หยวนเป่าจงดึงเข็มกลับมาและจ้องหน้าเฉินผิงด้วยสายตาที่เยือกเย็น
“เด็กอย่างนายจะไปรู้อะไร? กล้าดียังไงถึงมาตั้งข้อสงสัยในคำวินิจฉัยของคุณหยวน? หากนายคิดว่านายแน่จริงก็ก้าวออกมาแล้วแสดงให้ดู แทนที่จะพูดจาสองแง่สองง่ามอยู่แบบนั้น กล้าไหมล่ะ?” โจวจ้าวหลงพูดอย่างโมโห
“โจวจ้าวหลง ฉันรู้ว่าคุณเฉินมีเหตุผลถึงกล้าพูดเช่นนั้นออกมา ฉันรู้ว่านายร่วมมือกับหยวนเป่าจงวางแผนหลอกลวงคนอื่น พวกแกมันนักต้มตุ๋นแล้วยังจะมีหน้ามาเรียกตัวเองว่าปรมาจารย์อีกเหรอ?” จ้าวอู๋ฉีจ้องหน้าเขา
เมื่อได้ยินคำพูดแรงๆ เช่นนั้น โจวจ้าวหลงอดไม่ได้ที่จะทำหน้าบึ้งตึง เขารู้สึกเสียวสันหลัง หยวนเป่าจงเองก็รู้สึกไม่ต่างอะไรกับเขา คำว่า ‘นักต้มตุ๋น’นั้นเปรียบเหมือนฟ้าที่ผ่าลงกลางหัวของเขา
เขาตัดสินใจร่วมมือกับโจวจ้าวหลงในครั้งนั้น เพราะเขาคิดว่าเรื่องเลวๆ ที่พวกเขาทำจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาอะไรตามมาภายหลัง พอเกิดเรื่องขึ้นในตอนนั้นเขาก็กลัวว่าชื่อเสียงของเขาจะถูกทำลายเพราะเฉินผิงได้เปิดโปงเรื่องที่เขาทำต่อหน้าทุกคน
เมื่อคิดเช่นนั้น เขาก็จ้องมองเฉินผิงด้วยสายตาที่อาฆาตแค้น ราวกับว่าเขาต้องการที่จะเฉือนเขาให้เป็นชิ้นๆ ตอนนี้เลย
“ในเมื่อพวกแกเรียกเราว่านักต้มตุ๋น ฉันคิดว่ามันคงไม่มีประโยชน์อะไรที่ฉันจะต้องรักษาลูกชายของคุณฉางต่อ หากพวกนายเก่งจริงก็ลองมารักษาเขาดูเองก็แล้วกัน”
จากนั้นหยวนเป่าจงก็หมุนตัวแล้วถอยไปยืนข้างๆ ความจริงแล้ว เขามีความหวังว่าจะรักษาฉางหยวนได้ เพราะเขาหาสาเหตุของอาการพบแล้ว แต่เขาก็พยายามทำให้เรื่องมันฟังดูเลวร้าย เพราะเขามีเจตนาอยากให้ฉางหยวนจุนรู้สึกวิตกกังวลมากกว่าเดิม เพื่อที่จะทำให้เขาเห็นคุณค่าของหยวนเป่าจงและโจวจ้าวหลงมากขึ้นนั่นเอง
ในเมื่อเฉินผิงไม่เห็นด้วยกับการวินิจฉัยโรคของเขา หยวนเป่าจงจึงถือโอกาสปล่อยให้เขาได้ลองรักษาอาการของฉางหยวนแทน เขาคิดว่าเฉินผิงคงไม่มีความสามารถมากพอที่จะเอาพิษออกจากร่างกายของเด็กหนุ่มได้อย่างแน่นอน และการรักษาก็จะล้มเหลวอย่างไม่ต้องสงสัย จากนั้น เขาก็จะยืมมือของฉางหยวนจุนกำจัดเฉินผิงทิ้งไป
ฉางหยวนจุนรู้สึกวิตกกังวลมากกว่าเดิม เมื่อเห็นหยวนเป่าจงล้มเลิกการรักษา “คุณหยวน คุณไม่ต้องสนใจคำพูดของคนอื่นหรอกครับ ที่สำคัญคือผมมั่นใจในฝีมือของคุณ ได้โปรดรักษาฉางหยวนต่อเถอะนะครับ”
เขายอมถ่อมตัวลงเพื่อลูกชายของเขา
อย่างไรก็ตามเขาไม่คาดคิดว่าเฉินผิงจะเป็นคนที่หลงตัวเอง แถมยังตั้งข้อกังขาต่อการวินิจฉัยโรคของหยวนเป่าจงอีก ใครเห็นเช่นนั้นก็คงจะต้องรู้สึกรำคาญใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“คุณฉาง…” เมื่อเห็นว่า ฉางหยวนจุนเกิดอาการโมโหอีกครั้ง จ้าวอู๋ฉีก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาทันที
“พอได้แล้ว มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรอีกแล้ว พวกคุณสองคนออกไปได้แล้วอย่ามารบกวนคุณหยวน” ฉางหยวนจุนโบกมือไล่ในขณะที่ออกคำสั่งด้วยสีหน้าที่เย็นชา
มันไม่สำคัญว่า เฉินผิงจะมีความรู้เรื่องการรักษาโรคจริงหรือไม่ สำหรับฉางหยวนจุนแล้ว เด็กหนุ่มอายุเพียงแค่ยี่สิบต้นๆ ไม่มีอะไรจะมาเทียบหยวนเป่าจงได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสามารถ หรือประสบการณ์ก็ตาม
โดยพื้นฐานแล้ว ฉายานักเวทย์มือหนึ่งในจงตูคงไม่ได้ถูกตั้งขึ้นมาเล่นๆ เท่านั้น หยวนเป่าจงต้องมีผลงานที่โดดเด่นมากพอที่จะได้รับฉายานั้นมาอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
8เหรียญเท่ากับกี่บาท...
ไม่มีบีตรเครดิตก็ต้องรออ่านแบบฟรี รอนานหน่อย...
กำลังสนุกเลย ไปไหนแล้ว รีบกลับมานะคะรับ...
รอจะอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้อ่าน แต่ไม่เป็นไรครับเราไม่ได้อ่านคุณก็ไม่ได้รายได้...
ไม่มีตอน 3867-3871 ครับ...
เกินเดือนละ...
รออยู่นะครับ...
จะลงแดงแล้ว...
หายไปหลายวัน ไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...