จักรภพเห็นว่ารษิกาเป็นกังวลและเขาก็พอจะเดาออกว่ารษิกากังวลเรื่องใด ดังนั้นเขาจึงใช้ถ้อยคำใหม่เพื่อเกลี้ยกล่อมเธออีกครั้ง “คชาเรศกรุ๊ปจะไม่มีวันแตกหักกับฟ้าศิริสวัสดิ์กรุ๊ปเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้หรอกครับ และผมก็ไม่ยอมเอาคชาเรศกรุ๊ปมาเสี่ยงเช่นกัน ผมคิดและเตรียมการมาเป็นอย่างดีแล้วก่อนที่จะมาหาคุณหมอในวันนี้”
ความลังเลใจบนใบหน้าของรษิกาค่อยๆ จางหายไปขณะที่เธอจ้องมองท่าทางมั่นใจของเขา ถึงกระนั้นเธอก็ไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้ถามเขาออกไปได้จริงๆ “ว่าแต่ทำไมคุณถึงช่วยฉันคะ? เป็นเพราะฉันช่วยรักษาอาการป่วยของคุณอัครพลหรือเปล่า?”
เมื่อจักรภพคิดถึงบทสนทนาของเขากับเลอศิลป์เมื่อคืนก่อน ความคิดที่เขามีต่อรษิกาเมื่อสบตาเธอก็เปลี่ยนไป
รษิการู้สึกแปลกๆ เธอจึงจ้องเขากลับ
จากนั้นไม่นานจักรภพพูดออกมาช้าๆ ว่า “คุณปู่ของผมนอนติดเตียงมาหลายปีแล้ว ครอบครัวเรารู้สึกขอบคุณคุณหมอมากที่ช่วยให้อาการของเขาดีขึ้นได้ขนาดนี้ อีกอย่างคุณคือคนที่เคยพูดมาก่อนว่าปู่ของผมใกล้จะตายแล้วใช่ไหม แต่เมื่อคุณรับเขาเป็นคนไข้ คุณกลับเป็นผู้ช่วยชีวิตเขาจากความตาย นี่เป็นความกรุณาที่ยิ่งใหญ่ที่คุณทำต่อตระกูลคชาเรชและคุณปู่ของผมยังคิดว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา เขาเลยขอให้ผมช่วยดูแลคุณเป็นพิเศษ”
จู่ๆ รษิกาก็นึกถึงเรื่องที่อัครพลพยายามจับคู่ให้เธอกับจักรภพ
เมื่อได้ยินคำพูดของจักรภพ เธอก็เริ่มสงสัยว่าอัครพลยังไม่ยอมแพ้ในเรื่องนั้นอีกหรือ
จากนั้นเธอก็มีสีหน้าขอโทษขณะที่เธอบอกกับจักรภพอย่างเคร่งขรึมว่า “ฝากขอบคุณคุณอัครพลแทนฉันด้วยนะคะ หน้าที่ของฉันในฐานะแพทย์คือการรักษาและช่วยชีวิตผู้ป่วยอยู่แล้ว นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้รับอะไรตอบแทน ตระกูลคชาเรศจ่ายค่ารักษาให้ฉันตั้งเยอะพวกเราจึงไม่ได้เป็นหนี้อะไรซึ่งกันและกันหรอกค่ะ คุณอัครพลไม่เห็นจำเป็นต้องเก็บเรื่องนี้มาใส่ใจเลย”
หลังจากเงียบไปสองสามวินาที รษิกาก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง “อีกอย่าง ฉันมีลูกสองคนแล้ว ฉันได้ปฏิเสธความหวังดีและข้อเสนอของคุณอัครพลไปแล้วตั้งแต่ครั้งก่อนที่เราเจอกัน และฉันแน่ใจว่าคุณคงไม่เห็นด้วยเหมือนกัน”
ท่าทางโกรธเคืองปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจักรภพ ทำไมเธอถึงเข้าใจคำพูดที่ฉันจะสื่อผิดเพี้ยนไปได้ขนาดนี้นะ? เลอศิลป์เองก็เข้าใจคำพูดของฉันผิดเมื่อฉันคุยเรื่องนี้กับเขาเมื่อคืนนี้ ตอนนี้รษิกาก็กำลังเป็นแบบเดียวกันเหรอเนี่ย
จักรภพใช้เวลาครู่นึงก่อนที่เขาจะสลัดความโกรธเคืองที่เขากำลังรู้สึกอยู่ออกไป จากนั้นเขาก็อธิบายให้รษิกาฟังอย่างขบขันว่า “ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนั้นหรอกครับ คุณปฏิเสธเขาไปแล้ว คุณปู่ของผมจะยังยืนกรานได้ยังไงกัน หลังจากที่คุณหมอช่วยชีวิตคุณปู่ของผมและผมได้รู้จักคุณหมอมากขึ้น พวกเราเลยรู้สึกว่าตระกูลคชาเรศควรผูกมิตรกับคนแบบคุณหมอก็เท่านั้น”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น รษิกาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและยิ้มให้เขา “ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็เห็นด้วยค่ะ คุณจักรภพ ไม่ว่าผู้จัดจำหน่ายสมุนไพรไม่กี่รายที่คุณกล่าวถึงจะร่วมงานกับเราไหม แต่ฉันก็ยังคงรู้สึกขอบคุณครอบครัวคชาเรศอยู่ดีที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเรา ให้ฉันเลี้ยงอาหารตอบแทนคุณสักครั้งได้ไหมคะ?”
จักรภพยิ้มออกมาอย่างแจ่มใสไม่แพ้รษิกาเลย "ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นครับ ผมจะตอบแทนอาหารมื้อนั้นที่คุณจะเลี้ยงด้วยการโน้มน้าวผู้จัดจำหน่ายสมุนไพรเหล่านั้นให้สนับสนุนคุณให้ได้ คุณหมอรษิการอข่าวดีจากผมได้เลย!”
จากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกันอีกเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องผู้จำหน่ายสมุนไพรก่อนที่จักรภพจะลุกขึ้นยืนและจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม
👍🏻...
....
จบดื้อๆเฉยๆ งงมากค่าาาา...
ขาด 1867,1868...
ขาด1860, 1861...
ขาด1804...
อัพๆๆ ค่ะ แอดดดดดดด แอดดดดดดดด อัพๆๆๆ ค่ะ แอดดดดด ^_^...
ขาด1773,1774...
ขาด1768,1770...
ขาด1663,1664,1665,1666,1668...