังจะมีผู้หญิงคนไหนอยู่ในสายตาผมอีกงั้นหรือ? มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น ผมออกไปหาจี้หยกมาให้คุณ” เฉินผิงบอกกับเธอพร้อมกับหยิบจี้หยกที่สลักรูปมังกรสองตัวทำให้มันดูมีเอกลักษณ์ที่แปลกตาออกมา

ดวงตาของซูอวี่ฉีเป็นประกายตอนที่เธอจ้องมองจี้หยก เธอรับมันมาและตรวจสอบด้วยความระมัดระวังไม่พูดอะไรอีก ลึกๆ แล้วเธอเชื่อใจเขาและมั่นใจว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่ชอบแอบไปจีบใครลับหลังเธอ

หลังจากทานอาหารเช้า เฉินผิงก็ไปซื้อของเป็นเพื่อนซูอวี่ฉีกับกู่หลิงเอ๋อร์ตลอดทั้งวัน อันที่จริง เขาคิดว่าตำหนักยาอาจจะสร้างปัญหาอะไรให้กับเขา แต่น่าแปลกที่วันนี้ทั้งวันเขากลับเงียบสงบอย่างราบรื่น

วันถัดมาเป็นการเข้าร่วมงานชุมนุมเพื่อศิลปะการต่อสู้ ดังนั้น ทั่วทั้งตำบลเทียนเฟิงจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศที่แตกต่างออกไป มีการติดตั้งเวทีสูงเอาไว้ที่ด้านนอกของทางเข้าหลักของเมืองเพื่อใช้เป็นสนามประลอง

คนของตำหนักยารับผิดชอบเป็นผู้ดูแลยืนอยู่รอบๆ สนามประลอง ภายในสนามประลองมีเหล่าผู้เฒ่านั่งอยู่ด้านในฐานะคณะกรรมการผู้ตัดสิน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร