หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 1563

รษิกาอธิบายว่า “ฉันบอกคุณไปก่อนหน้านี้แล้วว่าไม่เกี่ยวอะไรกับเขา เขาไม่ได้รู้เลยด้วยซ้ำว่าวันนี้ฉันมาที่นี่”

เธอพยายามควบคุมความรู้สึกแปลกๆ ในใจเธอ และทำใจเย็นขณะที่จ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า “คุณเจตนินคะ ที่คุณทำแบบนี้ก็เพื่อต้องการเพิ่มผลกำไรให้ดำรงกุลกรุ๊ปใช่ไปม? แต่น่าเสียดายนะคะที่ฉันไม่สามารถยอมรับที่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ได้ ในเมื่อมันเป็นอย่างนั้น ทำไมเราไม่ลองมาพบกันครึ่งทางล่ะคะ?”

เจตนินเยาะ “เพื่อเห็นแก่คุณ ผมหวังว่ามันจะจริงนะที่คุณเลอศิลป์ไม่รู้เรื่องที่เรามาพบกันวันนี้ ไม่อย่างนั้น เขาก็น่าจะโผล่มาระหว่างที่เราคุยกันแล้ว ผมก็ไม่คิดว่าเรามีอะไรที่ต้องคุยกันอีก”

เพราะไม่อยากได้ยินชื่อเลอศิลป์หลุดออกมาจากปากเจตนินอีก เธอจึงตัดบทไปว่า “แค่บอกฉันมาค่ะ ว่ากำไรที่น้อยที่สุดที่คุณรับได้อยู่ที่เท่าไร? คุณเจตนิน”

เจตนินตอบคำถามไปอย่างไม่ลังเล “ผมบอกไปก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว แม้ว่าดำรงกุลกรุ๊ปจะไม่ได้ครองส่วนแบ่งสูงสุด แต่อย่างน้อยก็จะต้องแบ่งกันกับสถาบันวิจัยคนละครึ่ง”

รษิกากดดันต่อไปโดยไม่มีท่าทีว่าจะยอมแพ้ “เราจ่ายค่าสมุนไพรที่ดำรงกุลกรุ๊ปหามาให้ได้เป็นสามเท่าของราคาตลาด ส่วนเรื่องช่องทางการขาย เราก็หาบริษัทอื่นมาร่วมมือได้นะคะ นี่แปลว่าการร่วมมือระหว่างสถาบันกับดำรงกุลกรุ๊ปนั้นเป็นแค่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นในภายหลังเป็นเพียงความสัมพันธ์ทางการค้าเพียงอย่างเดียว บอกฉันสิคุณเจตนิน ทำไมฉันจะต้องแบ่งกำไรคนละครึ่งกับคุณด้วย?”

เช่นนั้น เจตนินก็กล่าวว่า “เพราะตอนนี้ คุณคือคนที่ต้องมาอ้อนวอนกับผมไงล่ะ”

เขาแน่ใจว่าเขาคือคนที่ถือไพ่เหนือกว่าอยู่ในขณะนี้ และเขาคิดว่ารษิกาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมทำตาม

รษิกากล่าวว่า “สามสิบเปอร์เซ็นต์ นั่นมากที่สุดที่เราทำได้แล้วค่ะ”

เมื่อเจตนินได้ยินเช่นนั้น สีหน้าเขาก็หม่นไปในทันที น้ำเสียงเขาเจือไปด้วยการเสียดสีเมื่อพูดว่า “ถ้างั้น ผมไม่คิดว่ามีความจำเป็นอะไรที่เราต้องคุยกันอีก คุณรษิกา”

คราวก่อนที่เราเจอกัน เธอตั้งเป้าไว้ว่าให้ดำรงกุลกรุ๊ปรับกำไรที่ยี่สิบแปดเปอร์เซ็นต์ ทำให้เราแยกกันไปไม่ดีเท่าไรนัก แล้วตอนนี้ เธอยังมีหน้ามาเพิ่มให้แค่สองเปอร์เซ็นต์เท่านั้นเหรอ? ถ้าแบบนั้น ก็คุยกันทางโทรศัพท์ไปก็ได้

ข้อกำหนดด้านคุณภาพสำหรับยาประเภทนี้เข้มงวดมาก เป็นไปได้ยังไงที่รษิกาจะหาผู้จัดจำหน่ายรายอื่นได้แล้ว? อืม... แต่เมื่อมาคิดดูแล้ว เลอศิลป์ก็เข้าร่วมการเจรจาครั้งก่อนด้วย แม้ว่าฟ้าศิริสวัสดิ์กรุ๊ปจะไม่เคยคลุกคลีในวงการยามาก่อน แต่ก็ไม่ได้ขาดความเชื่อมโยงในด้านนี้ หากเลอศิลป์เสนอความช่วยเหลือ ก็เป็นไปได้ที่สถาบันวิจัยจะหาผู้จัดจำหน่ายรายอื่นได้ในเวลาอันสั้น

เมื่อคิดได้เช่นนั้น สีหน้าเจตนินก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม แต่เขาก็พยายามซ่อนมันไว้อย่างรวดเร็ว

เช่นนั้นแล้ว ทั้งสองก็มาถึงทางตันขณะที่พวกเขาเงียบเพื่อดูว่าใครจะยอมจำนนก่อน

เวลาผ่านไป และเจตนินก็เป็นคนแรกที่หมดความอดทน

เขากล่าวว่า “ในเมื่อคุณหนักแน่นขนาดนี้ และยานั้นก็มีความสำคัญต่อดำรงกุลกรุ๊ปมาก เราถอยกันคนละก้าวดีกว่า ดำรงกุลกรุ๊ปจะรับแค่สี่สิบเปอร์เซ็นต์ขณะที่สถาบันรับหกสิบเปอร์เซ็นต์ของผลกำไร”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม